รู้จักกับยารักษาสิว

รู้จักกับยารักษาสิว

 

        เรื่องสิวเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ใครบ้างละจะอยากมีสิว หน้าขาว ๆ เกลี้ยง ๆ เนียน ๆ ไม่ใช่หรือคือสิ่งที่ทุกคนฝันหา ยิ่งในปัจจุบันยารักษาสิวก็มีมาวางขายกันอย่างเกลื่อนกลาดและคุณคือผู้หนึ่งที่ใช้ยาดังกล่าวใช่หรือไม่ หากกำลังใช้ คุณแน่ใจแล้วหรือว่ารู้จักกับยารักษาสิวดีเพียงพอแล้ว

สิว

       สิว คือตุ่มเม็ดเล็ก ๆ ที่มีหนองเป็นไตสีขาว ๆ อยู่ข้างใน ขึ้นตามหน้า เกิดขึ้นเพราะผิวหนังมีการอุดตันอยู่ใต้รูขุมขนจากหัวสิว ซึ่งสามารถอักเสบได้ง่ายหากมีตัวกระตุ้นเพิ่มเติม เช่น แบคทีเรียหรือฝุ่นละอองในอากาศ

สาเหตุของสิว

      มีหลายสาเหตุ เป็นที่ถกเถียงกันว่า สิวเกิดจากอะไร สาเหตุหลัก ๆ แบ่งได้ 2 ปัจจัยดังนี้

      ปัจจัยภายใน คือ ปัจจัยที่เกิดจากร่างกายเราเอง เช่น ฮอร์โมน, กรรมพันธุ์ , โรคเรื้อรัง และผิวพรรณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดตัวเราตั้งแต่กำเนิด
      ปัจจัยภายนอก คือ ปัจจัยที่เกิดขึ้นจากนอกร่างกายของเรา เช่น ยา, เครื่องสำอาง, สภาพแวดล้อม, สังคม, แสงแดดและอุณหภูมิ ความสะอาด และอาหาร ซึ่งเราสามารถป้องกันได้

ยารักษาสิว

       Roaccutane, Acnotin เป็นชื่อทางการค้าของกรดวิตามินเอ ( isotretinoin ) ใช้รักษาสิวที่เป็นมากและรุนแรง ดื้อต่อการรักษาด้วยยาชนิดอื่นแล้ว ผลดี คือ สิวหายได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบและสงบได้เป็นระยะเวลาค่อนข้างยาว เป็นเดือนหรือเป็นปี แล้วแต่แต่ละบุคคล ผลเสีย คือ ผลข้างเคียงจากยา ซึ่งจะได้กล่าวถึงต่อไป

       สำหรับกลไกการออกฤทธิ์ของยายังไม่ทราบแน่ชัด แต่เกี่ยวกับการลดการทำงานของต่อมไขมัน ขนาดของต่อมไขมันเล็กลง และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบของผิวหนัง เชื้อ P.acne ลดลง อาจเนื่องจากไขมันที่เป็นอาหารลดน้อยลง ซึ่งควรกินพร้อมอาหาร เพราะจะทำให้ร่างกายนำยาไปใช้ได้เป็นสองเท่าของตอนท้องว่าง

สิ่งที่ควรตรวจก่อนกินยา

       ตรวจเลือดดูการทำงานของตับและระดับไตรกลีเซอไรด์ เมื่อกินยาไป 3-4 อาทิตย์ หรือ 6-8 อาทิตย์ เจาะเลือดดูไตรกลีเซอไรด์อีกครั้ง ถ้า > 500 mg/dL ต้องคอยตรวจเป็นระยะ ๆ > 700mg/dL ต้องหยุดยาและให้ยาลดไขมัน เพราะอาจมีอาการตับอ่อนอักเสบและก้อนไขมันตามผิวหนัง

