สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง มิตซูรุ(สรวิชญ์ สุบุญ) แพทย์ทหารหน่วยเสนารักษ์ รักอยู่กับคุณริ้วทอง (พริมา พันธุ์เจริญหลานสาวพระยาโกศลโยธารักษ์(ราม ราชพงษ์) และ คุณหญิงแก้ว(สุรัตนา ข้องตระกูล) มิตซูรุตั้งใจจะแต่งงานกับริ้วทองเมื่อสงครามเลิก แต่ทั้งคู่ต้องตายจากกัน เพราะฝีมือของพันตรีอะกากิ ซัน(อภินันท์ ปรเสริฐวัฒนกุล) และ อิซามุ(โชคชัย บุญวรเมธี)ส่วนอื่นๆก็ตายเพราะระเบิดในสมัยสงครามโลก

มิตซูรุมาเกิดในชาติภพใหม่ เป็นนักเรียนแพทย์ชื่อบูรพา ส่วนริ้วทอง เกิดใหม่เป็นส้มเช้ง ลูกสาวคนเล็กของนายวิมุต หรือ มด(ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) และสุทธินี(สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ)มีลูกสาวคนโตชื่อมะนาว(เจสสิก้า ภาสะพันธุ์) และลูกชายคนรองแตงโม(อัครพล อังสุภูติพันธ์)

วิมุตเป็นเจ้าของไร่ผลไม้ริมคลองบางกรวย เป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์จิตรกรรมให้ แก่วัดไทย เป็นนักอนุรักษ์ผู้มีอุดมการณ์ ขณะที่ภรรยาเป็นนักธุรกิจที่ไม่มีเวลาให้ครอบครัว ทำให้ทั้งมะนาวและแตงโมเป็นเด็กก้าวร้าว ไม่เหมือนกับส้มเช้งที่พ่อคอยดูแลเอาใจใส่

ชมนาด หรือ ข้าวใหม่ (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เป็นหลานพระยาโกศลโยธารักษ์ ในอดีตก่อนที่ชมนนาดจะเสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือจากริ้วทองจนกลายเป็นหนี้ชีวิตต่อกัน หลังชมนาดเสียชีวิต ด้ยความรักและผูกพัน ชมนนาดจึงอยู่เพื่อรอคอยตามสัญญากรรม เพื่อช่วยเหลือริ้วทอง และ ปกป้องเรือนไทย เป็นวิญญาณผู้จงรักภักดีต้องการช่วยให้บูรพา และ ส้มเช้งในชาตินี้ได้สมหวังและมีความสุข

เช่นเดียวกับ ร้อยเอกริโอจิ(มาวิน ทวีผล)วิญญาณทหารญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง คอยวนเวียนอยู่คู่กับชมนาด เป็นดวงวิญญาณที่มีความแค้นฝังใจกับพันตรีอะกากิ ซัน และอิซามุ ทำให้ไม่สามารถไปเวียนว่ายตายเกิด ทั้งคู่คอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆส้มเช้งและบูรพา ทั้งคอยช่วยเหลือให้พ้นภัยจากคนร้ายกาจอย่างชนพ(อภินันท์ ประเสริฐวัฒนกุล) และ องอาจ(โชคชัย บุญวรเมธี) ซึ่งก็คือ พันตรีอะกากิ ซัน และ อิซามุ ซึ่งในอดีตคือคนที่ทำให้มิตซูรุ และ ริโอจิ ต้องตายอย่างโหดเหี้ยม

ส้มเช้งและ บูรพา มาเจอกันใหม่ก็จำกันไม่ได้ แถมเจอหน้ากันก็ยังชวนทะเลาะกันตลอด บูรพาเป็นลูกของชิดจันทร์(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) และเป็นหลานของหลวงตาบุญมี(ยอดชาย เมฆสุวรรณ) ได้รับการอบรมสั่งสอนจากวัดมาแต่เด็ก ทำให้เป็นเด็กดี มีความกตัญญู มีเพื่อนเด็กวัดร่วมแก๊งค์คือเสือ(ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ) หมู(เบนจามิน) และ ป๋อง(คิง ก่อนบ่าย)

