new

 

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวเล่าว่า ตนเองถูกผู้หญิงคนหนึ่งจิกผม กระชากหัวลงจากบันไดเลื่อน โดยคาดว่าอีกฝ่ายไม่พอใจเหตุที่ตนเองจองที่นั่งบนรถตู้สาธารณะ สำหรับเรื่องราวทั้งหมด มีดังนี้

“ขอเตือนภัยสำหรับคนที่โดยสารรถตู้เป็นประจำ โปรดมีสติกับทุกๆ สถานการณ์ค่ะ

จากเหตุที่เกิดขึ้น วันที่ 14 กันยายน 2563 เวลาประมาณ 6.30 – 7.30 น. ถูกกระชากหัวลงจากบันไดเลื่อนที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เราต่อคิวรถตู้ จากฟิวเจอร์พาร์ครังสิต มาลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อมาทำงาน (ซึ่งปกติขับรถยนต์ส่วนตัวมาเอง แต่เนื่องจากเป็นเช้าวันจันทร์และต้องมาทำงานด่วนเช้ามาก) เลยตัดสินใจเดินทางโดยรถตู้สาธารณะ

ขณะที่เราต่อคิวกำลังเดินขึ้นรถตามปกติ มันเหลือที่ข้างหลังสุดและที่ด้านหน้าติดประตูทางออก เราเลยเอาของวางไว้ตรงที่นั่งด้านหน้า แล้วหลีกทางให้คนอื่นขึ้นก่อน จนถึงพี่ผู้หญิงชุดสีเทาเป็นคนสุดท้าย เขาไม่ขึ้นรถบอกว่าจะนั่งตรงนี้ ที่เราวางของไว้ ซึ่งเราไม่เข้าไปเพราะเราเวียนหัวและจะเมารถ

คนขับเลยมาถามว่าลงที่ไหน เราบอกอนุสาวรีย์ พี่เขาก็จะลงอนุสาวรย์ และใครมาก่อน เราก็บอกว่าเรามาก่อน แต่เหตุการณ์เหมือนจะเริ่มไม่ปกติ เพราะพี่เขาเริ่มมีอารมณ์ ว่าเราว่า “ไม่ควรจองที่ มาก่อนก็เข้าไปข้างใน เป็นคนยังไงทำไมเห็นแก่ตัว นิสัยแย่มาก” คือเรางงมาก เพราะเรามาก่อนแค่เอาของวางจองที่แล้วไม่ได้ขวางคนอื่นขึ้นรถด้วย คือเข้าใจว่า เรามาก่อนสามารถเลือกที่นั่งได้ก่อน แต่เราไม่พูด ไม่ตอบโต้ใดๆ ทั้งสิ้น

พี่คนขับรถตู้เลยมาบอกเราให้เข้าไป เราก็ยอมเข้าไป รถจะได้ออก เพราะรีบไปทำงานด้วย พอขึ้นรถมานึกว่าพี่เขาไม่มีอะไรแล้ว เราก็ยอมมานั่งข้างในแล้ว แต่พี่เขาก็พูดขึ้นในรถอีก “นิสัยแย่มาก นิสัยไม่ดี สันดาน” คือไม่รู้ว่าด่าเราหรือเปล่า แต่เขาคงไม่ว่าคนอื่นมั้ง

เราก็คิดว่าคงจบละ เขาคงไม่ว่าอะไรแล้ว จนรถมาถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ พี่เขาลงก่อนเพราะอยู่ด้านหน้า เราลงทีหลัง แต่พี่เขาเดินอ้อมมาเจอเราพอดี แล้วก็ตามมาว่าต่อ เราก็พยายามเดินหนีไม่อยากมีเรื่อง แล้วกำลังจะโทรหาเพื่อน แต่เขาก็ยังตามมา จนมาถึงบันไดเลื่อน เรากำลังจะขึ้น #เขาดึงหัวเราแล้วลากไปทางบันไดลงอีกขั้น แล้วพี่เขาก็ยืนด่าต่ออีก

เราก็พยายามไม่ตอบโต้ และขยับออกห่าง แล้วเอามือถือถ่ายเหตุการณ์เพื่อป้องกันตัวเอง กรณีเขาจะมาทำร้ายเราอีก เขายังยืนด่า เราก็พยายามออกห่าง ถอยออกไม่ให้เขาถึงตัว จนเขาเดินแยกขึ้นบันไดเลื่อนไป แต่ก็ยังมีชี้หน้ากลับมา จนพี่เขาขึ้นไปสุด พอเราเห็นว่าปลอดภัยแล้วก็รวบรวมสติ (เอาจริงๆ ตอนนั้นก็กลัวด้วย ตกใจมากด้วย และร้องไห้ โทรหาแฟนก่อน และโชคดีที่ยังไม่ทันก้าวขี้นบันไดเลื่อนไป งั้นคงเจ็บกว่านี้)

เราเดินไปหาพี่ที่ร้านขนมข้างบันไดเลื่อน ถามว่ามีกล้องวงจรปิดมั้ย คือเราคิดว่าจะแจ้งความ และไปขอให้พี่คนขับรถตู้มาช่วยเป็นพยานให้ และได้เข้าแจ้งความที่ สน.พญาไท แล้ว

จากเหตการณ์ที่เกิดขึ้น เรารู้เลยว่า สิ่งที่ต้องมีที่สุดคือ สติ เพราะจะทำให้เราระงับอารมณ์ได้และไม่ทำให้สถานการณ์รุนแรงไปมากกว่านี้ค่ะ”

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อีจันได้ติดต่อไปยัง คุณบุ๋ม เจ้าของเรื่อง โดยคุณบุ๋มเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามที่ตนเองได้เล่าไว้ในเฟซบุ๊กทั้งหมด ตอนนั้นตนทั้งเจ็บ ทั้งตกใจ และกลัวด้วย แต่ตนก็พยายามตั้งสติ บอกตามตรงว่าไม่คิดว่าจะมาเจออะไรแบบนี้ ตนกำลังจะขึ้นบันไดเลื่อน ก็ถูกอีกฝ่ายลากลงบันไดมา ซึ่งตอนนั้นตนทำได้เพียงเอาตัวเองออกมาจากมือของเขาให้เร็วที่สุด

“เราพยายามบอกเขาว่า ตอนอยู่บนรถเราก็ไม่ได้ว่าอะไรเขา และก็ยอมให้เขานั่งที่ตรงนั้นแล้ว พยายามจะอธิบายให้รู้ว่าเราไม่ได้อะไรเลย” คุณบุ๋ม กล่าว

ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน เพราะว่าอีกฝ่ายใส่แมสก์ ทำให้เห็นหน้าไม่ชัด ซึ่งถ้าหากทราบตัว และได้หากได้เจอกันอีก ตนก็อยากจะถามว่า ทำไมถึงต้องมาทำร้ายร่างกายกัน เพียงเพราะแค่เรื่องที่นั่งรถตู้ ถ้าถามว่าตนเองให้อภัยอีกฝ่ายได้ไหม ก็ให้อภัยได้ ถ้าอีกฝ่ายยอมรับผิด


ขอขอบคุณข่าวจาก