บิ๊กตู่

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. เวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีรายชื่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 5 คนในใจแล้ว

เมื่อถามว่ามีชื่อนายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานส.ว.หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่เห็นชื่อท่าน เมื่อถามว่าสามารถเปิดเผยรายชื่อได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยัง เดี๋ยวไม่ตื่นเต้น ตรงนี้เป็นเพียงการเอารายชื่อเสนอขึ้นมาและเราจะไปพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งจะได้คำตอบชัดเจนในวันที่ 4 พ.ย.นี้   วันนี้สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ก็ไปเตรียมในส่วน 20 คน และในส่วนของครม.และคสช. อีก 10 คน และยังมีสนช.อีก ดังนั้นทั้งหมดนี้จะส่งรายชื่อมาพิจารณามากกว่าจำนวนที่เขามีอยู่ และเราจะมาเขย่าอีกที แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องเป็นมติของคสช.ที่ต้องคุยกันอีกครั้งหนึ่ง

“ขอให้เข้าใจว่า เราไม่ได้เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อจะไปอะไร อย่างไร  ขอให้แยกจากกัน  ถ้าใครทำผิด  ทำทุจริต มีการพิจารณาคดีเรียบร้อย คนเหล่านี้ก็เข้ามาไม่ได้อยู่แล้ว  แต่ถ้ายังไม่มีความผิด หากมีการเลือกตั้ง เขาก็ต้องเข้ามาเลือกตั้ง ก็เป็นธรรมดา จะไปเขียนดักหน้าดักหลังใครคงไม่ใช่ จะทำให้ทะเลาะกันอีก เพราะฉะนั้นไปดูว่าใครผิด ใครถูก และศาลตัดสินว่าอย่างไร  ป.ป.ช.ตัดสินอย่างไร  ถ้ามีการตัดสินความผิดแล้ว คนเหล่านี้ก็เข้ามาไม่ได้อยู่แล้ว”นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการทำงานของสปช.ในปัจจุบัน ได้ให้แนวทางไปว่าให้นำหลักการที่ว่า ทำก่อน ทำจริง ทำเห็นผลทันที มีผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน ไปใช้ ดังนั้นการทำงานของ คสช. ครม. สนช. และสปช.ต้องประสานสอดคล้องกันว่าจะทำอย่างไร ให้บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนได้มากที่สุด และสปช.จะนำเรื่องที่สำคัญที่ทำแล้วเสร็จโดยเร็วทำให้ได้ข้อยุติเพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมสนช.ออกเป็นกฎหมาย จะได้ทำได้เลย อันไหนที่ต้องปฏิรูปใช้เวลานานๆ ต้องใช้เวลาในช่วงท้ายๆ ไปจัดระเบียบอะไรก่อนอะไรหลัง ทำให้เกิดผล ประชาชนจะจับต้องได้โดยเร็ว นี่คือวัตถุประสงค์ในการตั้ง สปช.

“การตั้งสปช.อยากเรียนว่าไม่ใช่ว่าหลายคนไปมองว่า ทั้งสนช. สปช. ตั้งเอง ชงเอง กินเอง เราไม่ได้มีอะไรกินกันตรงไหนเลย หรือการไปสร้างเพื่อเอื้อประโยชน์กับใคร ยังไม่เห็นช่องทาง มันไม่น่าจะเป็น เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือการเอาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เอาอะไรที่ไม่ยั่งยืนไปเป็นโจทย์ ต้องแก้โจทย์ตรงนี้ให้ได้ก่อน จะไปได้ประโยชน์กับใครผมไม่รู้ ทุกคนก็มีทั้งผู้ประกอบการ ประชาชน ทั้งรัฐบาล ก็มีส่วนร่วมทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องหารือหาทางออกให้ดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหา”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)เมื่อวันที่ 27ต.ค.ที่ผ่านมาเพื่อหารือแนวทางการเลือกบุคคลไปเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในโควต้าของสปช.จำนวน 20คน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของสปช. ซึ่ง บรรยากาศการประชุมตอนต้นอาจมีสะดุดเพราะข้อบังคับก็ยังไม่มี กติกาก็ยังไม่มี และมีสมาชิกมาจากหลายที่ จึงตะล่อมความคิดตรงกันยาก ซึ่งเราก็ไม่ได้หวังไปตะล่อมอะไรเขาอยู่แล้ว และเชื่อว่าแต่ละองค์กรก็มีวิธีพิจารณาเลือกบุคคล

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สัดส่วนกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)นั้นมีสัดส่วนน้อยก็คงจะคิดง่ายหน่อย แต่สปช.มีโควต้าเยอะ 20คน และคนมาจากหลายที่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนครม.กับคสช.ไม่ยุ่งยากเพราะมีโควต้า5คน อย่างไรก็ตามในส่วนของครม.ยังไม่ได้มีการหารือ และจะมีการหารือในวันที่ 4พ.ย.นี้ ในการประชุมร่วมกันระหว่างคสช.กับครม.

เมื่อถามถึงรายชื่อแคนดิเดตในสัดส่วนของครม.5คนที่ปรากฏออกมาตามสื่อ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูกเพราะตนตอบไปหลายครั้งแล้วว่าต้องฟังสนช. สปช. ซึ่งพิจารณาก่อนนั้นว่าเลือกใครไปแล้ว บางทีครม.คิดแต่สนช.กับสปช.เลือกไปแล้วชื่อก็จะไปซ้ำกัน ซึ่ง1-2วันที่ผ่านมาก็พบว่ารายชื่อซ้ำไป1-2คนแล้วที่สัดส่วนอื่นจะเสนอ และก็ไม่รู้ว่าชื่อที่ซ้ำกันสัดส่วนอื่นเขาจะเลือกหรือไม่ ถ้าเขาเสนอก็ต้องยกโควต้าให้เขา ส่วนครม.ก็ต้องมาคิดทีหลัง


ขอขอบคุณข่าวจาก