โย่ง - ก้อย กับการเดินทางของความรัก

ชีวิตของใครหลายคน เลือก การเดินทางเป็นโลกใบใหญ่ที่รอการค้นหา สำหรับบางคนการเดินทางสักครั้งเปลี่ยนชีวิตของเขาได้อย่างไม่รู้ตัว และคนคู่นี้ก็เช่นกัน การเดินทางเปรียบได้กับการค้นพบตัวตนในกันและกัน รวมทั้งรู้จักเรียนรู้ที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ ความรัก มิตรภาพ ไปพร้อมๆ กัน ก้อย วลัยลักษณ์ มุสิกโกฏก และ โย่ง อนุสรณ์ มณีเทศ คู่รักที่ใครๆ ก็รู้จักเป็นอย่างดีจากผลงานอัลบั้มเพลงในชื่อ โย่ง-อาร์มแชร์ และ ก้อย-แซทเทอร์เดย์ เซย์โกะ กับความรักในแบบเรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยสีสันที่คอยเติมเต็มให้กันและกัน ตลอดมา ครั้งนี้เขาและเธอกับอัลบั้มพิเศษ My Travelers ที่เกิดจากการเดินทางไปเยือนฝรั่งเศสและเยอรมัน พวกเขาค้นพบอะไรจากการเดินทางครั้งนั้น และพวกเขาอยากบอกเล่าอะไรให้คุณรู้บ้าง ตามเรามาเลยค่ะ

• ที่มาของอัลบั้มพิเศษ My Travelers เกิดขึ้นได้อย่างไรคะ
ก้อย : ถือว่าเป็นโปรเจคพิเศษที่เราทำคู่กันครั้งแรกค่ะ สำหรับอัลบั้ม My Travelers ซึ่งพิเศษมากๆ เพราะว่ามันเป็นอัลบั้มที่ไม่ได้มีแค่เพลง แต่จะมีอัลบั้มภาพและข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเดินทางทั้งหมด ระหว่างกรุงเทพ ปารีส และเยอรมัน เรื่องราวข้างในก็จะมีรสชาติของการเดินทางที่ครบถ้วน ทั้งเรื่องของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความรัก แล้วก็ประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ ที่เราได้ไปพบเจอกัน สนุกมากๆ ค่ะ แล้วเราก็อยากถ่ายทอดให้คนอื่นได้รับรู้ด้วย แล้วอัลบั้มนี้ก็เป็นครั้งแรกที่เลือกเอาแรงบันดาลใจจากการเดินทางมาทำเป็น งานเพลงค่ะ จากสถานที่ต่างๆ เหตุการณ์ที่ไปพบเจอทุกอย่างมีความหมายซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถนำมาเป็นไกด์บุ๊คได้ด้วย

โย่ง : ต้องบอกก่อนเลยว่า การไปเที่ยวครั้งนี้เกิดจากเพื่อนผมคือ อ้วน อาร์มแชร์ มือคีบอร์ดของวง เขาเคยชวนเมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว เราสองคนก็เลยแพลนขึ้นมาในใจว่าอยากไปเที่ยวปารีสกัน หลังจากวางแผนเตรียมตัวกันอยู่ประมาณ 5 เดือน เดือนมิถุนายนปีที่แล้วเราก็เริ่มเดินทาง แต่สำหรับอัลบั้มคู่ของเรา แพลนกันมานาน 3 ปีได้แล้วครับ ซึ่งเราก็อยากให้มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ น้องๆ หลายคนก็บ่นว่าอยากฟัง เราก็คิดว่าควรจะเป็นโปรเจคที่รีแลกซ์ มีสไตล์ของสองวงผสมกัน รวมทั้งเรื่องท่องเที่ยวด้วย

