เว็บไซต์ เดอะ มิร์เรอร์ รายงานว่า นายปีเตอร์ แม็คมาฮอน วิศวกรเครื่องกลชาวออสเตรเลีย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการค้นหาซากเครื่องบินมายาวนานถึง 25 ปี ยืนยัน พบซากเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบิน MH370 ที่หายสาบสูญไปอย่างลึกลับ หลังจากนำผู้โดยสารและลูกเรือ 239 คน บินจาก กรุงกัวลาลัมเปอร์ ปลายทาง กรุงปักกิ่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557 แล้ว

เที่ยวบิน MH370 หายอย่างปริศนา ทางการมาเลเซีย ออสเตรเลีย และจีนได้ร่วมกันปฏิบัติการค้นหา แต่ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะไม่เจอซากเครื่องบินโบอิ้ง 777 แม้แต่ชิ้นเดียว หลังใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายถึง 115 ล้านดอลลาร์ จนต้องยุติลงเมื่อเดือนมกราคม ปี 2560 ที่ผ่านมา

[4 ปีแห่งความหวัง มาเลย์ทุ่ม 70 ล้านดอลลาร์ เริ่มภารกิจตามหา MH370 อีกครั้ง]

นายแม็คมาฮอน เปิดเผยว่าตนได้พยายามค้นหาซากของ MH370 โดยอาศัยข้อมูลภาพถ่ายจากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) และ Google Earth ในการค้นหา นับตั้งแต่เครื่องบินลำนี้ได้หายไปเมื่อ 4 ปีก่อนนั้น ตนได้พบซากเครื่องบินตกอยู่ห่างจากเกาะราวน์ด (Round Island) ไปทางใต้ประมาณ 10 ไมล์ทะเล หรือ 16 กม. ซึ่งเกาะราวน์ดนี้เป็นเกาะเล็กๆ ของสาธารณรัฐมอริเชียส ประเทศที่เป็นเกาะนอกชายฝั่งทวีปแอฟริกา ในมหาสมุทรอินเดียทางตะวันตกเฉียงใต้

news
นายแม็คมาฮอน วิศวกรเครื่องกลวัย 64 ปีผู้นี้ยังเผยกับ Daily Star Online ด้วยว่า มีชาวอเมริกัน 4 คนถูกส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย เพื่อช่วยในการค้นหาซาก MH370 เพื่อต้องการให้มั่นใจในข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ MH370 รวมทั้งตำแหน่งที่ตกของเครื่องบินและไม่ให้เล็ดลอดออกไปถึงสาธารณชน หรือแม้แต่รัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งมันเป็นเพราะอะไร? โดยนายแม็คมาฮอนเฉลยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทำเช่นนั้น เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่ามีการพบว่าซากเครื่องบิน MH370 มีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุน


ขอขอบคุณข่าวจาก