มาดูการกลับมาอีกครั้ง ของแฟชั่นไร้กาลเวลา

มาดูการกลับมาอีกครั้ง ของแฟชั่นไร้กาลเวลา


แฟชั่นเปลี่ยน ไปทุกยุคทุกสมัย คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบตามแฟชั่นหรือเปล่า
ถ้าใช่ต้อง มาดูกันนะ แต่การตามแฟชั่นมากๆ ก็ไม่ค่อยจะดี เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดดีกว่า เราว่า....

 

แฟชั่นเป็น ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปของเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แหวน กำไล สร้อย เมกอัพ ฯลฯ
และเมื่อมองไปในกระแสแฟชั่นของโลก ต้องยอมรับว่าเราได้หลายสิ่งหลายอย่างจาก Eastern Inspiration
ศิลปะและวัฒนธรรมรวมทั้งแนวคิดได้ถูกถ่ายทอดและนำมาตกแต่งเรือนร่างให้มี ความสวยความ
งามตลอดทุกยุคสมัย

Oriental Style หรือเสน่ห์ความงามแบบตะวันออก ก็ยังคงกรุ่นกลิ่นอายในทุกซีซั่น ทุกรันเวย์ และแทบทุกโชว์
โดยเฉพาะ 4 สไตล์โดดเด่น จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่เป็นเทรนด์ร้อนสุดฮิตเสมอมา

“เป็นโชคดีของสาวเอเชียอย่างมากที่เกิดมาในภูมิประเทศที่มีความหลากหลายทั้ง จากสภาพอ
ากาศและวัฒนธรรม
ทั้งหมดเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้สาวเอเชีย สามารถ ครีเอทการแต่งตัวได้เยอะ ผิดกับสาวยุโรปหรือสาวหมู่เกาะต่างๆ
ที่ มีแค่ไม่กี่ฤดูกาลเท่านั้น โดยมี 4 ประเทศที่กำหนดเทรนด์แฟชั่นของเอเชียมาตลอด คือ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และ อินเดีย
ซึ่งแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่ออย่าง Ginza, Shibuya, Harajuku ประเทศญี่ปุ่น, ถนนนานกิงลู่-เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน, Myeongdong (เมียงดง) และ Lotte
ในประเทศเกาหลี, ช้อปปิ้งมอลล์ Connaught Place และตลาดงานฝีมือ Janpath ประเทศอินเดีย ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าแนว ‘เอเชียน ชิค’
นี่แหละที่กำลังกุมหัวใจสาวๆ ทั่วโลก โดยลูกค้าส่วนใหญ่นิยมผ้าสีสันสดใส เน้นเฉดสีแดง, ส้ม, เหลือง และทอง เน้นงานปักเลื่อม งานประดับ
ทำให้เสื้อผ้าดูมีเอกลักษณ์ นิยมผ้าชีฟอง ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือผ้าไหมท้องถิ่น”

Asian Chic ทั้ง 4 แบบกำลังป่วนกระแสแฟชั่นโลกอย่างไร และคุณสาวๆ ที่อยากหาสไตล์ไว้แต่งตัวในร้อนนี้ ไปหาคำตอบพร้อมๆ กับเราเลยค่ะ


CHINESE SILHOUETTE
Fendi ทำให้ทุกอย่างที่เป็นจีนกลายเป็นของร้อนประจำซีซั่น เมื่อหัวเรือใหญ่ คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์
เนรมิตกำแพงเมืองจีนให้กลายเป็นรันเวย์ที่ยาวที่สุดในโลก อลังการงานสร้างเกินบรรยาย และดีไซเนอร์แถวหน้าต่างก็ได้รับ
แรง บันดาลใจจากกี่เพ้า ที่ Prada ลายมังกรที่ Yohji Yamamoto ตัวอักษรจีนที่ Lie Sang Bong ไปจนถึงคอเสื้อปกแบบเหมาเจ๋อตุง ที่ Balenciaga


JAPANESE FUNK
กิโมโน ชุดประจำชาติของญี่ปุ่นถูกนำมาแยกชิ้นส่วนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพื่อกระจาย ความเก๋ เช่น โอบิ
กลายเป็นเข็มขัดใหม่ที่ Alessandro Dell’Aqua และเทคนิคการมัดย้อมผ้าที่เรียกว่า Shibori ซึ่งเป็นวิธีการเก๋ากึ้กที่ใช้กันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8
พบเห็นได้มาก เป็นประวัติการณ์ใน Spring Collection 2008 ที่ Tao, Thakoon, Peter Som และ Port 1961


KOREAN CUTIE
ขอบคุณแดจังกึม Princess Hours และซีรี่ส์ เกาหลีอีกประดามีที่ทำให้ทั่วโลกได้ซึมซับกับ Hanbok
ชุด ประจำชาติของเกาหลีและสไตล์น่ารักแบ๊วๆ ของสาวเกาหลีสมัยใหม่ แฟชั่น Legging ที่สาวไทยนำมาใส่ได้กระทั่งในวันที่อากาศร้อน
รวมไปถึงการนำ สีสันแรงๆ ต่างขั้ว (แบบหยิน-หยาง) เช่น ชมพูบานเย็น เขียวนกแก้ว แดงเลือดนก
มาอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดียวกันได้อย่างไม่ขัดเขินและทำให้น่า มองจนเหลียวหลัง และสุดท้าย
แฟชั่นแบบเอ็มไพร์หรือเสื้อต่อใต้อกจะฮอต สุดๆ ในหน้าร้อนนี้อย่างแน่นอน