• คุณทั้งสองคนตั้งใจจะให้อะไรกับคนฟังอัลบั้มนี้คะ
ก้อย : เรื่องราว ประสบการณ์ และสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเปิดโลกทัศน์ใบใหม่ค่ะ เพราะอัลบั้มนี้ไม่ได้เกิดจากการเดินทางแค่สองคน มันเป็นการเดินทางของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนกัน เราเชื่อกันว่า คนที่ได้ฟังอัลบั้มนี้น่าจะเกิดแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตได้บ้าง แล้วสิ่งที่เราอยากสื่อคือการเดินทางมันสามารถพัฒนาตัวตนของเราได้

โย่ง : คอนเซ็ปต์ที่เราตั้งขึ้นมาคือการเดินทางใช่มั้ยครับ แต่เราไม่ได้คิดแค่ว่าเราเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเท่านั้น เรานึกถึงแฟนเพลงของเราด้วย มีหลายคนที่อยู่กับเราสองคนมาเป็นสิบปีก็เหมือนกับการเดินทางเช่นเดียวกัน การเดินทางของชีวิตที่มีเพื่อนร่วมทางอยู่ด้วย มีผม มีก้อย และน้องๆ แฟนเพลง เราอยากมอบความรู้สึกดีๆ คืนกลับไป แรงบันดาลใจที่เราได้รับจากการเดินทาง เราก็อยากแบ่งปันให้น้องๆ ได้รับด้วยเช่นกันครับ

 

 •ทำงานร่วมกันในสายอาชีพเดียวกันเป็นครั้งแรก รู้สึกอย่างไรบ้าง
ก้อย : ทะเลาะกันยิ่งกว่าเดิมค่ะ (หัวเรา) ซึ่งจริงๆ มันเป็นปกติของการทำงานร่วมกันอยู่แล้วนะคะ การทะเลาะกัน ก้อยเชื่อว่ามันเป็นการทำให้เกิดผลงานที่ดีออกมา เราได้ประชุมกันตลอดเวลาและในการประชุมกันก็ต้องมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ไปอยู่แล้ว แต่เมื่อหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นลงแล้ว ก้อยเชื่อว่าทุกคนจะแฮปปี้ เพราะทุกอย่างเคลียร์ ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้

โย่ง : ผมรู้สึกดีนะครับที่ได้ทำงานร่วมกับเขา ก่อนหน้านี้เราก็เคยทำงานร่วมกันมาแล้ว แต่ในส่วนของอาชีพที่ต่างกันไป เราเคยขายของด้วยกัน แต่พอได้มาทำอาชีพเดียวกัน มันเหมือนบทสรุปที่เราคุยกันมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เราจีบกัน คบหาดูใจกัน เราคุยเรื่องอาชีพของเรามาโดยตลอด การร้องเพลงเป็นสิ่งที่เราทำเหมือนกัน แต่ไม่เคยทำร่วมกันเลย พอมาทำงานด้วยกันก็ทำให้เรียนรู้อะไรได้มากขึ้นครับ

• เรื่องของการแต่งงานสำหรับคุณทั้งคู่ มองไว้อย่างไรบ้างคะ
โย่ง : เรียกว่าอยู่ในขั้นตอนของการคิดไว้ครับ แต่ตอนนี้สนุกกับงานมากกว่า แล้วการแต่งงานสำหรับผม มันต้องใช้ความรับผิดชอบค่อนข้างเยอะ ผมอยากทำหน้าที่แต่ละอย่างให้ดีที่สุดก่อน อย่างตอนนี้หน้าที่ของเราในสายอาชีพนี้กำลังเป็นสิ่งสำคัญ ผมก็อยากทำให้ไปถึงที่สุดของฝันก่อน แล้วการแต่งงานก็จะกลายเป็นความผ่อนคลายของเราทั้งคู่ครับ

ก้อย : ก้อยมองว่าตอนนี้เราทั้งคู่เหมือนกำลังคบหาดูใจกันอยู่ ถ้ายังไม่ได้ถึงวินาทีที่เราแต่งงานกัน เราก็เรียกได้ว่า เรียนรู้กันอยู่ ดูใจกันอยู่ ตอนนี้เราสองคนยังสนุกที่ได้เรียนรู้กัน ได้รู้จักกันในแง่มุมต่างๆ ของชีวิต โชคดีที่เราสองคนมีความรู้สึกของความเป็นเพื่อนกันค่อนข้างเยอะ มันจะมีสิ่งใหม่ที่เข้ามาทำให้สีสันในชีวิตเราไปเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรียกว่าชีวิตยังไม่อิ่มในตอนนี้ เรายังไม่พร้อมสำหรับชีวิตครอบครัวค่ะ

