รักเร่

รักเร่

วายูน (เขมนิจ จามิกรณ์) นักศึกษาสาวไทยวัย 20 ปี ที่มาเรียนวิชาแปลภาษาและล่ามอยู่ ณ มหาวิทยาลัยเวียนนา ประเทศออสเตรียนั้น ความฝันอันสูงสุดของเธอ คือ การได้ทำงานเป็นล่ามในองค์การสหประชาชาติ แต่ความฝันของเธอนั้นก็ใช่ว่าจะกลายเป็นจริงได้ง่ายๆ เพราะนอกจากความยากของศาสตร์ที่เธอเลือกเรียนแล้ว เธอก็ยังต้องอดทนต่อการเป็นอยู่ที่แร้นแค้นอีกด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะวายูนนั้นเป็นเด็กกำพร้า เติบโตขึ้นมาได้จากการเลี้ยงดูของ ตาผิน (สรพงศ์ ชาตรี) อาภักดิ์ (ทูน หิรัญทรัพย์) และ อาพร้อมจิต (พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ) ซึ่งช่วยกันเลี้ยงเธอ ภายหลังที่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอเสียชีวิต เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ไปพร้อมกัน และด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่สู้จะดีนักนี้ ทำให้ชีวิตของวายูนในต่างประเทศค่อนข้างอัตคัดขัดสนเป็นอย่างยิ่ง แต่เธอก็ไม่เคยบ่น สู้อดทน และมุ่งมั่นที่จะคว้าปริญญาไปให้ผู้เป็นตา และอาทั้งสองได้ชื่นชมให้จงได้

เช้าวันหนึ่งวายูนตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวไปเรียนเช่นทุกวัน แต่เธอกลับพบว่าเตียงของ ไฮดี้(มาริสา แอนนิต้า) เพื่อนรักที่เรียนร่วมชั้น และเช่าห้องพักใต้หลังคาอยู่ด้วยกันนั้นว่างเปล่า มีเพียงโน้ตเขียนทิ้งไว้สั้นๆ ว่าวันนี้ไฮดี้จะไม่ไปเรียน 1 วัน เพราะมีธุระ วายูนจึงเดินไปเรียนแต่เพียงลำพัง

ที่มหาวิทยาลัย นิโคไล โวดิอาคิน (อัษฎา พานิชกุล) เพื่อนร่วมชั้นเรียนของวายูน ซึ่งเป็นคนรัสเซียเห็นไฮดี้ไม่มาด้วย จึงฉวยโอกาสหาจังหวะเอ่ยปากบอกรักวายูน แต่วายูนบอกว่ารักเขาอย่างเพื่อน แต่นิโคไลก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขายืนยันว่าแม้วันนี้เธอจะยังไม่รักเขา แต่เขาก็จะรักเธอและรอวันที่เธอรักเขาให้จงได้ วายูนไม่คิดเลยว่านิโคไลจะมั่นคงในความรักของเขาดังเช่นที่ปากพูดอย่างนั้นตลอดชีวิตของเขาเลยทีเดียว

แต่เย็นวันนั้นเมื่อวายูนเรียนเสร็จและกลับห้องเช่าก็พบว่าไฮดี้ป่วยหนัก เธอกับ คาร์ล(พิศาล ศรีมั่นคง) แฟนของไฮดี้จึงช่วยกันพาไฮดี้ส่งโรงพยาบาล วายูนจึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ไฮดี้ป่วยหนักนี้ เพราะไปทำแท้งมา คาร์ลบอกว่าเขาและไฮดี้ยังเรียนหนังสืออยู่ด้วยกันทั้งคู่ จึงยังไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวร่วมกันในเวลานี้ วายูนอึ้งมากกับความคิดและการกระทำของเพื่อนรักของเธอ และเมื่อไฮดี้ฟื้นขึ้นมา เธอก็บอกวายูนว่าวิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมอย่างเรา การมีลูกอาจทำให้เรียนไม่จบอนาคตที่วาดหวังไว้อาจพังทลาย และแม้จะเสียใจเพียงไรแต่ก็ไม่เห็นทางออกที่ดีกว่านี้ และว่า..ถ้าวายูนไม่มาตกอยู่สถานะเช่นเดียวกันกับเธอ วายูนก็คงไม่เข้าใจหรอก วายูนนิ่งไปเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าเป็นเธอ เธอจะตัดสินใจอย่างไร จะทำแท้งอย่างเช่นไฮดี้หรือไม่ แต่วายูนเชื่อว่าเธอคงจะไม่ชิงสุกก่อนห่าม มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับใครก่อนเวลาอันควร เพราะฉะนั้นเธอก็คงจะไม่ต้องมาตัดสินใจทำสิ่งเลวร้ายดังเช่นที่ไฮดี้และคาร์ลตัดสินใจทำเช่นนี้เป็นอันขาด วายูนคิดแต่จะเรียนให้จบได้ปริญญาเอากลับไปให้ตาและอาทั้งสองภาคภูมิใจให้ได้!