ข้อควรระวัง

      ห้ามกินขณะมีครรภ์ โดยเฉพาะช่วงท้องได้ 3 อาทิตย์ เด็กจะพิการ
      คุมกำเนิดก่อนกินยา 1 เดือน หลังหยุดยาให้คุมกำเนิดต่ออีก 1 เดือน
      ทดสอบการตั้งครรภ์ว่าให้ผลลบก่อนกินยา 2 อาทิตย์
      สำหรับผู้ชายที่กินยาตัวนี้แล้วมีลูก จะไม่มีผลอะไรกับลูก
      ยาผ่านทางน้ำนมได้ จึงไม่ควรกินในรายที่ให้นมลูก

ผลข้างเคียงของยา

      ปากแห้ง พบเกือบทุกราย
      เยื่อบุตามช่องทวารต่าง ๆ แห้ง
       ผิวแห้ง ตาแห้ง ใส่คอนแทคเลนส์ไม่ได้ จมูกแห้งจนเลือดกำเดาออก เยื่อเมือกหลอดคอแห้ง ทำให้เสียงแหบ และมีอาการคัน
      ผมร่วง ผมน้อยลง สิวเห่อ ขนดก
       ผิวหน้าร้อนแดง ผิวหนังอักเสบ ผิวคล้ำขึ้นและไวต่อแสง มีตุ่มคัน ตุ่มหนอง เนื้อรอบเล็บเป็นหนอง เล็บผิดรูปร่าง เพิ่มการสร้างเนื้อเยื่อที่ทำให้เกิดตุ่ม
      ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ การสร้างกระดูกมากขึ้น เอ็นอักเสบ มีการจับของแคลเซี่ยมที่เส้นเอ็น มีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของกระดูก
      พฤติกรรมผิดปกติ เครียด มีอาการทางจิตเวช พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายในผู้ป่วยบางราย ปวดศีรษะ ความดันในกระโหลกศีรษะสูงขึ้น ชัก ผู้ป่วยจิตเวชควรปรึกษาจิตแพทย์ก่อนรับประทานยา
      เห็นภาพเปลี่ยนไป กลัวแสง ลดการมองเห็นตอนกลางคืน ต้อกระจก กระจกตาอักเสบ การฟังบกพร่องในบางช่วงคลื่น
      คลื่นไส้ ลำไส้อักเสบ มีเลือดออก ตับอ่อนอักเสบ ในรายไตรกลีเซอไรด์สูง ถ้ารุนแรงอาจเป็นอันตรายกับชีวิตได้ ตับอักเสบในบางราย
      หลอดลมหดเกร็ง ในรายที่เป็นโรคหอบมาก่อน
      มีการติดเชื้อกรัมบวก
      เลือดมีเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวลดลง เกล็ดเลือดเพิ่มขึ้น อัตราการตกตะกอนของเลือดเพิ่มขึ้น ไขมันในเลือดสูงขึ้น แต่ไขมันตัวที่ดีกับร่างกายลดลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น กรดยูริคในเลือดสูงขึ้น ปัสสาวะมีเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น มีเลือดและมีโปรตีนมากผิดปกติ
      ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ไม่ควรใช้ยาทาลอกผิวหรือลอกสิวร่วมด้วย ใช้ยาทาสิวชนิดอ่อนร่วมด้วยได้
      ไม่ควรให้ร่วมกับยาวิตามินเอและยาเตตร้าไซคลิน

      จะเห็นได้ว่า ผลข้างเคียงของยามีค่อนข้างมาก ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องปรึกษาแพทย์ทุกครั้งก่อนใช้ยา





 




 

Bookmark and Share


:: ผู้หญิงมาใหม่























 
:: อ่านข่าว
:: รวมของฟรี
:: ซาบซ่าส์
:: ลิงค์แนะนำ

(ซาบซ่าส์ดอทคอม)
Website Allright Reserved
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2550
ทะเบียนพาณิชย์เลขที่ 0577314802616
x [close]
x [close]