• คุณสองคนได้เรียนรู้อะไรจากกันและกันบ้างในช่วงระหว่างที่คบหาดูใจกันมา
โย่ง : เห็นก้อยแบบนี้ จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่ธรรมะธรรมโมมากๆ ครับ เห็นเขาแต่งตัวแรง มีรอยสัก แต่จริงๆ เขาเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยนมาก แล้วอบายมุขต่างๆ คือเขาไม่แตะเลย ผมชอบเขาตรงความแตกต่างที่ชัดเจนตรงนี้ ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรก ผมก็รู้สึกเลยว่า ผู้หญิงลุคแบบนี้จะต้องมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่แน่ๆ แล้วเขาก็พิเศษสำหรับผมจริงๆ ครับ

ก้อย : อยู่กับเขาแล้วก้อยรู้สึกว่าชีวิตมีสีสันเพิ่มขึ้นค่ะ โย่งทำให้ทุกวันของก้อยสนุกได้ ส่วนตัวก้อยคิดว่า เวลาที่เราได้รู้จักคนๆ หนึ่ง ได้เรียนรู้ ได้เปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ มันทำให้ชีวิตเรามีค่า ได้เดินหน้าต่อไปทุกวัน ก้อยเชื่อว่า ชีวิตเราจะมีการพัฒนา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามนะคะ มุมมอง ความคิดของเราจะพัฒนาขึ้น ถ้าเราได้เรียนรู้อะไรจากคนอื่นบ้าง

 

ก้อย-โย่ง

 

• คุณมีเทคนิคถนอมความรักในแบบฉบับของคุณทั้งคู่หรือเปล่าคะ
ก้อย : ความเป็นเพื่อนกันมั้งคะ ก้อยคิดว่าเราสองคนมีความเหมือนกันหลายอย่าง บางอย่างที่แตกต่างกัน ก็เหมือนช่วยกันเติมให้เต็ม เรามีรูปแบบการทำงานในชีวิตที่เหมือนกัน แล้วการเป็นเพื่อนกัน มันจะทำให้เราลดกิเลสของความเป็นคู่รักบางอย่างลงได้ เรามีเรื่องคุยกันทุกวัน แล้วก็ไม่ใช่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ มันมีเรื่องนู้นนี้ให้คุยกันตลอด

โย่ง : โชคดีที่เรื่องราวในชีวิตของเรามีเรื่องตื่นเต้นเกิดขึ้นเยอะมาก เราจะมีเรื่องสนุกๆ ให้ทำตลอด แล้วเราก็จะมีมุกส่วนตัวของเราที่มองหน้ากันก็เข้าใจทันที เราสามารถหัวเราะเรื่องเดียวกันได้ ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้ชีวิตคู่ของเราสนุกขึ้นครับ

• วางแผนอนาคตไว้อย่างไรกันบ้างคะ
ก้อย : ก้อยคงอยู่วงการเพลงไปอีกสักพัก แล้วก็คิดว่าคงเลือกที่จะใช้ช่วงบั้นปลายชีวิตแบบเรียบง่าย อย่างการปลูกบ้านดินอยู่ต่างจังหวัด มีพืชผักสวนครัวไว้ทานง่ายๆ แล้วก็จะเลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อน เพราะก้อยชอบแมวมากๆ แน่นอนว่าท้ายที่สุด ก้อยก็ต้องอยู่กับครอบครัว และอยากมีชีวิตที่สงบสุขเหมือนคนทั่วไปค่ะ

