aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTY2OC84MzQ0NTk0L3dhdGxhbXBhbmcuanBn

 

(27 ม.ค.64) เวลา 20.00 น. นางสุรีย์ มาปลูก นายอำเภอแม่ทะ พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง และชาวบ้าน ได้ทำการเข้าตรวจสอบสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ใกล้กับโรงโม่หินเอกชน ต.แม่ทะ หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีสีกาอาศัยอยู่กับพระตามลำพังในสำนักสงฆ์ดังกล่าว มายาวนานประมาณ 5 วันแล้ว

จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนสายลำปาง-แม่ทะ เข้าไปในป่าละเมาะ ประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร จุดเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้า และอยู่บริเวณกลางป่า พบสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งเป็นอาคารไม้สองชั้น ด้านล่างบริเวณห้องโถง สำหรับปฎิบิตธรรซึ่งเป็นห้องค่อนข้างมืด กำลังเจ้าหน้าที่ได้จู่โจมเข้าไปตรวจสอบ พบพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งอายุประมาณ 60 ปี พร้อมกับหญิงอายุประมาณ 50 ปี ในชุดนุ่งขาวห่มขาว และผู้ชายคนหนึ่ง รวม 3 คน กำลังนั่งปฏิบัติธรรมสวดมนต์อยู่ภายในวัด ท่ามกลางแสงเทียน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและสอบถาม โดยชายหญิงอ้างว่าเป็นญาติกัน โดยทางพระผู้ใหญ่ของอำเภอแม่ทะได้เข้าตรวจสอบใบสุทธิ พระบอกว่าหายไปนานแล้ว และหลังจากนั้นก็ให้การวกวน หลังจากนั้นพระผู้ใหญ่ที่เข้าไปตรวสอบก็บอกให้พระรูปนี้ทำการสึก ฐานไม่มีใบสุทธิ ส่วนกรณีอยู่กับสีกาตามลำพัง 2 คน ตามข้อร้องเรียน พบว่าในเรื่องนี้ ไม่มีความผิด เพราะในเบื้องต้น พบว่าอยู่กับ 3 คน

หลังจากนั้น พระรูปดังกล่าวก็ยอมนำเสื้อผ้ามาเปลี่ยน และเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้ออกจากพื้นที่ปฏิบัติธรรมและออกจากสำนักสงฆ์ดังกล่าวในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

สอบสวนหญิงในที่เกิดเหตุบอกว่าตนเอง เป็นชาว อ.เกาะคา จ.ลำปาง และที่ผ่านมาเคยรู้จักกับพระรูปนี้มานานแล้ว และเคยไปปฎิบัติธรรม ร่วมกัน ที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.เกาะคา และหลังจากนั้นทราบว่าพระสงฆ์รูปนี้ ได้ย้ายเข้ามาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์ที่ ต.แม่ทะ ตนเองก็เลยได้ติดตามมาปฏิบัติธรรม ด้วยพร้อมกับญาติฝ่ายชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งอย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็ ได้บันทึกประวัติบุคคลทั้งหมดไว้และจะได้สอบสวน ต่อไป


ขอขอบคุณข่าวจาก