รามิล รณลักษณ์ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) ด็อกเตอร์หนุ่ม หน้าตาดี อนาคตทางวงการทูตไกล เพิ่งมาถึงประเทศออสเตรีย เพื่อรับตำแหน่งเลขาฯ โท คนใหม่ ท่านทูต (ท่านอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์) จึงได้แนะนำว่าให้เขาไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ของออสเตรียให้ทั่ว เพื่อจะได้รู้จักประเทศนี้ได้ดียิ่งขึ้น ปรัชญา(นพพล พิทักษ์โล่พานิช) เพื่อนสนิทของรามิล ซึ่งมีธุรกิจส่งออกเป็นกิจการของครอบครัวของเขาเอง ทำให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ จึงแนะนำให้รามิลจ้างนักศึกษาไทยที่อยู่ในกรุงเวียนนาเป็นคนนำเที่ยว เพราะค่าจ้างจะถูกและพวกนักศึกษาเหล่านี้จะรู้จักสถานที่สำคัญๆ ต่างๆ ของออสเตรียค่อนข้างดีทีเดียว รามิลเห็นด้วย ในขณะที่ ดามพ์ (ภาณุ สุวรรณโณ) เพื่อนสนิทของเขาอีกคนกลับยุให้เขาจ้างนักศึกษาสาวๆ อย่างที่ปรัชญาแนะนำ แต่ให้เป็นเพื่อนเที่ยวและเพื่อนนอนไปในเวลาเดียวกัน ทำให้ปรัชญาไม่พอใจที่ดามพ์เห็นผู้หญิงเป็นเพียงของเล่น เพื่อนทั้งสองของรามิลจึงมีปากเสียงกัน รามิลจึงตัดบทว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้หญิง ถ้าคนที่เขาจ้างมายินดีจะเป็นทั้งเพื่อนเที่ยวและเพื่อนนอน รามิลก็ไม่ว่าอะไร

รามิลตัดสินใจจ้างวายูนตามคำแนะนำของท่านทูตที่รู้จักกับวายูนมาก่อน และเห็นว่าเป็นเด็กดีแต่ยากจน นิโคไลไม่เห็นด้วยที่วายูนจะรับจ้างพารามิลออกตระเวนเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ในออสเตรียอย่างนั้น มันเป็นความหวงในตัวผู้หญิงที่เขารักนั่นเอง และลึกๆ นิโคไลกลัวว่าวายูนจะเผลอใจไปกับนักการทูตหนุ่มคนนั้น ที่มีทั้งรูปสมบัติ และคุณสมบัติครบถ้วน ผิดกับตัวเขา ที่เป็นเพียงนักศึกษาจนๆ ชาวรัสเซียคนหนึ่งเท่านั้น แต่วายูนยืนยันที่จะทำงานนี้ เพราะเธอต้องการหารายได้พิเศษเพิ่มมากขึ้น เพราะเธอไม่ต้องการรบกวนเงินจากทางบ้านที่เมืองไทยมากเกินความจำเป็น

อีกคนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยกับรามิลที่จะจ้างนักศึกษาไทยพาเที่ยวนี้ ก็คือ คุณหญิงนิต้า(สุพรรษา เนื่องภิรมย์) ภรรยาท่านทูต ซึ่งเป็นเพื่อนรักกับ คุณนิตยา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ซึ่งเป็นน้าแท้ๆ ของรามิล และเลี้ยงดูรามิลมาตั้งแต่ยังเล็ก หลังจากที่พ่อแม่ของรามิลตาย คุณนิตยานั้นเป็นสาวใหญ่ไม่แต่งงาน เพราะมีความเชื่อว่าผู้ชายที่เข้ามาหาเธอนั้นล้วนแล้วแต่หวังสมบัติของเธอมากกว่าจะจริงใจด้วย หนำซ้ำคุณนิตยายังเอาความคิดความเชื่อนี้ฝังหัวรามิลอีกด้วยว่า ผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ห้อมล้อมอยู่รอบตัวรามิลนั้น ล้วนแล้วแต่หวังผลประโยชน์จากรามิลทั้งสิ้น เพราะรามิลนั้นทั้งหน้าตาดี มีฐานะ เป็นทายาทมหาเศรษฐีอย่างคุณนิตยา และมีหวังจะได้เป็นทูตที่หนุ่มที่สุดของไทยคนหนึ่งเลยทีเดียว คุณนิตยาจึงฝากให้คุณหญิงนิต้า คอยเป็นหูเป็นตาแทนเธอ คอยดูว่ามีสาวใดมาเกาะแกะหลานชายของเธอหรือไม่ คุณหญิงนิต้าเมื่อรู้ว่ารามิลจะจ้างนักศึกษาหญิงพาเที่ยว ก็มองในแง่ร้ายขึ้นมาทันที กลัวว่านักศึกษาหญิงผู้นั้นเมื่อรู้ว่ารามิลเป็นใคร และมีฐานะอย่างไร ก็อาจจะคิดจับแต่งงานหวังยกฐานะทางลัด ทำให้คุณหญิงนิต้าไม่ชอบหน้าวายูนเลย แล้วเลยพาลพาโลเอากับท่านทูตที่เป็นคนแนะนำวายูนให้กับรามิล ทำให้สองสามีภรรยาต้องมีปากเสียงกันอยู่เนืองๆ คุณหญิงนิต้าจึงตัดสินใจโทรไปบอกเรื่องนี้กับคุณนิตยาที่เมืองไทย ทำให้คุณนิตยาตัดสินใจที่จะบินมาหาหลานชายที่ออสเตรียทันที ที่ปลีกตัวจากธุรกิจอันเร่งร้อนของเธอได้ อย่างไรก็ตาม วายูนก็ได้พารามิลไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญๆ หลายแห่งของออสเตรีย ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือดูแม่น้ำดานู้ป ไปชมปราสาทที่ซัลบวร์ก พระราชวังเชินบรุนน์ และที่อื่นๆ อีกมากมาย ตลอดระยะเวลาที่วายูนทำหน้าที่นำเที่ยวนี้ รามิลก็แอบหลงปลื้มในความสวย และเก่งในการใช้ภาษาต่างประเทศ ซึ่งวายูนพูดและฟังได้ดีถึง 3 ภาษาเลยทีเดียว