PASSAGE TO INDIA
แฟชั่น สไตล์อินเดียได้กลมกลืนและฝังรากอย่างลึกซึ้งในวัฒนธรรมโลก เช่น ในยุค 1970 ที่ฮิปปี้มากมายเดินทางมาแสวงโชคที่อินเดีย
และในยุคปัจจุบันที่การมา ถึงของ Bollywood กำลังตีตื้น Hollywood มาติดๆ ด้วยสีสันจัดจ้าน ลายปักประณีต และเครื่องประดับสุดวิจิตรตา
เป็นมนต์เสน่ห์ที่ยากจะต้าน ทาน อาจพูดได้ว่าส่าหรีและความอลังการแบบมหาราชา (Maharajas)
เป็นแรง บันดาลใจสุดโปรดของเหล่าดีไซเนอร์ที่หยิบขึ้นมาใช้อยู่บ่อยครั้ง เช่น Naeem Khan ดีไซเนอร์ชาวอินเดีย
ได้กลับไปหารากเดิมของบ้านเกิด นำผ้าทอและลายปักแบบอินเดียมาตัดเย็บยกคอลเลกชั่น และผลที่ได้คือ
เสียง ชื่นชมล้นหลามและยอดขายที่น่าจะเพิ่มมากขึ้น ส่วน Marchesa แบรนด์น้องใหม่เด็กปั้นของอเมริกันโว้กที่มาแรงสุดๆ
ในเวลานี้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก The British Raj สไตล์มหาราชาผสานกับวิกตอเรียน และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดคือ
จอมหลุมโลก Jean Paul Gaultier ใน Fall Couture Collection 2007 สร้างลุค Prince Charming สุดเท่และเก๋จริง
แต่ เจ้าชายของโกลติเย่ร์มีหรือจะธรรมดา เมื่อ ‘เขา’ กลับเป็น ‘เธอ’ ที่แสนหรูหราสง่างามด้วยเครื่องทรงผ้าซาติน กำมะหยี่และขนสัตว์

แอบหวังเล็กๆ ว่าในอนาคตจะมี Thai Excotic เป็นหนึ่งใน Asian Chic กับเขาบ้าง (เสียที)

 

Asian Hair Styles : Go Non Blonde

+ ไม่มีข้อห้ามตายตัวสำหรับสีผมกับลุคเอเชีย แต่พูดให้คิด นิดหนึ่งว่าธรรมชาติได้มอบสีผมดำขลับและเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา
มาให้สาว เอเชียในคราเดียวกัน ฉะนั้น ถ้าคุณมีผมสีเข้มอยู่แล้วก็ไม่ต้องพยายามไปเปลี่ยนสีบลอนด์ให้สิ้นเปลือง

+ เก๋สไตล์สาวเอเชียอย่างง่ายที่สุด ด้วยผมยาวตรงปลายเสมอกัน และอาจเพิ่มความเฉี่ยวด้วยผมหน้าม้าเสมอคิ้ว
ถ้าร้อนนักก็มัดเป็นหางม้า สูงหรือตลบผมขึ้นไปเป็นมวยหลวมๆ


Asian Makeup : Soft Apricots

เติมลุคเอเชียให้เต็มด้วยสีส้มแอพริคอท ที่ช่วยให้สวยเจิดจ้าขึ้นได้อย่างง่ายๆ
อายแชโดว์ : เติมสีเปลือกตาด้วยสีส้มแอพริคอท บางๆ ไล้สีลงมาบริเวณใต้ดวงตาด้วย
อาย ไลเนอร์ : วาดขอบตาด้วยอายไลเนอร์สีเขียวเป็นเส้นเล็กเรียว
มาสคาร่า : ปัดมาสคาร่าสีดำ 2 ชั้นเพื่อขนตางอนและหนา
แก้ม : ใช้บลัชออนสีส้มแอพริคอทปัดพวงแก้มให้สีเข้มกว่าสีที่เปลือกตา
ปาก : แนะนำให้ใช้สีแดงส้มระบายให้เต็มริมฝีปาก

Note : ริมฝีปากแดงเจิดจ้าเป็นจุดเด่นที่สุดของใบหน้าสำหรับลุคนี้ ดังนั้น
อย่า กรีดตาให้ดำปื้ดหรือระบายสีเปลือกตาให้เข้มปี๋เกินสีปากเด็ดขาด

 





 




 

Bookmark and Share


:: ผู้หญิงมาใหม่























 
:: อ่านข่าว
:: รวมของฟรี
:: ซาบซ่าส์
:: ลิงค์แนะนำ

(ซาบซ่าส์ดอทคอม)
Website Allright Reserved
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2550
ทะเบียนพาณิชย์เลขที่ 0577314802616
x [close]
x [close]