new

 

เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันนี้ (1 มี.ค.) มีการแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า

มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ ป่วยด้วยไข้เลือดออก ร่วมกับ โควิด-19 ซึ่งรักษาตัวมาเป็นเวลา 1 เดือน โดยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนจะย้ายเข้ามารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูรเมื่อวันที่ 5 ก.พ. แต่ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ซึ่งไข้เลือดออกเป็นโรคที่มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูงอยู่แล้ว เมื่อเป็นพร้อมกันจึงยากแก่การรักษา

อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยรายนี้ได้ทำเต็มที่แล้ว พร้อมกับแสดงความเสียใจมายังญาติของผู้เสียชีวิตดังกล่าวด้วย

นอกจากนี้ นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ว่า

“ผู้ป่วยชายไทยอายุ 35 ปี ทำงานขายสินค้าและติดไวรัส covid-19 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 18.25 น.

ผู้ป่วยไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ทั้งสิ้น และได้รับการรักษาตามมาตรฐานที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิกฤติหลายท่าน และได้รับเครื่องช่วยให้ออกซิเจนในเลือด ECMO

แต่เนื่องจากประเทศไทยได้รับยา favipiravir ในระยะหลัง โดยผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ใส่เครื่องช่วยหายใจ และถึงแม้ว่าจะทำให้เชื้อไวรัสหายไปหมดก็ตามแต่มีเนื้อปอดเสียหายมาก และในที่สุดผู้ป่วยเสียชีวิตอย่างสงบ

นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญว่าโรคนี้สามารถแพร่ได้ในคนที่ไม่มีอาการหรือมีอาการน้อยเท่านั้น และแม้แต่ไม่มีโรคประจำตัวก็มีอาการวิกฤตได้

นอกจากนั้น การวินิจฉัยข้างต้นผลจากห้องปฏิบัติการออกมาเป็นไข้เลือดออก ทำให้พยาบาลที่เข้าไปดูแลในวันแรกติดเชื่อไวรัสนี้ไปด้วยและมีปอดบวมรุนแรงทั้งสองข้างแต่ได้รับยาทัน และกลับบ้านไปแล้วแต่อย่างไรก็ตามมีเนื้อปอดที่เสียหายอยู่ระดับหนึ่ง”


ขอขอบคุณข่าวจาก