news

 

ตำรวจออกหมายเรียก “ปู พงษ์สิทธิ์” หลังโดนแจ้งจับ รุมกระทืบแฟนเพลงอ่วม ล่าสุดทนายติดต่อว่าจะเข้าพบ 16 ก.ค.นี้ แฟนเพลงหนุ่มย้ำต้องการแค่คำขอโทษ

จากกรณีที่ นายอิทธิพล อายุ 38 ปี หนุ่มชาว อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วชิรวิทย์ พวงประโคน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ว่าถูก “ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์” นักร้องเพลงเพื่อชีวิตดัง และการ์ดอีกหลายคนรุมชกต่อยทำร้าย ขณะนั่งอยู่ในร้านข้าวต้มบริเวณหน้าสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์

เหตุดังกล่าวทำให้ได้รับบาดเจ็บใบหน้าบวมช้ำ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.25 น. วันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากที่หนุ่มคนดังกล่าว นำกีตาร์ไปขอให้นักร้องดังเซ็นลายเซ็นลงบนกีตาร์ ขณะที่สังคมออนไลน์ก็ได้มีการแชร์คลิปภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุในวันดังกล่าวด้วย ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

>> เลิกเป็นแฟนคลับ! หนุ่มบุรีรัมย์เผยปมถูกนักร้องเพื่อชีวิตรุมกระทืบ แค่ขอลายเซ็น

ล่าสุดทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เจ้าของคดี ได้เรียก นายอิทธิพล ผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความว่าถูกนักร้องดังชกต่อย เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมทั้งนำไปชี้จุดเกิดเหตุและบันทึกภาพเป็นหลักฐาน เพื่อประกอบในสำนวนคดี

หลังจากนี้ก็จะมีการเรียกพยานหรือผู้ที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาสอบปากคำด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานสรุปเสนอผู้บังคับบัญชาและส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอน ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และขณะนี้ได้ออกหมายเรียก ปู พงษ์สิทธิ์ มารับทราบข้อกล่าวหาเป็นครั้งที่ 1 แล้ว

แต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจากนักร้องคนดังกล่าวแต่อย่างใด มีเพียงทนายความที่ติดต่อประสานทางโทรศัพท์ว่าจะเข้ามาพบ ในวันที่ 16 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ แต่หากไม่เข้ามาพบตามหมายเรียกครั้งแรก ก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ตาม และอนุมัติศาลออกหมายจับตามขั้นตอน

นายอิทธิพล กล่าวว่า ที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยยืนยันว่าถูกนักร้องดังและการ์ดรุมทำร้ายจริง และตอนนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดที่ใบหน้า ที่สำคัญยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ตนไปทำอะไรให้พี่ปูไม่พอใจ ถึงโดนรุมชกต่อย

แต่ในเมื่อตนเป็นฝ่ายถูกกระทำ จึงแค่อยากได้รับคำขอโทษหรือพูดคุยทำความเข้าใจเท่านั้น ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการค่าเสียหายหรือค่าทำขวัญใดๆ แต่หากไม่มีการพูดคุยหรือขอโทษ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย


ขอขอบคุณข่าวจาก