ศึกแดงเดือด

ควันหลงศึกแดงเดือด เกมแรกประจำฤดูกาลนี้ ณ สนามโอด แทร็ฟฟอร์ด ก็ผ่านพ้นไป ด้วยชัยชนะของ ‘ปีศาจแดง’ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไล่ถล่ม ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ไป3-0 จากผลงานของ รูนี่ย์,มาต้าและฟาน เพอร์ซี่

โดยก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นบรรดาสื่อหลายสำนักยกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีสถานภาพเหนือลิเวอร์พูล จากอันดับในตารางคะแนนและผลงานในช่วงหลัง รวมทั้ง “ผีแดง” ยังได้เปรียบในเรื่องสภาพจิตใจ

ต่างจาก”หงส์แดง”ที่พึ่งตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์มาหมาดๆ แถมผลงานในลีกก็อยู่กลางตารางจนมีสื่อพร้อมใจกันเล่นข่าวว่า “บีร็อด” อาจจะถูกปลดในเร็ววัน

แม้ว่า”ศึกแดงเดือด” ในระยะหลังดีกรีความน่าสนใจจะลดน้อยถอยลงไปบ้าง เนื่องจากผลงานของทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และลิเวอร์พูล “ทำได้ไม่ดีเอาซะเลย”

แถมเกมนี้บรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดแฟนบอลก็หายไปเยอะ อย่างแมนฯยูฯ ที่ไม่มี “พี่ด็อบบี้” อังเคล ดิ มาเรีย ที่เจ็บอยู่

ส่วนลิเวอร์พูล ไม่มี “หม่อมกัด” หลุยส์ ซัวเรซ ที่ขายให้บาร์ซ่าไปแล้ว “แดเนียล สเตอร์ริดจ์” ที่บาดเจ็บ หรือ “สตีเว่น เจอร์ราร์ด” เองก็โรยราไปตามวัย ไม่ร้อนแรงเหมือนสมัยหนุ่มๆ

แต่ทว่าด้วยคำว่าศักดิ์ศรีของสองทีมที่สวมยูนิฟอร์มสีแดง ยังคงมีมนต์ขลังของ “ศึกแดงเดือด” ได้อย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะเป็น การปะทะทั้งทางด้านจังหวะการสกัด และ อารมณ์ร่วมกับเกม ระหว่าง ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายที่ยังคงการันตีความเข้มข้นของเกมได้เสมอ (แต่ทำไมสกอร์ออกมาไม่สูสีเหมือนรูปเกมนะ)?

ซึ่งรูปเกมช่วงแรก ลิเวอร์พูล บุกกดดัน แมนฯยูฯ ได้อย่างหนักหน่วงและน่ากลัว จน”เจ้าฟู” สติแตกเกิดลื่นไปเสียบขาลัลลาน่า รับใบเหลืองไปตั้งแต่ 5 นาทีแรก

แต่ไม่น่าเชื่อมาถึงนาทีที่ 11 กลับเป็นแฟน “ปีศาจแดง” ที่ได้เฮซะงั้น จากจังหวะเติมเกมของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย เข้าไปจ่ายบอลให้ เวย์น รูนีย์ วิ่งมายิงเน้นๆเข้าประตูไป

จากจังหวะนี้เห็นได้ชัดเลยว่า แดนกลางของ “หงส์แดง” ไม่ตามประกบ รูนีย์ ปล่อยให้วิ่งมายิง รู้ทั้งรู้ว่าเป็นลูกถนัดของ”เจ้าหมูอวกาศ”

ต่อจากนั้นลิเวอร์พูล บุกหนักและมีโอกาสหลายครั้ง จากลูกยิงของน้าเจิดและหลานสเตอร์ลิ่ง แต่ก็ไม่ผ่าน เด เคอา

ขณะที่ “หงส์แดง” กำลังบุกอย่างเมามันส์นั้น กลับต้องมาดวงแตกอีก เมื่อมาเสียประตูที่สอง นาทีที่ 40 จากจังหวะเปิดบอลของ แอชลี่ย์ ยัง เข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ฟาน เพอร์ซี่ โหม่งเช็ด(แต่ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเปล่า) บอลเลยมาถึง ฆวน มาต้า โขกจ่อๆเข้าไป

ซึ่งภาพช้านั้น มาต้า น่าจะล้ำหน้าไปแล้ว แต่ไม่มีธงจากผู้ตัดสิน ก่อนจบครึ่งแรก แมนฯยูฯ นำ 2-0

เริ่มครึ่งหลัง เชื่อเหลือเกินว่าเกมน่าจะสนุกขึ้น และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกใส่กัน แต่ที่น่าเสียดายที่สุดเป็นลูกหลุดเดียวของ สเตอร์ลิ่ง จากความผิดพลาดของแนวรับ”ผีแดง” แต่เจ้าตัวดันยิงไปติดขา เดเ คอา ซะอีก

และช่วงนาทีที่70 สาวก”หงส์แดง”เงียบสงัดทันที เมื่อมาเสียประตูที่สาม เมื่อกองหน้าดัตช์แมน ที่แปเข้าไปง่ายๆ

ช่วงท้ายเกมก่อนทดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด ถอยลงไปตั้งรับประคองสกอร์ที่นำอยู่เปิดโอกาสให้ลิเวอร์พูลทำเกมรุกเข้ากดดันโจมตี

และมีลุ้นหลายต่อหลายครั้ง จากลูกยิงของกองหน้าน้ำพริกละลายแม่น้ำ บาโลเตลลี่ ที่กดไปเท่าไร ก็ไม่ผ่าน “เทพลามะ” ที่สวมวิญญาณปลาหมึก สุดท้ายช่วยผีทุบหงส์ แบบหล่อๆ ไปเลย

บทเรียนจากศึกแดงเดือดครั้งนี้ ความผิดพลาดในการประกบและความเด็ดขาดในการทำประตูเป็นตัวตัดสินเกมนี้ ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าตลอด 90 นาที และที่สำคัญ”ผีแดง” มี เด เคอา แต่ “หงส์แดง” ไม่มี !!

“เด เคอา” มือปราบหงส์แดง

เรื่องโดย : มิดไนท์

cr sanook


ขอขอบคุณข่าวจาก