news

ชาวนาทิ้งบ้านไปดำนา กลับมาเพลิงไหม้บ้านเผาวอด เงินนับแสนกลายเป็นเถ้า พระเครื่องและทองสิบบาทหลอมละลาย

เมื่อเวลา 14.30 น. เจ้าหน้าดับเพลิง อบต. งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนราษฏรหมู่บ้านบ้านสระ ต.งัวบา อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ให้รีบรุดมาดับเพลิงอย่างเร่งด่วน จากนั้นได้ประสานรถดับเพลิงออกดำเนินการ พร้อมประสานรถดับเพลิงอบต.ขามป้อม อบต.เสือโก้ก เทศบาลตำบลวาปีปทุม และเทศบาลตำบลแกดำ รวม 5 คันให้ช่วยดับเพลิง

ที่เกิดเหตุเป็นทางแคบ รถดับเพลิงสามารถเข้าไปดับไฟได้เพียงครั้งละ 1 คัน ทำให้การดับไฟเป็นไปด้วยความยากลำบาก ชาวบ้านต้องช่วยกันหาถังน้ำมาช่วยกันดับเพลิงด้วย โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ แต่เจ้าหน้าที่ต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก มีบ้านเรือนราษฏรถูกไฟไหม้ไปเสียหาย 3 หลัง แบ่งเป็นเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และเสียหายบางส่วนอีก 1 หลัง

จากการสอบถาม นางน้อย นุตะไวย์อายุ 70 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ตนอยู่กลางทุ่งนาเพื่อไปดำนา ได้เห็นควันไฟโพยพุ่งจากบ้านจึงรีบวิ่งมาดูพบเพลิงลุกไหม้บ้านเกือบทั้งหลังแล้ว

ซึ่งเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังเหมือนมีอะไรบางอย่างระเบิดที่บ้านเลขที่ 70 ซึ่งเป็นบ้านนของ นางถวิล นุตะไวย์ พี่สาวของตน จากนั้นเพลิงก็ลุกไหม้อย่างรุนแรง ก่อนลุกลามไปที่บ้านของ นางยุภารัตน์ ไชยปัญหา บ้านเลขที่ 24 เสียหายทั้งหลังเช่นกัน ก่อนเพลิงจะลุกลามไปบ้านของ นางจันดี กิจการ บ้านเลขที่ 27 เสียหายบางส่วน

หลังเกิดเหตุ นางสุพัตรา นุตะไวย์ ผู้ช่วยผู้ใหญบ้านบ้านสระ ซึ่งเป็นลูกสาวของ นางถวิล นุตะไวย์ บ้านต้นเพลิง ซึ่งเดินทางไปประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านในตัวอำเภอทราบข่าวรีบขับรถมาดูพบเพลิงไหม้บ้านวอดทั้งหลัง และได้เข้ารื้อค้นกองเถ้าถ่านในบ้านเพื่อหาของมีค่าที่อาจหลงเหลืออยู่ โดยเฉพาะทองรูปพรรณ มูลค่ารวมกว่า 10 บาท ซึ่งเพื่อนบ้านที่ช่วยกันหาก็เจอและนำมาคืนให้ ส่วนใหญ่เป็นเหรียญพระบูชาที่ไม่ไหม้ไฟ แต่เงินนับแสนที่เก็บไว้ กลายเป็นเถ้าไปแล้ว

สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าไฟฟ้าลัดวงจร เจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง

ต่อมา นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้เดินทางมาเยี่ยมผู้ประสบภัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวนหนึ่ง พร้อมเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอีกทางหนึ่ง


ขอขอบคุณข่าวจาก