 โย่ง : สำหรับวงการบันเทิงก็เหมือนของหวานในความรู้สึกผมนะครับ ของคาวหรืออาหารหลักประจำวันก็คือชีวิตที่เราดำเนินอยู่ทุกวันนี้ ตอนนี้เราสนุกกับของหวาน แต่วันหนึ่งผมก็ต้องกลับมากินของคาว ถึงตอนนั้นผมก็คงหาซื้อที่แถวๆ โคราชสัก 5 ไร่ 10 ไร่ ผมอยากทำเกษตรอินทรีย์ ผมชอบเมืองไทยในความเป็นเกษตรกรรม ความฝันอย่างหนึ่งคือผมอยากทำให้อาชีพเกษตรกรในเมืองไทยเท่ขึ้นมา อย่างชาวไร่ในต่างประเทศ เขาจะดูเท่มากๆ แบบว่าใครๆ ก็ฝันอยากทำฟาร์มของตัวเอง แต่สำหรับเมืองไทย เราไม่ได้ปูมาแบบนี้ ผมอยากทำให้ทัศนคติตรงนี้เปลี่ยนไป อยากให้คนไทยภาคภูมิใจกับอาชีพเกษตรกรรมของตัวเองมากขึ้นครับ

 

 

โย่ง : การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เดือนมิถุนายนครับ เราไปกันเป็นกลุ่มเพื่อน มีผมกับก้อย และเพื่อนๆ มันเป็นการเดินทางที่ทำให้เราค้นพบอะไรหลายๆ อย่าง ไม่ได้กลับมาเฉพาะความทรงจำดีๆ เท่านั้น เราโตขึ้นด้วย พวกเราต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกันมากมายเลยครับ ทั้งเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน คนรัก และการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ มันทำให้เราเห็นผู้คนในมุมที่ต่างกันไป ผมสนุกและได้รับประสบการณ์ที่ดี และอยากแบ่งปันให้คนอื่นได้เรียนรู้ไปกับเราด้วยครับ

 

ก้อย : การเปิดโลกของตัวเองให้กว้างขึ้น มันจะทำให้ตัวตนของเรามีคุณค่ามากขึ้นค่ะ การเดินทางครั้งนี้ และการทำอัลบั้มชุดนี้มันทำให้ก้อยรู้สึกว่า เราได้พัฒนาตัวเอง และการไปเที่ยวทำให้เราได้รับแรงบันดาลใจกลับมาเยอะมากสถานที่หลายแห่งของ ปารีสและเยอรมันทำให้เราเกิดมุมมองในเรื่องต่างๆ ที่แตกต่างกันไป หลายๆ เพลงในอัลบั้มนี้จึงเกิดจากความหมายที่ซ่อนอยู่ของสถานที่ต่างๆ มันคุ้มค่ามากๆ กับการเดินทางสักครั้งในชีวิต แล้วก็ทำให้เราเติบโตขึ้น เรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นค่ะ

 อ่ยชื่อ ความรัก ใครๆ ก็มักถามหาและอยากมีรักกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรักเพื่อน รักพ่อ-แม่ รักครูบาอาจารย์ ฯลฯ แต่ที่เราให้น้ำหนักกับความรักมากที่สุดเห็นจะหนีไม่พ้นความรักระหว่างชาย -หญิง! (กรณีรักเพศเดียวกันก็น่าจะอยู่ในคำจำกัดความนี้) ถึงขนาดมีการกำหนด วาเลนไทน์ วันแห่งความรักกันขึ้นมาและในตอนนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ความรักจะหวานซึ้งเหมือนน้ำต้มผัก (ยังว่าหวาน) ไปจนถึงแก่เฒ่าหรือเปล่านั้นไม่มีใครรู้ล่วงหน้า แต่ถ้าหากมีกลยุทธ์ แบบรักร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง แทนการรบแบบซุนวูแล้วล่ะก็ ความรักที่หวานชื่นคงจะอยู่กับเราไปถึง "ถือไม้เท้ายอดทอง" อย่างไม่ต้องสงสัย กลยุทธ์ สร้าง ความรัก ฉบับกระเป๋า ยุทธวิธีสร้างความรัก ที่ Hospital & Healthcare นำมาฝากในฉบับนี้ น่าจะช่วยสร้างความรักแบบยั่งยืนให้กับคู่รักในบรรยากาศของเทศกาลแห่งความ รักที่ยังคงอบอวลอยู่ในขณะนี้