ขณะเดียวกันวายูนผู้ซึ่งขาดพ่อ และเติบโตมาอย่างว้าเหว่ ก็เริ่มตกหลุมรักรามิล ที่สุภาพ อ่อนโยน และดูอบอุ่น ในที่สุด ณ บ้านพักริมทะเลสาบ รามิลกับวายูนจึงมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งต่อกัน ดามพ์คอยถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างรามิลกับวายูนอย่างคะนองปาก เป็นทำนองว่าถ้าได้ฟันแล้วก็ทิ้งไป ทำให้ปรัชญาอดรนทนไม่ไหวชกต่อยกับดามพ์ และเมื่อคุณนิตยาบินมาถึงออสเตรีย เธอก็ใช้เส้นสายทุกวิถีทางเพื่อย้ายรามิลให้ไปทำงานที่ประเทศอื่นในยุโรปแทน แต่กว่าจะทำเรื่องย้ายได้ ก็เกิดเหตุอันไม่คาดคิดมาก่อน นั่นคือวายูนท้อง!

วายูนมารู้ตัวว่าท้องเมื่อเป็นลมล้มไปหลังจากเรียนหนักติดต่อกันมาหลายชั่วโมง โชคดีที่นิโคไลรับร่างของวายูนไว้ได้ทันก่อนจะฟาดพื้น และพาไปหาหมอทันที วายูนรู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาดลงที่กลางใจเมื่อรู้ว่าเธอตั้งท้องกับรามิล ผู้ชายคนแรกในชีวิตที่สอนให้เธอรู้จักคำว่า “รัก” แต่เธอก็สับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดีกับเรื่องที่เกิดขึ้น เธอจึงตัดสินใจโทรบอกเรื่องนี้แก่รามิล แต่ทว่ารามิลงานยุ่งมาก ทั้งงานสถานทูต และงานที่คุณนิตยา และคุณหญิงแกล้งไหว้วานให้ทำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่มีเวลาไปพบกับวายูนอีก โดยมีปัทมา(ณัฏฐพัชร วิพัธตระกูล)คนสนิทของคุณนิตยา กับ กัญญารัตน์(มยุริญ ผ่องผุดพันธ์) คนสนิทของคุณหญิงนิต้าช่วยด้วยอีกแรง ยิ่งปัทมานั้นเคยหลงรักรามิลมาตั้งแต่แรกสาว แต่รามิลไม่เคยมีตามองเธอเลยสักครั้ง ปัทมาจึงคิดว่าเมื่อเธอไม่ได้รามิล เธอก็จะไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนได้เขาไปง่ายๆ เช่นกัน ปัทมาจึงเป็นตัวที่คอยช่วยคุณนิตยากีดกันวายูนไม่ให้เข้าถึงตัวรามิลได้ ขณะเดียวกัน เพียงเพ็ญ (ม.ล.สราลี กิตติยากร) ซึ่งเพิ่งมาเรียนต่อด็อกเตอร์ที่นี่ด้วยทุนของบริษัทที่คุณนิตยาถือหุ้นใหญ่อยู่ ก็สนใจในตัวรามิลมาก เธอพยายามให้ท่าเขาทุกอย่าง แต่รามิล กลับไม่สนใจ เพราะกำลังงานยุ่งมาก ดามพ์ที่มาหารามิลจึงถือโอกาสตีสนิทกับเพียงเพ็ญเสียแทน

นิโคไลปวดใจมากเมื่อรู้ว่าวายูนท้อง เขารักเธอ และเฝ้าถนอมเธอ ไม่เคยล่วงเกินแม้สักครั้ง เพราะรู้ว่าวายูนยังเป็นผู้หญิงเอเชียที่หัวเก่า แต่เมื่อเขารู้ว่าเธอท้องกับรามิลผู้ชายชาติเดียวกัน และแม้เขาจะปวดใจเพียงใด แต่ความรักที่เขามีต่อวายูนนั้นมากเกินกว่าที่เขาจะซ้ำเติมวายูนได้ลงคอ นิโคไลจึงอาสาพาวายูนไปพบรามิลที่บ้านพักของเขา วายูนขอให้นิโคไลรออยู่ข้างนอก เพราะเธออับอายในเรื่องที่จะพูดกับรามิล จึงไม่อยากจะพูดต่อหน้านิโคไล

