new

 

เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.อาวุธ แก้วมณี สารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตหลายราย ภายในอาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง พระราม 3 ซอย 66 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น., เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ), แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุ เป็นอาคารพาณิชย์ จำนวน 4 ชั้น 10 คูหา บริเวณชั้นล่างเป็นโถงขนาดใหญ่ ซึ่งเปิดเป็นบ่อนการพนัน(เฮีย ต.) มีประตูเหล็กเข้าออกอย่างมิดชิด และมีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้หลายตัวรอบบริเวณ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในอาคารดังกล่าว

จากการตรวจสอบภายในอาคาร พบผู้เสียชีวิต เป็นชาย 2 ราย และหญิง 2 ราย รวมทั้งหมด 4 ศพ สภาพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดนอนจมกองเลือดอยู่ โดยหนึ่งในนั้นมีศพเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อ พ.ต.ต.วัทธเศรษฐ์ สำเนียงประเสริฐ ตำแหน่งสารวัตร(สอบสวน) สน.แสมดำ หรือสารวัตรแม็กซ์ นรต.รุ่น 65

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. มีเสียงปืนดังขึ้น จำนวนหลายนัดภายในบ่อนดังกล่าว หลังจากเสียงปืนเงียบลงเป็นเวลานานก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ มาในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว เกิดความหวาดกลัว โดยทางบ่อนการพนันสั่งปิดข่าว และให้รีบขนของที่ผิดกฎหมายออกจากบ่อนแห่งนี้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่รู้ตัวว่าคนร้ายเป็นใคร หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ส่วนสาเหตุครั้งนี้คาดว่าทะเลาะวิวาทเรื่องการทวงหนี้ หรืออาจจะมีปัญหาเรื่องส่วนตัว หลังเกิดเหตุ ผบช.น.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุทันที แต่ภายหลังจากตรวจพื้นที่เสร็จ ได้ขึ้นรถกลับออกไปอย่างรวดเร็ว โดยหลบเลี่ยงนักข่าวออกทางประตูด้านหลังอีกทางหนึ่งและไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่มารอจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวมีรายงานเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เปิดบ่อนการพนันสับเปลี่ยนมาเช่าเปิดหลายรายแล้ว โดยล่าสุด เฮีย ต. มาเช่าเปิดเป็นบ่อนบาคาร่า พนันกำถั่ว ตั้งตู้เกมส์ได้ไม่นานโดยย้ายบ่อนมาจากย่านคลองตัน ก่อนเกิดเหตุมีหนุ่มชาวจีน นำอาวุธปืนออกมาข่มขู่ทวงเงินคืน เนื่องจากถูกโกงเงินไป ซึ่งขณะเกิดเหตุมีนักพนันประมาณ 60 คน ช่วงขณะหนุ่มชาวจีนเอาปืนมาข่มขู่ สารวัตรแม็กซ์จึงเข้ามาเจรจาแต่ตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดเหตุการณ์ยิงกันขึ้น


ขอขอบคุณข่าวจาก