news

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสสังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับนโยบายใหม่ “มอบเงินให้กับตำรวจเพื่อเป็นรางวัล” เมื่อจับผู้ใช้รถใช้ถนนที่พยายามติดสินบนต่อเจ้าหน้าที่ ตามการประกาศของกองบัญชาการตำรวจนครบาล อีกทั้งยังแนวคิดติดตั้งกล้องตามจุดๆ ตามในเครื่องแบบตำรวจ เพื่อสอดส่องการทำผิดและตรวจสอบการทำทุจริตของเจ้าหน้าที่เอง

ล่าสุด เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (10 ต.ค.) กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) มีวิทยุสั่งการในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึง รอง ผบก.ทล.เลขที่ 0026.307/138 ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบาลที่กำลังถูกสังคมวิจารณ์อยู่ในขณะนี้ พร้อมกับปฏิเสธกรณีติดตั้งกล้อง 3 จุดหลักที่เครื่องแบบตำรวจ ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า

“ด้วยมีการเผยแพร่ข้อความทางสื่อมวลชนและโซเชียลเน็ตเวิร์คเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้กล้องแอบถ่าย (กล้องปากกา, กล้องกระดุม) เพื่อล่อถ่ายภาพและบันทึกเสียงการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ โดยหากเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใดจับกุม ผู้ให้เงินสินบนได้ จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท นั้น

จึงให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นประชุมชี้แจงเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทุกนายให้ทราบและเข้าใจว่า ผู้บังคับบัญชาและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ไม่มีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นการสร้างความแตกแยกและความหวาดระแวงระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันเป็นการขัดต่อนโยบายของผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องลดความหวาดระแวงระหว่างประชาชน รวมทั้งให้ระมัดระวังการถูกถ่ายภาพและบันทึกเสียงจากประชาชน และงดเว้นการล่อถ่ายภาพ การให้เงินสินบนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง

ทั้งนี้ หากพบว่าข้าราชการผู้ใด ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาข้อบกพร่องต่อไป”

นอกจากนี้ ท่ามกลางกระแสวิจารณ์อย่างสังคม พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร อดีตรองผู้บังคับการ สำนักกฎหมายและคดี กลับมีแนวความคิดที่แตกต่าง โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก เสนอตั้งเงินรางวัล 10,000 บาท ให้กับประชาชน ที่สามารถนำหลักฐานการเรียกรับสินบนของตำรวจจราจรมาเผยแพร่ โดยอ้างว่าเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตรวจสอบซึ่งกันและกัน และยืนยันว่าตำรวจไม่ควรมีรางวัล เพื่อจูงใจให้ปฏิบัติหน้าที่


ขอขอบคุณข่าวจาก