ในบ้านพักของรามิล วายูนได้พบกับรามิลเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้พบหน้าเขามานานถึง 1 เดือน รามิลเห็นวายูนก็ดีใจรีบเข้ามาโอบกอดอย่างคุ้นเคย ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าการกระทำทั้งหมดนั้นล้วนอยู่ในสายตาของคุณนิตยาทั้งสิ้น และแล้ววายูนก็บอกกับรามิลว่าเธอกำลังท้องลูกของเขา แต่แทนที่รามิลจะดีใจ เขากลับยืนนิ่งอึ้งตะลึงงันค้างอยู่ วายูนรู้สึกปวดใจกับอากัปกิริยานั้นของรามิลเป็นอันมาก เธอนึกว่าเขาจะดีใจ ไม่ใช่เงียบงันเช่นนี้ และในจังหวะที่ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ คุณนิตยาก็ก้าวเข้ามา คุณนิตยาแกล้งใช้ให้รามิลไปหยิบของในห้อง แล้วคุณนิตยาจึงฉวยจังหวะนี้เซ็นเช็คให้วายูนเป็นเงินจำนวนมาก เพื่อให้ไปเอาเด็กในท้องออก และใช้ดูแลรักษาตัวจนกว่าจะหายดี แล้วเธอยังพูดจาดูถูกเหยียดหยามวายูน ที่บอกให้รู้ว่าวายูนนั้นไม่มีคุณสมบัติใดที่คู่ควรกับหลานชายสุดที่รักของเธอเลย และแม้รามิลจะกลับเข้ามาเห็นวายูนรับเช็คไปจากคุณน้าของเขา เขาก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี วายูนเห็นรามิลเงียบตลอด วายูนจึงรู้ว่ารามิลเห็นด้วยกับน้าของเขาที่จะให้เธอเอาลูกออก วายูนโกรธจนตัวสั่น ผิดหวังในตัวผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธออย่างที่สุด วายูนฉีกเช็คใบนั้นออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้วปาใส่หน้ารามิล และตบหน้ารามิล ก่อนจะวิ่งออกไป แล้ววายูนก็เป็นลมอยู่ที่หน้าบ้านรามิลนั่นเอง นิโคไลวิ่งเข้ามารับร่างของวายูนเอาไว้ได้ทัน คุณนิตยาเห็นอย่างนั้น เลยยิ่งยุรามิลว่าบางทีลูกในท้องของวายูน อาจเป็นลูกของหนุ่มรัสเซียคนนั้นก็ได้ อย่าได้ตกหลุมพรางของผู้หญิงที่คิดจะยกฐานะตัวเองอย่างวายูนอย่างง่ายๆ รามิลเองซึ่งเคยเห็นว่าวายูนนั้นอยู่ที่ออสเตรียนี้อย่างแร้นแค้นเพียงใด จึงหลงเชื่อในน้ำคำของคุณนิตยาอย่างง่ายดาย

หลังจากกลับจากบ้านของรามิล วายูนไม่พูดไม่จาอะไร เธอตกอยู่ในอาการซึมเศร้าอย่างน่าเป็นห่วง ยิ่งเมื่อรามิลตามมาพบเธอที่ห้องเช่าอีกครั้ง พร้อมทั้งเอาเช็คใบใหม่มาให้เธอ โดยยืนยันว่าเธอควรจะไปทำแท้งเสีย เพื่ออนาคตที่ดีของเธอเอง วายูนจึงถึงกับกรีดร้องใส่หน้ารามิล อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ รามิลไม่ยอมไป นิโคไลจึงลากตัวรามิลออกไป รามิลโมโหที่ถูกเด็กนักศึกษาทำกิริยาหยามเกียรติเขาเช่นนั้น จึงชกต่อยกัน ศิวาคนขับรถคนสนิทของรามิลจึงรีบเข้ามาลากตัวรามิลกลับบ้านไปก่อนที่เรื่องจะลุกลามบานปลายไปกว่านั้น ศิราณี (รุ้งลาวัณย์ โทนะหงษา) พี่สาวของศิวา ซึ่งเป็นแม่บ้านให้รามิล รู้เรื่องทุกอย่างจากศิวา แต่ศิวาบอกว่าเขาไม่เชื่อว่าวายูนจะเป็นเหมือนเช่นปัทมา หรือเพียงเพ็ญ ผู้หญิงคนนั้นไม่เหมือนใครเลย

หลังจากรามิลกลับไป วายูนตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไปทำแท้งเสียให้สิ้นเรื่องสิ้นราว เธอไม่ต้องการเก็บลูกที่พ่อของเด็กไม่ต้องการเอาไว้อีกต่อไป แต่คืนก่อนหน้าที่เธอจะไปทำแท้งนั้น เธอฝันเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นวิ่งเข้ามาจับมือเธอไว้ และเรียกเธอว่าแม่ ดังนั้นเมื่อวายูนไปถึงสถานที่ทำแท้ง เธอก็นึกถึงความฝันนั้น แล้วเลยตัดใจทำลายเด็กในท้องไม่ได้ วายูนตัดสินใจจะเก็บลูกเอาไว้ แม้นิโคไลและไฮดี้จะคัดค้าน และพูดให้วายูนเห็นแก่อนาคตของตัวเองเพียงใด แต่วายูนก็ตัดสินใจแล้วว่า ไม่ว่าเธอจะยากลำบากเพียงใด เธอก็จะเก็บเด็กเอาไว้ และลูกในท้องของเธอนี้ จะเป็นลูกของเธอแต่เพียงผู้เดียว

