news

 

คุณยายร้องช่วยตามหาลูกสาวหายตัวไปนานกว่า 15 ปี หลังไปอยู่กับสามีที่อังกฤษ หลังสงสัยว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เสียชีวิตบนเขา เพราะภาพสเก็ตช์คล้ายกัน วอนลงพื้นที่เก็บข้อมูลและนำดีเอ็นเอเปรียบเทียบ

(24 ม.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี นางอรเกษมศิลป์ จิรวัสวงษ์ ยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย นางเศรษฐินรี เวเนส นายกสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร เปิดเผยถึงกรณี นางจุมศรี อายุ 73 ปี ชาว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ได้ส่งจดหมายถึงสมาคมฯ เพื่อขอความช่วยเหลือในการตรวจพิสูจน์ศพ นางลำดวน ที่เสียชีวิตในเมืองยอร์กเชีย ประเทศอังกฤษ ว่าเป็นบุตรสาวของตนเองหรือไม่

เนื่องจาก นางลำดวน ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ พร้อมกับสามีชาวต่างชาติ ตั้งแต่ปี 2547 และไม่ได้ติดต่อกลับบ้านอีกเลย เป็นเวลานานถึง 15 ปี กระทั่งล่าสุดทราบว่า ลูกชายของนางลำดวน ที่เกิดกับสามีชาวไทย แต่ได้ถูกทอดทิ้งเอาไว้ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในอังกฤษ ได้กลับมาตามหาแม่ที่เมืองไทย ตามคำบอกเล่าของพ่อว่า แม่กลับมาเมืองไทยแล้ว

ต่อมาได้กลับบ้านจึงได้พบกับ นางจุมศรี ผู้เป็นยาย โดยยายแจ้งว่าไม่เจอหน้าแม่มาสิบกว่าปีแล้ว นึกว่าอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ยายจึงสงสัยว่าหญิงสาวที่พบเป็นศพบนเขาในประเทศอังกฤษ อาจเป็นลูกสาวของตนที่หายไป

นางเศรษฐินรี กล่าวว่า เมื่อ 14 ปี ที่ผ่านมา มีข่าวว่าตำรวจอังกฤษพบศพหญิงสาวเสียชีวิตบนเขาที่เมืองยอร์กเชีย ประเทศอังกฤษ “สตรีแห่งขุนเขา” คือชื่อในหลุมฝังศพของเธอ จากการตรวจสอบดีเอ็นเอพบว่าเป็นคนเอเชีย และดูจากแหวนทองของผู้เสียชีวิตแล้ว น่าจะเป็นคนไทย

จากการสอบถามประวัติจากครอบครัว และภาพถ่ายในอดีตของนางลำดวน เปรียบเทียบกับภาพสเก็ตช์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอังกฤษ ทำให้เชื่อว่าผู้เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ น่าจะเป็นลูกสาวของนางจุมศรี โดยทางสมาคมฯ จึงได้ประสานสำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี เพื่อขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมลงมาตรวจดีเอ็นเอของนางจุมศรี เพื่อนำไปเทียบกับดีเอ็นเอของศพผู้เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากตรวจดีเอ็นเอแล้วคาดว่าจะรู้ผลประมาณ 5 สัปดาห์

ต่อมา นางอรเกษมศิลป์ จิรวัสวงษ์ ยุติธรรมจังหวัดอุดรธานี และผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากนางจุมศรี โดยได้นำรูปถ่ายของนางลำดวนมาให้ดู เปรียบเทียบกับภาพสเก็ตช์ศพผู้เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ พร้อมกับพูดคุยถึงเหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับตัวลูกสาว

นางอรเกษมศิลป์ กล่าวว่า ทางสมาคมเครือข่ายภาคีหญิงไทยในสหราชอาณาจักร พยายามที่จะตามหาญาติของผู้เสียชีวิตมานานถึง 14 ปี ก็มีการเผยแพร่ภาพสเก็ตช์และทราบว่าเป็นผู้หญิงชาวเอเชีย เมื่อทราบเรื่องร้องเรียนก็เดินทางมาพบผู้ที่คาดว่าจะเป็นพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีข้อมูลที่สูญหายใกล้เคียงกัน

ประกอบกับทางญาติได้ดูรูปภาพสเก็ตช์ มีความคล้ายคลึงกับญาติที่เมืองไทยที่หายไป และให้ทางยุติธรรมจังหวัดลงมาเก็บข้อมูล และมีการตรวจดีเอ็นเอ เป็นกรณีพิเศษจะดำเนินการอย่างรวดเร็วไม่ใช้เวลานานเหมือนที่ผ่านมา


ขอขอบคุณข่าวจาก