news

นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า หลังจากพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ

ซึ่งจะทำให้วงการกีฬาได้รับงบประมาณจากการเรียกเก็บภาษีสุราและยาสูบ 2 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 3,700 ล้านบาทต่อปีผ่านมายังกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น ล่าสุดเงินก้อนแรกประมาณ 150 ล้านบาทถูกอุดหนุนเข้ามาเรียบร้อยแล้ว

โดยแผนการใช้งบประมาณจากภาษีบาปดังกล่าว เวลานี้คณะกรรมการบริหารกองทุนฯและคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เห็นชอบให้ยึดร่างระเบียบเดิม โดยให้บอร์ด กกท.ทำหน้าที่คณะกรรมการบริหารกองทุนฯไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีการลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารกองทุนฯอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สั่งการให้แต่ละสมาคมทำแผนเสนอขอรับการสนับสนุนเข้ามายัง กกท.

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า จากแผนงานที่ 42 ชนิดกีฬาส่งมายัง กกท.เพื่อรับการสนับสนุนระยะสั้น 2 ปี (พ.ศ.2558-2559) กับระยะยาว 4 ปี (พ.ศ.2560-2563) และช่วงที่ 2 อีก 4 ปี (พ.ศ.2564-2567) ปรากฏว่ายอดการเสนอขอรับการสนับสนุนอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 หมวดหลัก ได้แก่ การบริหารจัดการ, การพัฒนานักกีฬา, การพัฒนาบุคลากร, การจัดแข่งขัน และอื่นๆ

ซึ่งจากตัวเลขสมาคมกีฬาที่เสนอขอรับการสนับสนุนเข้ามา ยกตัวอย่างสมาคมกีฬาใหญ่ๆ ดังนี้

– ฟุตบอล ปี 2558 จำนวน 41 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 386 ล้านบาท สาเหตุที่ปี 2559 มากเพราะสมาคมฟุตบอลฯมีแผนเตรียมจัดแข่งขัน 2 รายการใหญ่ในปีดังกล่าว
– เทนนิส ขอรับการสนับสนุนรวม 213 ล้านบาท
– ยกน้ำหนัก ปี 2558 จำนวน 62 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 91 ล้านบาท
– แบดมินตัน ปี 2558 จำนวน 145 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 155 ล้านบาท
– เทควันโด ปี 2558 จำนวน 54 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 70 ล้านบาท
– วอลเลย์บอล ปี 2558 จำนวน 70 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 70 ล้านบาท
– ตะกร้อ ปี 2558 จำนวน 41 ล้านบาท ปี 2559 จำนวน 42 ล้านบาท


ขอขอบคุณข่าวจาก