แผนการของคุณนิตยาสำเร็จลงจนได้ เธอใช้เส้นสายจนรามิลถูกย้ายไปทำงานที่ประเทศอื่น คุณนิตยาเชื่อว่าจะทำให้เรื่องยุ่งๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างรามิลกับวายูนจบสิ้นลงได้ เธอเชื่อว่าวายูนจะต้องไปทำแท้งในที่สุด แต่รามิลและคุณนิตยาคิดผิด วายูนเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวกว่าที่ใครคิด เธอยอมลำบากทุกอย่างเพื่อเก็บเด็กไว้ โดยไม่ขอความช่วยเหลือใดๆ จากผู้เป็นพ่อของเด็กเลยแม้แต่น้อย โดยมีไฮดี้และนิโคไลคอยช่วยเหลือและดูแลอยู่ไม่ห่าง นิโคไลบอกว่าแม้เธอจะเห็นเขาเป็นเพื่อน แต่เพื่อนคนนี้จะอยู่เคียงข้างเธอเสมอไม่ว่าเธอจะสุขหรือทุกข์ ทำให้วายูนซาบซึ้งในน้ำใจของนิโคไลมาก แต่เธอก็ยังไม่อาจทำใจให้รักนิโคไลได้ จนเมื่อวายูนท้องแก่ เธอตัดสินใจดร็อปเรียนลงชั่วคราว ไม่ปริปากบอกญาติผู้ใหญ่ทางเมืองไทยแม้เพียงสักเล็กน้อยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับเธออยู่ อาพร้อมจิตเข้าใจว่าวายูนเรียนหนัก จึงไม่บอกวายูนเรื่องตาผินตาย เพราะกลัวว่าวายูนจะเสียการเรียน

ครั้นถึงวันคลอด คนที่อยู่เคียงข้างวายูนก็ คือ นิโคไล ยิ่งเขาเห็นวายูนเจ็บปวดจากการคลอดมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรัก สงสาร และเห็นใจเธอมากขึ้นเท่านั้น วายูนไม่ยอมให้หมอบล็อกหลังหรือฉีดยาชาใดๆ ให้เธอ เธอต้องการคลอดอย่างธรรมชาติที่สุด และให้ความเจ็บนี้เป็นบทเรียนแก่ตัวเธอเองด้วยที่เผลอปล่อยตัวปล่อยใจให้กับผู้ชายที่ชื่อ “รามิล”

ขณะเดียวกันรามิลก็ไม่เคยลืมวายูนเลย แต่หน้าที่การงานอันยุ่งเหยิง ประกอบกับคำกรอกหูจากคุณนิตยาเรื่องวายูนไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีแต่คิดจะจับเขา ไม่ต่างอะไรจากหญิงอื่นที่รามิลเคยพบพานมาและเคยสนุกด้วย รามิลจึงกลับไปใช้ชีวิตหนุ่มอย่างเต็มที่ โดยมีดามพ์เป็นคู่หู ทำให้ปรัชญาไม่พอใจนัก ปรัชญาจึงมีปากเสียงกับรามิล และบอกให้รามิลน่าจะลองติดต่อวายูนดูบ้าง บางทีผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่รามิลคิด แต่ดามพ์กลับพารามิลออกไปเที่ยวและบอกให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อวายูนเสีย รามิลจึงหยุดคิดถึงวายูน และใช้ชีวิตร่อนเร่ เร่หารัก ต่อไปอย่างสนุกสนานกับชีวิตอย่างเต็มที่

หลังคลอด วายูนยิ่งมีความเป็นอยู่อย่างยากลำบากมากขึ้น เพราะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของเด็กอ่อนมากขึ้น แต่วายูนก็ไม่ยอมปริปากบอกญาติผู้ใหญ่ทางเมืองไทยอยู่ดี อาพร้อมจิตตัดสินใจบอกเรื่องตาผินตายเพราะใกล้จะเผาแล้ว ทำให้วายูนตกใจมาก ทีแรกเธอคิดจะบินกลับไปเมืองไทยเพื่อร่วมพิธีศพ แต่ติดที่เพิ่งคลอด และอาพร้อมจิตก็ไม่ต้องการให้เธอกลับเมืองไทย เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีปัญญาส่งเธอกลับมาเรียนอีกหรือไม่ วายูนจึงยิ่งมุมานะที่จะต้องเรียนให้จบรับปริญญาให้ได้ แม้จะจบล่าช้ากว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนไปถึง 6 เดือนทีเดียว และตลอดระยะเวลานั้นเธอก็ต้องทนสู้ต่อความยากลำบาก ทั้งการเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียวแบบซิงเกิ้ลมอม และการเรียนอันหนักหน่วงควบคู่กันไป ทำให้วายูนผ่ายผอมลงมาก แต่ตลอดระยะเวลาแห่งความยากลำบากนั้น นิโคไลไม่เคยทอดทิ้งวายูนเลย กระทั่งอาสารับเป็นพ่อเด็กให้แก่ลูกของเธอ แม้วายูนจะปฏิเสธความหวังดีนี้ แต่เธอก็บอกตัวเองว่า..สักวัน..เธอจะพยายามรักเขาอย่างที่เขารักเธอให้ได้

