โตโน่ ภาคิน

โตโน่ ภาคิน

จากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แตงโม ภัทรธิดา กินยานอนหลับเกินขนาดหวังให้ตัวเองตายด้วยสาเหตุที่เจ้าตัวบอกว่าไม่ขอรับรู้อะไรอีกแล้ว และวานนี้ (7 ก.ค.) แตงโม ได้แถลงข่าวทั้งน้ำตาและขอโทษที่ทำเรื่องโง่เขลาลงไป นอกจากนี้ แตงโม ยังได้เปิดใจถึงความรักที่ตนเองมีต่อ โตโน่ พร้อมกับบอกว่า โตโน่ เป็นฝ่ายเลือกที่จะเดินออกจากบ้านไปเอง

“หนูส่งอะไรไปเขาอ่าน แต่ไม่เคยตอบ 3 เดือนได้แล้วมั้งคะแต่ทุกครั้งที่เราให้สัมภาษณ์ เราบอกห่างกัน แต่ไม่มีใครพูดหย่าร้างจากปากเลย เลยทำให้ไม่สามารถพูดตรงไหนได้ และไม่รู้จะตัดสินใจยังไง หนูไม่รู้ว่าจริงๆ คำตอบคืออะไร เราเลิกกันแล้วหรือยัง หนูสับสน” นี่คือสิ่งที่ แตงโม เฝ้าถามและอยากจะรู้ความในใจจากปากของผู้ชายที่เธอรักมากที่สุด

ล่าสุดวันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. โตโน่ ภาคิน ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ อาคารจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ โดยมีทัพสื่อมวลชนมารอทำข่าวเป็นจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวบันเทิง Sanook! News รายงานว่า ตอนนี้ 16.55 น. “โตโน่” กำลังเดินทางมาถึงห้องแถลงข่าว และเมื่อเวลา 17.15 น. “โตโน่” เดินทางเข้าห้องแถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับเปิดใจแบบหมดเปลือกว่า

“ผมดีใจนะที่เขาปลอดภัย ผมได้โทรไปคุยกับผู้จัดการของโม และโทรไปหาคุณพ่อ ก่อนหน้านี้เวลาที่ทะเลาะกันอาจจะมีบ้างที่จะทำแบบนี้ พอเราเลิกกันเราไม่ได้ไปอยู่ตรงนั้น”

“ผมมารู้ข่าวช่วงประมาณ 1 ทุ่ม เพราะเห็นภาพในอินสตาแกรม ตอนนั้นจริงๆ ผมเองก็เป็นห่วงเขา”

“คนสองคนพยายามทำความรักให้มันดี ไม่ว่าจะด้วยเวลาหรืออะไรก็ตาม เมื่อมันจบลงไม่สวยงามอาจจะต้องเสียใจ ไม่มีใครมีความสุข โม พ่อโม คุณแม่ผม”

“สาเหตุมาจากผม ผมขอโทษครับ ไม่ว่าจะกระทบใจใคร ผมผิดเองผมขอโทษตลอดระยะเวลาที่เลิก ที่โมส่งข้อความมา บางข้อความผมตอบและไม่ได้ตอบ”

“สถานะตอนนี้คือ เลิกครับ”

“ส่วนข้าวของเขาก็บอกว่าอย่าเพิ่งเข้าไปเอา เพราะเขากลัวว่ามันจะทำให้ใจหวิว ผมก็เลยยังไม่เข้าไปเอาครับ”

“ตอนนี้ผมยังเป็นคริสเตียนครับ ผมรู้สึกว่าคนมีสิทธิ์เลือกที่จะศรัทธา อยู่ที่ตัวของบุคคลคนนั้น”

“สาเหตุหลักๆ ของการเลิกกัน เราไม่ต้องไปพูดถึงหรอกครับ ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับใคร ไม่ต้องการให้ใครมาเข้าใจผมมากขึ้น”

“ส่วนเรื่องกระแสที่ว่าผม ผมเข้าใจครับ แล้วผมก็อยู่กับมันได้”

“เรื่องข่าวที่โม โยนข้าวของผมออกจากบ้าน ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดครับ ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้”

“ความรักมันยิ่งใหญ่กว่าเงินทองในสิ่งที่ผมเลือก ตอนคบกันโมทำให้ผมมีความสุขเยอะแยะ ไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ๆ”

“โมเป็นคนรักของผม ผมไม่เคยคิดจะทำร้ายโม ผมเชื่อว่าไม่ว่าจะพูดดีอย่างไร มันก็ต้องมีบางประโยคที่อาจจะกระทบ แต่เขาก็ต้องเข้มแข็ง”

“ก่อนหน้านี้เราคุยกันครับ มันไม่มีใครหรอกว่าอยู่ดีๆ เราจะเดินออกมาจากชีวิตคนรัก เราต้องคุยกันอยู่แล้ว”

“ถ้าเขาบอกว่าผมบล็อกไลน์ ผมก็คงบล็อกล่ะครับ”

“ถ้าเขาอยากให้ผมกลับไป ผมกลับไปได้นะครับ แต่ไม่ได้ในฐานะเดิม”

“ซึ่งมันไม่ได้หมายความว่าผมเกลียดเขานะ แค่ช่วงนี้มันยังไม่ใช่เวลา อย่าลืมนะครับเราต้องนึกถึงหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ด้วย”

“ผมไม่อยากให้ใครมาสงสารหรืออ่อนแอ วันนี้ผมจำเป็นต้องยิ้ม จำเป็นต้องเข้มแข็ง เพื่อให้คนรอบข้างรู้สึกเข้มแข็งไปกับผม”

“รอยสักผมไม่เคยคิดจะลบครับ เพราะวันหนึ่งผมเคยรักผู้หญิงคนนี้เท่ากับชีวิตของผม ผมไม่เคยคิดจะโกหก”

“เรื่องความรักไม่ใช่เรื่องของคนสองคนครับ มีพ่อแม่ที่เราต้องดูแลและรับผิดชอบด้วย”

“ผมยังภูมิใจว่าได้รักเขา วันนึงมันเลิกมันก็คือเลิก ไม่มีใครรู้หรอกครับ มันไม่ใช่หน้าที่ที่คนรักมันจะมานั่งว่ากันว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้”

“ถามว่าวันที่ผมพูดบนคอนเสิร์ตมันเป็นต้นเหตุของเหตุการณ์นี้ไหม ผมยอมรับว่าผมผิดครับ ผมโง่เอง ที่ไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของเขาที่ต้องรับฟัง”

“เราเคลียร์กันจบนานแล้วนะครับ แต่ถ้าหากเขายังไม่สบายใจ และถ้าผมไปแล้วเขาดีขึ้น ผมก็จะไปครับ”

“คำพูดที่เขาบอกว่าจะเดินหน้าง้อทุกวิถีทาง เอ่อ…อันนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของผมนะครับ เพราะในวันที่เราได้จับมือกัน เราได้รักกันเราควรทำให้ทุกอย่างมันดีที่สุด เพราะถึงยังไงวันนี้มันก็กลับไปไม่ได้แล้ว”

“สุดท้ายผมอยากให้เขานึกถึงครอบครัว นึกถึงคนที่เขารักให้มากที่สุด ทำหน้าที่ของเราตรงนี้ต่อไปให้ดีที่สุด เพราะมันคือความรับผิดชอบ คืออาชีพของเรา”

ภาพเต็มสีหน้าและแววตาของ “โตโน่” ระหว่างนั่งแถลงข่าวว่าเลิก “แตงโม”


ขอขอบคุณข่าวจาก