                                            love ความรักความรัก love

1) จงใช้ทั้งสมองและความรู้สึกในความรัก พูดง่ายๆ ก็คือความรักจะต้องใช้ทั้ง IQ และ EQ ผสมผสานกันไปไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ถ้าเราใช้สมองในความรักมากเกินไป อาจทำให้ชีวิตรักเต็มไปด้วยสาระ (ล้วนๆ) ทำอะไรก็มีแผนการ มีเหตุผล มีคำอธิบายร้อยแปด ชีวิตรักแบบนี้ มักขาดความอ่อนหวานและพานจะทำให้มีปากเสียงกันได้ แต่ถ้าหากใช้อารมณ์ความรู้สึกมากเกินไปก็อาจทำให้ขาดเหตุผล ชีวิตเหมือนอยู่ในความฝัน มันช่างอ่อนหวาน อบอุ่น แต่อย่าลืมว่า เมื่อคลื่นอารมณ์จูนไม่ตรงกัน อาจทำให้กลายเป็นคนไม่มีสมอง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันได้ง่ายๆ

2) ซื่อสัตย์และเปิดเผยกับคนรัก ความรักควรเกิดขึ้นบน พื้นฐานความเข้าใจและไม่ระแวงซึ่งกันและกัน เมื่อรักกันแล้วควรซื่อสัตย์ต่อกัน จริงใจ ไม่โกหก หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มโกหก ก็เหมือนกับกำลังรื้อฐานของความรักให้เกิดความง่อนแง่น จนในที่สุดจะทำลายมิตรภาพและความรักที่มีอยู่ให้พังครืนลงมาได้ นอกจากนี้ ยังควรเอาใจเขามาใส่ใจเราด้วยการคิดอยู่เสมอว่า เราอยากให้เขาปฏิบัติต่อเราอย่างไร ก็ควรปฏิบัติต่อเขาอย่างนั้นเช่นกัน

3) คิดว่า ความรัก ไม่มีวันเพอร์เฟค อย่าคิดว่าเมื่อ เรารักใครสักคน เขาจะเป็นเหมือนอย่างที่เราคิด และเพอร์เฟคไปทุกอย่าง เตรียมใจเอาไว้บ้างว่าเขาอาจจะมี "ข้อเสีย" ซึ่งบางทีอาจจะเป็นข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ จงเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการคิดแง่บวก "เขาทำอย่างนี้ก็น่ารักเหมือนกันนะ" เราไม่ควรคาดหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นตลอดไป แม้คนที่กำลังรักกันแทบจะกลืนกินก็ยังมีข้อขัดแย้งหรือไม่ลงรอยได้ "ลิ้นกับฟันความเห็นขัดแย้งกันบ้างถือว่าเป็นสีสันในชีวิต" อย่าท้อแท้เมื่อเกิดความเข้าใจผิดหรือขัดใจกันต้องปรับตัวเข้าหากัน

4) รักคือการเรียนรู้ เมื่อคนสองคนรักกันก็ควรเปิดใจ ต่อกันและพร้อมที่จะเรียนรู้กันและกันไม่ใช่พอเกิดปัญหาต่างคนต่างหันหลัง ให้กัน กลายเป็นขมิ้นกับปูน หรือขิงก็ราข่าก็แรง ไม่ได้เป็นอันขาด ต้องหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยอธิบายถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นรอยร้าวเล็กๆ จะเริ่มปริจนอาจร้าวลึกและแตกเป็นเสี่ยงๆ ได้ ในที่สุด

5) รักคือความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นรักใหม่ที่หม้อข้าว ยังไม่ดำ หรือรักเก่าที่อยู่กันมานาน คู่รักจะต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน นอกจากเข้าใจชีวิต เข้าใจอารมณ์แล้ว ยังต้องเข้าใจความรู้สึกนึกคิด โดยเฉพาะเราไม่ควรนำเอาความสำเร็จของคนอื่นมาพูดเปรียบเทียบกับคนที่เรารัก ว่าดีกว่า "ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น" "ทำไมไม่ได้อย่างเขาบ้าง" เพราะจะทำให้เขากดดันและรู้สึกด้อยค่าจงเข้าใจความสามารถของคนรักและให้ กำลังใจต่อกัน อย่าพูดตัดพ้อหรือต่อว่าโดยไม่คิด

6) หาจุดบกพร่องของตัวเอง วิธีที่ง่ายที่สุดคือการถาม เพื่อนที่สนิทว่า คุณมีจุดเด่นที่น่าประทับใจ หรือจุดอ่อนตรงไหนบ้าง จะได้นำไปพัฒนา ปรับปรุงตัวเอง ไม่ควร เอาจุดบกพร่องของอีกฝ่ายมาปิดกั้นการปรับปรุงแก้ไข จุดบกพร่องของตนเอง เพราะการที่คุณปรับตัว คู่ของคุณก็จะมองกลับมาหาจุดบกพร่องของตัวเองเช่นกันเรียกว่า win-win ทั้งสองฝ่าย

7 ) อย่าแสดงความไม่พอใจอีกฝ่ายต่อหน้าบุคคลอื่น เก็บ อารมณ์กันนิดเซฟอารมณ์กันหน่อย โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ต่อหน้าคนอื่น คุณไม่ควรแสดงอารมณ์ที่จะทำให้อีกฝ่าย "เสียหน้า" หรือเกิดความอับอาย เพราะผลที่ตามมาก็คือการมีปากมีเสียงกันในภายหลัง เก็บความรู้สึกไม่พอใจเวลานั้นไปเคลียร์กันที่บ้านดีกว่า จับเข่าคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ควรใช้อารมณ์เป็นอันขาด

8) ดูแลกันและกัน อย่าลืมดูแลสุขภาพของคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การออกกำลังกาย การใช้ชีวิต ฯลฯ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะปวดหัวตัวร้อน ไปจนถึงการตรวจสุขภาพประจำปี แต่ไม่ใช่จุกจิกจู้จี้จนคู่รักรำคาญล่ะ

9) ให้เวลากับความรัก อย่ามัวทำงานจนลืมความรัก และคนที่รักเป็นอันขาดเพราะจะนำไปสู่ปัญหาชีวิตคู่ หาเวลาอยู่ด้วยกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน อาจไปดูหนัง ช็อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมที่ทั้งสองคนร่วมกัน นอกจากนี้ ยังต้องหาเวลาพิเศษในการเติมความรักให้แก่กัน เช่น ไปรำลึกความหลังในสถานที่ที่ทั้งคู่ประทับใจ ออกไปท่องเที่ยวในบรรยากาศสุดโรแมนติกที่ต่างจังหวัด ใช้ช่วงเวลานั้นเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆ ที่ทำให้ทั้งคู่มีวันนี้ การมีความรักไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้ความรักมั่นคงและยั่งยืนต่างหากล่ะที่ไม่ง่าย

กลยุทธ์ทั้ง 9 ข้อนี้ ถ้าหากทำได้ จะทำให้คุณมีความรักที่ยืนยาว...และอย่าลืมที่จะแสดงความรักต่อคนที่เรารัก เพราะ เราไม่อาจรู้ได้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร อย่าให้ทุกอย่างสายเกินไป เพราะวันนั้นคุณอาจเป็นคนที่เสียใจที่สุด(หน้าพิเศษ Hospital Healthcare)

 





 




 

Bookmark and Share


:: ผู้หญิงมาใหม่























 
:: อ่านข่าว
:: รวมของฟรี
:: ซาบซ่าส์
:: ลิงค์แนะนำ

(ซาบซ่าส์ดอทคอม)
Website Allright Reserved
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2550
ทะเบียนพาณิชย์เลขที่ 0577314802616
x [close]
x [close]