news

จากรายงานของเว็บไซต์โคเรียนดอกส์ ซึ่งแปลจากรายงานฉบับภาษาเกาหลีของยอนฮัพ วันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตปูซานเหนือ ของเกาหลีใต้ได้ดำเนินคดีกับหนุ่มใหญ่วัย 54 ปี จากการที่เขาก่อเหตุจับแมวจรจัดกว่า 600 ตัว มาต้มเป็นๆเพื่อส่งขายให้กับ “ศูนย์อาหารเพื่อสุขภาพ” ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายคุ้มครองสัตว์

เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า นายเอ นามสมมติ ได้นำแมวที่เขาดักจับมาได้จากทั่วปูซานและพื้นที่ใกล้เคียงมาลวก “เป็นๆ” โดยใช้เวลาราว 2 นาที เพื่อฆ่าแมวเหล่านี้ จากนั้นจึงนำไปถลกหนัง และกำจัดเครื่องในออก แล้วนำไปเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง ก่อนส่งขายให้กับศูนย์อาหารเพื่อสุขภาพในราคาตัวละ 15,000 วอน (ราว 420 บาท)

เจ้าหน้าที่เล่าว่าขณะทำการตรวจค้นสถานที่ที่ นายเอ ใช้หลบซ่อนเพื่อสังหารแมวจรจัดเหล่านี้ พวกเขายังพบแมวอีก 18 ตัว ที่รอการปลิดชีพโดยนายเอ ซึ่งยอมรับว่าตนได้จับและสังหารแมวไปแล้วกว่า 600 ตัว

เจ้าหน้าที่อธิบายว่า นายเอ ทำกำไรจากธุรกิจนี้เป็นอย่างมากเนื่องจาก “ซุปแมว” กำลังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างสูง เนื่องจากความเชื่อผิดๆที่ว่าอาหารชนิดนี้สามารถรักษาอาการข้อเสื่อมได้

เจ้าหน้าที่ยังเตือนว่า แมวไม่ใช่ปศุสัตว์เช่นวัวหรือหมูที่การเลี้ยงมีการควบคุมด้านสุขอนามัย ทำให้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อปรสิตต่างๆจากการบริโภคแมว และแมวยังมิใช่สัตว์ที่ควรนำมาบริโภคอีกด้วย

สำหรับศูนย์อาหารเพื่อสุขภาพที่ซื้อแมวไปจาก นายเอ นั้น เจ้าหน้าที่แจ้งว่า พวกเขาไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ซื้อรายนี้ได้ เนื่องจากกฎหมายมิได้ประสงค์ที่จะเอาผิดกับการจับและซื้อขายแมว เจ้าหน้าที่จึงสามารถดำเนินคดีกับ นายเอ ได้ในฐานฆ่าสัตว์อย่างทารุณเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่รายนี้มองว่านโยบายที่ไม่เอาผิดกับการดักจับและซื้อขายแมวนั้นอาจต้องมีการพิจารณาเสียใหม่เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปัจจุบัน


ขอขอบคุณข่าวจาก