news

รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น กล่าวว่า การที่สื่อมวลชนได้นำเสนอสีผิวของหลวงพ่อคูณขณะที่สรีระดองอยู่ในอ่างเก็บ สรีระสังขารในน้ำยา ขณะนี้สีผิวของท่านยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่สีผิวของท่านเป็นสีผิวชมพูมาตั้งแต่เคลื่อนสรีระสังขารของท่านมาจาก จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.แล้ว

โดยถือว่าเป็นปกติ เพราะสีผิวของอาจารย์ใหญ่ ในกรณีฉีดน้ำยารักษาสภาพก่อนที่จะดองในช่วงสวดพระอภิธรรม มีได้หลายแบบขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของครูใหญ่แต่ละท่านเป็นอย่างไร

บางท่านเจ็บป่วยและได้ยาอะไร บางท่านมีอาการป่วยเช่นไตวายมีของเสียคั่งในร่างกาย ก็ทำให้มีสีผิวต่างๆ ที่เปลี่ยนไปตามสภาพของสิ่งที่ได้รับไป เป็นส่วนประกอบในเลือด เนื้อเยื่อต่างๆ ก็เป็นไปได้ ทำให้มีสีผิวแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นสีคล้ำดำ สีเขียวอ่อนหรือแก่

ในกรณีหลวงพ่อคูณ ได้มีอาพาธกะทันหัน พร้อมกับละสังขารไปภายใน 24-48 ชั่วโมง ทำให้องค์ประกอบในร่างกายของท่านเป็นไปตามธรรมชาติ สรีระสังขารของท่านจึงเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ไม่มียา ไม่มีสารอะไรเข้าไปเจือปนในสรีระของท่าน เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้ผิวหนังของหลวงพ่อคูณเกือบจะเหมือนคนปกติ ที่ผิวหนังจะเป็นสีชมพูเหมือนแรกเกิด

ล่าสุด ระบบวงจรปิดที่ใช้ถ่ายทอดสัญญาณจากห้องเก็บอ่างดองสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ชั้น 7 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ลงมาที่บริเวณชั้น 1 อาคารผู้ป่วยก. มีความพร้อมแล้วโดยจะใช้ทีวีขนาด 60 นิ้ว มาติดตั้งข้างรูปของหลวงพ่อคูณ ซึ่งจะสามารถติดตั้งได้ภายในวันพรุ่งนี้(31 พ.ค.)

ส่วนการถ่ายทอดสัญญาณไปยังการจัดงานที่จังหวัดนครราชสีมาครบ 15 วันที่หลวงพ่อคูณละสังขารขณะนี้ได้ส่งสัญญาณผ่านระบบยูทูปและระบบเทเลคอนเฟอร์เรนซ์แล้ว


ขอขอบคุณข่าวจาก