หลังเกิดกรณีที่ นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด ค่ายเพลงมิวสิคบั๊กส์ ยื่นฟ้องบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และอดีตศิลปินลูกหม้อ ลาบานูน เรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์เพลงจาก 7 อัลบั้มของวงลาบานูนเมื่อครั้งอยู่มิวสิคบั๊กส์ โดยเรียกค่าเสียหายสูงถึง 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) ล่าสุดฟากผู้บริหาร, ฝ่ายกฎหมายของแกรมมี่ฯ และศิลปินวง ลาบานูน ก็ออกมามีความเคลื่อนไหวแล้ว

news

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา(12 ก.พ.) บุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน), กษม อดิศัยปัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัทจีเอ็มเอ็ม มิวสิค พับลิชชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (MPI), วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้บริหารของค่าย genie records, ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ผู้บริหาร Rock Opera House และ อดีตผู้บริหารค่ายเพลงมิวสิคบั๊กส์ พร้อมด้วยศิลปิน อ๊อฟ และ กบ บิ๊กแอส ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์เพลง ลาบานูน ผ่านรายการข่าวรอบวัน ทางช่อง one

โดยฝ่ายบริหารและฝ่ายกฏหมายของแกรมมี่ฯ เผยในทิศทางเดียวกันว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องลิขสิทธิ์อย่างมาก เคารพและตอบแทนผลงานศิลปินอย่างดีที่สุด โดยใช้กติกาและเรตราคาการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ตามหลักสากล เมื่อมีการนำเพลงไปแสดงสดก็จะถูกหักค่าลิขสิทธิ์เพื่อนำมาส่งให้ผู้สร้างสรรค์ จึงคาดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากเมื่อกลางปีที่ผ่านมาทางมิวสิคบั๊กส์มีการเปลี่ยนผู้บริหาร จึงอาจจะทำให้ไม่เข้าใจสัญญาและมีการยื่นขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามทางแกรมมี่ฯ เห็นว่าหากต้องการเปลี่ยนแปลงก็ควรให้สัญญาเก่าหมดเสียก่อน ซึ่งสัญญามีกำหนดหมดอายุลงในวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 2560

เพลงของ 7 อัลบั้มเก่าของวง ลาบานูน อยู่ภายใต้สัญญาที่ทางมิวสิคบั๊กส์เซ็นเหมาเพื่อใช้ในการจัดเก็บลิขสิทธิ์ทั่วไปกับทางแกรมมี่ฯ ซึ่งเซ็นไว้เมื่อครั้งที่ ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ เป็นผู้บริหารของมิวสิคบั๊กส์ โดยหลังจากวง ลาบานูน เซ็นเป็นศิลปินของแกรมมี่ฯ ภายใต้การดูแลของ genie records นั้นก็มีการตรวจสอบสัญญาและพบว่าในข้อตกลง ลาบานูน สามารถนำเพลงเก่ามาใช้ในการแสดงสดได้

ฟาก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ผู้ก่อตั้งและอดีตผู้บริหารค่ายเพลงมิวสิคบั๊กส์ เผยเพิ่มเติมว่า ตนเพิ่งรู้เรื่องการฟ้องร้องเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาฉบับดังกล่าวตนเองเป็นผู้เซ็นเมื่อครั้งเป็นผู้บริหารมิวสิคบั๊กส์และยินยอมอนุญาตให้แกรมมี่ฯ ทำตามข้อตกลงในสัญญา และที่ผ่านมาทั้งสองบริษัทก็เป็นคู่ค้าที่ดีต่อกันเสมอมา อย่างไรก็ตามแม้ ชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ ผู้บริหารมิวสิคบั๊กส์คนปัจจุบันซึ่งเป็นน้องชายจะเป็นผู้ยื่นฟ้องครั้งนี้ แต่ตนและน้องชายก็ไม่ได้คุยเรื่องงานมากว่า 10 ปีแล้ว และหลังจากเกิดเรื่องตนก็ยังไม่ได้ติดต่อไป การที่มาแถลงข่าวร่วมกับแกรมมี่ฯ ในวันนี้ก็เป็นเรื่องบังเอิญที่ตนเองเข้ามาที่แกรมมี่ฯ และถูกชวนให้มาร่วมแถลงข่าว ตนก็พร้อมที่แถลงข่าวเพื่อเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้แสดงจุดยืนว่าอยู่ข้างแกรมมี่ฯ หากพรุ่งนี้น้องชายเชิญไปแถลงข่าวบ้างก็เต็มใจเช่นกัน

ด้าน เมธี นักร้องนำวง ลาบานูน ซึ่งมีงานโชว์ที่ จ.สุโขทัย ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนเองรู้เรื่องดังกล่าวประมาณหกโมงเย็นวานนี้ รู้สึกตกใจ เพราะทางวงไม่เคยย้ายค่ายและมิวสิคบั๊กส์ก็เป็นผู้สร้าง ลาบานูน ขึ้นมา คิดว่าคงเกิดความเข้าใจผิด ในวันนี้ก็รู้สึกว่าดีใจที่ เอก ธเนศ มาร่วมแถลงข่าวด้วยเพราะเป็นผู้รู้เรื่องนี้ดีที่สุด และผู้ปลุกปั้น ลาบานูน ก็คือ เอก ธเนศ อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนเป็นผู้สร้างสรรค์เพลงเช่นกันก็เห็นด้วยกับการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่คนเขียนเพลงก็ควรได้รับผลตอบแทน เมื่อเกิดปัญหานี้ขึ้นแม้จะทำให้เสียกำลังใจไปบ้าง แต่สุดท้ายก็เชื่อว่าจะมีทางออก

อย่างไรก็ตาม ทางแกรมมี่ฯ ได้ฟ้องกลับ นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ ในข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว เนื่องจากทำให้แกรมมี่ฯ เสื่อมเสียจากการแจ้งความเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอันไม่เป็นความจริง นอกจากนั้นยังกล่าวพาดพิงในเรื่องศีลธรรมและให้ร้ายแกรมมี่ฯ ในทำนองว่ารังแกค่ายเพลงเล็ก ยิ่งในปัจจุบันมีช่องทางออนไลน์ยิ่งทำให้ข้อมูลแพร่กระจายและสังคมเกิดความเข้าใจผิด แต่จะไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายกลับแต่อย่างใด


ขอขอบคุณข่าวจาก