ในที่สุดวายูนก็เรียนจนจบ ลีล่า (ด.ญ.จิรดา โมแรน) ลูกของเธออายุเกือบขวบหนึ่งแล้ว นิโคไลซึ่งเรียนจบก่อน และได้งานทำที่นิวยอร์กวิ่งเต้นให้วายูนได้งานที่เดียวกันกับเขา วายูนตัดสินใจโทรไปบอกข่าวดีนี้แก่อาพร้อมจิต จึงได้รู้ว่าอาภักดิ์เพิ่งจะสิ้นใจด้วยโรคมะเร็ง วายูนจึงตัดสินใจจะเดินทางกลับเมืองไทย เพื่อไปร่วมพิธีศพอาภักดิ์ให้ได้ นิโคไลกับไฮดี้อาสาจะดูแลลีล่าให้จนกว่าเธอจะกลับมา แต่วายูนไม่ยอมเธอจะพาลูกน้อยไปด้วย เธอพร้อมแล้วที่จะบอกความจริงอันน่าอับอายนี้แก่อาพร้อมจิต ว่าเธอก้าวพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต เธอมีลูกโดยไม่ได้แต่งงาน หนำซ้ำผู้เป็นพ่อเด็กยังไม่รู้อยู่ที่ไหนในโลกนี้อีกด้วย

วายูนพาลีล่ากลับมาถึงกรุงเทพฯ อาพร้อมจิตตกใจมากเมื่อรู้ว่าวายูนมีลูก แต่ก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว และยังให้กำลังใจวายูนอีกด้วยว่า..ไม่มีใครหรอกที่ชีวิตจะไม่เคยทำเรื่องผิดพลาด แต่เมื่อคนเราก้าวพลาดไปแล้ว หากแต่ยังมีสติที่จะกลับมายืนให้มั่นคงอย่างเดิมได้ เช่น วายูนกลับมามุ่งมั่นเรียนจนจบ และได้เกียรตินิยมอีกด้วย ทำให้เป็นที่ต้องการตัวให้ไปร่วมงานมากมาย ชีวิตที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้าย่อมต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน วายูนจึงน้ำตาไหลเมื่อรู้ว่าอาพร้อมจิตให้อภัยเธอทุกอย่าง หนำซ้ำยังตัดสินใจจะปล่อยบ้านให้เช่า แล้วบินกลับไปเมืองนอกพร้อมวายูน และช่วยวายูนเลี้ยงลีล่า เพื่อให้วายูนได้ออกไปทำงานอย่างเต็มที่และสบายใจ วายูนจึงได้ตระหนักว่า..กำลังใจจากคนในครอบครัวนั้นสำคัญเพียงใด แม้อาพร้อมจิตจะไม่ใช่แม่ แต่ก็มีบุญคุณไม่ต่างอะไรจากแม่เช่นกัน

วายูนพาลีล่าและอาพร้อมจิตมาที่นิวยอร์ก เธอพร้อมจะเริ่มต้นชีวิตผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวแล้ว อาพร้อมจิตเห็นนิโคไลดีกับวายูนอย่างจริงใจ และรู้ว่านิโคไลรักวายูนมากจึงยุให้แต่งงานกันเสีย แต่วายูนก็ยังไม่ใจอ่อน เธอยังเข็ดกับเรื่องความสัมพันธ์อยู่ไม่หาย

วันหนึ่งเพียงเพ็ญเกิดมาเห็นวายูนและลีล่าเข้า ก็ปะติดปะต่อเรื่องราวบางอย่างได้ เธอรู้เรื่องวายูนท้องกับรามิลมาจากคุณนิตยา แต่เพียงเพ็ญเชื่อว่าเด็กที่เธอเห็น คือ ลูกของวายูนกับรามิลที่วายูนไม่เคยเอาออก เพียงเพ็ญเอาความนี้ไปบอกคุณนิตยา คุณนิตยาไม่เชื่อ กลับมั่นใจว่าเด็กนั่นน่าจะเป็นลูกของวายูนกับนิโคไลมากกว่า เพราะรู้ว่านิโคไลไม่เคยอยู่ห่างวายูนเลย เวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ นิโคไลก็ยังรักมั่นอยู่กับวายูนตลอดมา แต่เพียงเพ็ญยืนยันว่าควรหาทางพิสูจน์ให้รู้แน่ว่าเด็กนั่นคือลูกของใคร คุณหญิงนิต้า คุณนิตยา ปัทมา กันยารัตน์ ช่วยกันวางแผนจนสามารถเอาของจากลีล่าไปตรวจดีเอ็นเอจนสำเร็จ จึงรู้ว่าลีล่า คือ ลูกของรามิลจริงๆ คุณนิตยาถึงกับตะลึงเมื่อรู้ว่าวายูนใจเด็ดกว่าที่คิด คุณหญิงนิตยาให้กันยารัตน์ไปสืบจนรู้ว่า กว่าวายูนจะผ่านมาจนถึงวันนี้ได้นั้น ยากลำบากแสนเข็ญ ตั้งแต่ต้องดร็อปเรียน และหลบไปอยู่ที่เมืองวาเค้าช่วงท้องแก่ พ่อของไฮดี้รับวายูนเป็นลูกเพื่อความสะดวกตอนคลอด และระหว่างรอคลอด วายูนซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่ของไฮดี้ที่เมืองวาเค้าก็ไม่เคยอยู่นิ่ง รับจ้างทำงานเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเก็บเงินไว้ใช้เลี้ยงลูก แม้คุณนิตยาจะแอบชื่นชมในความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และอดทนของวายูน แต่เธอก็ไม่อยากให้วายูนเป็นหลานสะใภ้ เพราะได้หมายมั่นปั้นมือจะให้รามิลได้แต่งงานกับ ม.ร.ว.จุลมณี(พิมพิศา จิราธิวัฒน์) ซึ่งชาติตระกูลดี หน้าตาดี และฐานะดี เท่าเทียมกัน คุณนิตยาจึงสั่งให้ทุกคนเก็บความลับเรื่องวายูนกับลูกนี้ไว้เป็นความลับ ไม่ให้ใครแพร่งพรายให้รามิลรู้เป็นอันขาด