บูรพาเรียนแพทย์ใกล้จบ เป็นแพทย์ฝึกอาสาช่วยเหลือชาวบ้าน มีเพื่อนร่วมรุ่นตะวันฉาย(การัญชิดา คุ้มสุวรรณ) ที่ไปไหนไปด้วยกัน โดยตะวันฉายชอบบูรพา แต่บูรพาไม่ได้สนใจ ชมนาดกับริโอจิพยายามที่จะจัดฉากสานต่อให้บูรพาและส้มเช้งจำกันได้ แต่ก็ไม่สำเร็จเสียที ทำให้ขัดใจยิ่งนัก แต่ด้วยความรักความผูกพันที่มีมา บูรพากับส้มเช้งค่อยๆซึมซับ และสนิทสนมกันมากขึ้น แม้จะดีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็เริ่มรักกันโดยไม่รู้ตัว

มีเหตุการณ์หลายครั้งที่ทั้งคู่ได้มีโอกาสช่วยเหลือ ช่วยชีวิตกัน และเกิดเป็น ความประทับใจในกันและกัน ด้านคุณยายโสภา(พนารัตน์ พิสุทธิ์ศักดิ์ บุนนาค) แม่ของสุทธินี เลี้ยงลูกและหลานแบบตามใจในทางที่ผิด ทำให้มะนาว กับ แตงโม เอาแต่ใจตัวเอง หลงทางผิด

ขณะที่สุทธินีก็หลงไปกับคำหวานของชนพ คิดจะเลิกกับพ่อมดไปแต่งงานด้วย ด้านมะนาวก็หลงไปคำลวงขององอาจ ล่อลวงไปทางเสียหาย เกือบจะเสียผู้เสียคน ดีที่ส้มเช้งและบูรพาไปช่วยเอาไว้ โดยมีวิญญาณผู้ภักดีอย่างชมนาด และ ริโอจิ คอยช่วยตลอด และถ้าหากเข้าไปในบ้านเรือนไทยของท่านพระยาโกศลโยธารักษ์ ก็จะมีดวงวิญญาณทั้งของท่านพระยา คุณหญิง บ่าวไพร่ในบ้าน รวมทั้งเจ้าเด็กแกละ และเด็กจุก คอยช่วยคุ้มครองบูรพาและส้มเช้ง

องอาจแค้นบูรพา ไปดักยิงบูรพา แต่ส้มเช้งโดดเข้าขวางกระสุนแทน ทุกคนตกใจที่ส้มเช้งถูกยิง บูรพากับองอาจแย่งปืนกัน บูรพาถูกยิง ภาพเหมือนตอนที่มิตซูรุโดนอิซามุยิง พ่อมดรีบพาส้มเช้งและบูรพาส่งโรงพยาบาล ส่วนองอาจโดนตำรวจไล่ล่าและโดนยิงตายในที่สุด ในช่วงความเป็นความตายส้มเช้งได้เห็นเรื่องราวในอดีต ส้มเช้งได้รู้ว่าตัวเองคือคุณริ้วทอง คนรักของร้อยเอกนายแพทย์มิตซูรุ และภาพเหตุการณ์วันที่มิตซูรุถูกอิซามุยิง ริ้วทองวิ่งเข้าไปประคองร่างมิตซูรุที่ค่อยๆหมดลมหายใจ มิตซูรุสัญญาว่าจะตามมาพบคุณริ้วทองทุกชาติไป และภาพต่อไปคือภาพที่ริ้วทองอยู่ในหลุมหลบภัย ภาพที่เห็นสุดท้ายคือระเบิดถูกทิ้งลงมา ริ้วทองเสียชีวิตท่ามกลางความเสียใจของข้าวใหม่และทุกคนในเรือนไทย

ส้มเช้งฟื้นคืนสติขึ้นมาอย่างปลอดภัย เธอถามหาบูรพา ที่ยังอาการสาหัสอยู่ เรื่องราวความรักข้ามภพข้ามชาติ ของบูรพาและส้มเช้ง จะดำเนินไปอย่างไรก็ต้องติดตามชม.

ออกอากาศ: ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 18.30 น.
นำแสดงโดย: ก้อง สรวิชญ์ , พริม พริมา , วิน มาวิน , กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ , บอย โชคชัย , เจสสิก้า
บทละครโดย: โสภาค สุวรรณ
อำนวยการผลิตโดย: จริยา แอนโฟเน บริษัทเมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
กำกับการแสดงโดย: ปิยะพงษ์ คำภากุล