แต่เพียงเพ็ญ ซึ่งยังมีความสัมพันธ์กับดามพ์เป็นระยะๆ ตามประสาสาวสมัยใหม่ ที่ใช้ชีวิตเซ็กส์เสรีตามใจตน อดปากสว่างไม่ได้ หลุดปากพูดเรื่องนี้กับดามพ์ ดามพ์จึงเอาไปบอกปรัชญา ปรัชญาผู้ซึ่งยึดมั่นในความจริง จึงบอกรามิล รามิลไม่เชื่อ เพราะเชื่อที่คุณนิตยาบอกว่าส่งคนไปติดตามดูวายูนแล้ว เห็นว่าวายูนไปทำแท้งแล้วจริงๆ รามิลจึงคิดว่าเด็กที่เพียงเพ็ญเห็นน่าจะเป็นลูกคนใหม่ที่เกิดกับนิโคไลมากกว่า แต่ปรัชญาบอกว่า หากนับอายุเด็กจริงๆ น่าจะไม่ใช่ลูกนิโคไล แต่เป็นลูกของเขามากกว่า รามิลอดรนทนไม่ได้ ตามสืบจนรู้ว่าวายูนอยู่ที่ไหน เขาตามดูเธออยู่หลายวัน จนเห็นเธออยู่กับเด็กหญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งพร้อมกับนิโคไล และหญิงสูงวัย ที่เขาได้ยินวายูนเรียกว่าอาพร้อม เขาจึงนึกได้ว่าวายูนเคยเล่าให้เขาฟังเรื่องว่าอาเป็นผู้ส่งเสียและเลี้ยงดูเธอ รามิลหาโอกาสเจออาพร้อมจิตและลีล่าโดยที่วายูนไม่อยู่ อาพร้อมจิตซึ่งไม่รู้ว่าเขาคือใคร เข้าใจว่าคือคนไทยที่มาทำงานที่เมืองนอกเท่านั้น อาพร้อมจิตจึงเล่าให้เขาฟังว่า ลีล่านั้น ชื่อจริงคือ “รวินท์” ที่แปลว่าดอกบัว ซึ่งอาพร้อมจิตเป็นคนตั้งให้เอง โดยเอาชื่อพ่อกับแม่มารวมกัน รามิลถามว่าพ่อของเด็กชื่ออะไร อาพร้อมจิตจึงบอกว่า พ่อของลีล่า ชื่อ รามิล แต่ตายไปแล้ว ทำให้รามิลช็อคไปเมื่อรู้ว่าลีล่า คือ ลูกของเขาจริงๆ

รามิลไปต่อว่าคุณนิตยาที่ปิดบังเรื่องนี้กับเขา คุณนิตยาปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ คนที่ให้ไปสืบกลับมาบอกว่าวายูนทำแท้งไปแล้ว แต่รามิลไม่เชื่อคุณนิตยาอีกต่อไป เขาทะเลาะกับคุณนิตยา จนได้เห็นใบพิสูจน์ดีเอ็นเอ ซึ่งยืนยันว่าลีล่า คือ ลูกของเขาที่เกิดกับวายูนจริงๆ รามิลจึงตัดสินใจว่าจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่คุณนิตยาไม่ยอม ทั้งคู่จึงทะเลาะกันรุนแรง และคุณนิตยาขู่ว่าถ้ารามิลจะคว้าผู้หญิงไม่มีสกุลคนนั้นมาเป็นสะใภ้ ก็จะตัดเขาออกจากกองมรดก แต่รามิลไม่สนใจเรื่องทรัพย์สินนอกกายอีกแล้ว เขาตัดสินใจไปหาวายูน

วายูนตะลึงจนพูดไม่ออกเมื่อเห็นรามิลมายืนตรงหน้า และบอกว่าเขารู้แล้วว่าเธอไม่ได้ไปทำแท้งดังที่เคยบอกเขา แต่วายูนยืนยันว่าลีล่า คือ ลูกของเธอเพียงคนเดียว รามิลไม่มีสิทธิ์ข้องเกี่ยวแต่อย่างใด และวายูนยืนยันว่าเธอกับเขาไม่มีอะไรเกี่ยวพันกันอีกแล้ว แล้วก็เดินจากไป แต่รามิลไม่ยอม เขาจะต้องแก้ไขในสิ่งที่ผิดให้จงได้ เขายอมรับว่าเขามองผู้หญิงอย่างวายูนผิดไป คิดแต่ว่าเธอก็เหมือนเช่นผู้หญิงคนอื่นๆ ที่รักสนุกไปกับเขาชั่วครั้งชั่วคราว แล้วแกล้งปล่อยท้องเพื่อจะจับเขา อย่างที่คุณนิตยาได้พูดกรอกหูเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แต่มาบัดนี้ เขาได้เห็นแล้วว่าวายูนไม่เหมือนผู้หญิงคนไหน และเขาต้องการได้เธอกลับคืนมา

ปรัชญากับดามพ์ช่วยรามิลง้องอนวายูน ทั้งเอาอกเอาใจวายูนสารพัด ยอมถูกวายูนโขกสับต่อว่าต่างๆ นานา แต่วายูนใจแข็งกว่าที่ทุกคนคิด เพราะนอกจากเธอจะไม่ใจอ่อนกับรามิลแล้ว เธอยังตัดสินใจที่จะแต่งงานกับนิโคไลอีกด้วย เพื่อที่จะให้รามิลไปจากชีวิตเธอเสียที นิโคไลดีใจมากที่วายูนยอมตกลงแต่งงานกับเขา แต่เขาก็รู้สึกว่าวายูนไม่ได้รักเขาจะมีประโยชน์อะไรที่เขาจะได้ตัววายูนมาครอบครอง แต่หัวใจของวายูนยังทั้งรักและฝังใจอยู่กับรามิลอยู่ดี นิโคไลเห็นว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้วายูนยอมใจอ่อนกับรามิลได้ คือ ลีล่า

นิโคไลร่วมมือกับลีล่า และอาพร้อมจิต ทำแผนหลอกวายูนและรามิลว่าลีล่าถูกลักพาตัวไป วายูนและรามิลแทบคลั่ง ทั้งสองจึงร่วมมือกันออกตามหาลีล่า ไปตามสถานที่ที่ ”โจรลักพาตัว” โทรศัพท์มาบอกว่าให้ไปรับตัวลีล่าได้ที่นั่น แต่เมื่อวายูนกับรามิลไปถึงจึงคิดได้ว่าที่นี่ คือ ที่ที่เขาและเธอเคยบอกรักกัน ความทรงจำที่ดียังคงมีอยู่มากมาย ความรักที่วายูนยังมีต่อรามิล แต่ซ่อนอยู่ลึกถึงก้นบึ้งของหัวใจจึงถูกขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้ง เธอยอมเปิดใจรับคำขอโทษของรามิล รามิลบอกวายูนว่าหากมีบุญวาสนาต่อกัน ขอให้เขาได้มีโอกาสใช้ชีวิตครอบครัว พ่อ แม่ ลูก กับวายูนและลีล่าเถอะ เพราะเขาเองก็เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวและว้าเหว่ไม่ต่างอะไรจากวายูนหรอก เขาจึงไม่อยากให้ลีล่าเป็นอย่างเขาหรือวายูนที่ขาดพ่อและแม่ และเมื่อวายูนกับรามิลปรับความเข้าใจกันได้ นิโคไลก็พาลีล่าเข้ามาหา เขาบอกวายูนว่าเขายินดีที่จะเห็นเธอมีความสุขกับคนที่เธอรัก มากกว่าที่เขาจะมีความสุขที่ได้แต่งงานกับเธออย่างคนเห็นแก่ตัว แล้วนิโคไลก็ให้แหวนหมั้นที่เขาเตรียมไว้ให้วายูน และบอกว่า มันไม่ใช่แหวนหมั้นอีกต่อไปแล้ว หากเป็นแหวนที่ระลึกแห่งความรักที่เขามีต่อเธอซึ่งจะมีเช่นนี้ตลอดไป และถ้าวายูนไม่อยากได้แหวนนี้ ก็ให้เอาไปทำเป็นสร้อยคอให้ลีล่าก็แล้วกัน แล้วให้บอกลีล่าว่าเป็นของขวัญจาก “ลุง” แล้วนิโคไลก็จากไป

รามิลบอกวายูนว่า เขานับถือหัวใจของผู้ชายรัสเซียคนนั้น และเขาจะไม่ทำให้การเสียสละของนิโคไลต้องเสียเปล่า แล้วรามิลก็คุกเข่าลงขอวายูนแต่งงาน ณ ที่นั้นเอง..

ออกอากาศทุกวันจันทร์ อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7 สี

นำแสดงโดย: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ รับบท อาพร้อมจิต

ม.ล.สราลี กิติยากร รับบท เพียงเพ็ญ

เขมนิจ จามิกรณ์ รับบท วายูน

อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท รามิล

อัษฏา พานิชกุล รับบท นิโคไล โวดิอาคิน

จารุณี สุขสวัสดิ์ รับบท นิตยา

มาริสา แอนนิต้า รับบท ไฮดี้

พิศาล ศรีมั่นคง รับบท คาร์ล

ณัฏฐพัชร วิพัธตระกูล รับบท ปัทมา

ภาณุ สุวรรณโณ รับบท ดามพ์

นพพล พิทักษ์โล่พานิช รับบท ปรัชญา

ด.ญ.จิรดา โมแรน รับบท ลีล่า

มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ รับบท กัญญารัตน์

ท่านอดิศักดิ์ ภาณุพงศ์ รับบท ท่านทูต

สุพรรณษา เนื่องภิรมย์ รับบท คุณหญิงนิต้า

สรพงษ์ ชาตรี รับบท ตาผิน

ทูน หิรัญทรัพย์ รับบท อาภักดิ์

พิมพิศา จิราธิวัฒน์ รับบท ม.ร.ว.จุลมณี

รุ้งลาวัณย์ โทนะหงษา รับบท ศิราณี

ผู้ประพันธ์: โสภาค สุวรรณ
บทโทรทัศน์: ฐา-นวดี สถิตยุทธการ
ผู้กำกับ: มารุต สาโรวาท
ผู้ผลิต: บริษัท ฮันนี่ แอนด์ เฟรนด์ ออกาไนซ์ จำกัด