news

ร็อกเกอร์ชื่อดัง “เสก โลโซ” หรือ “เสกสรรค์ ศุขพิมาย” ได้เดินทางมายังสำนักงานเขตบางเขน เมื่อเวลาประมาณ 13.20 น. พร้อมกับทนายความส่วนตัว ก่อนที่ “กานต์ วิภากร” จะเดินทางตามมาถึงในเวลา 14.10 น.

ทั้งสองฝ่ายและทนายความได้เข้าไปในห้องของ นายวิโรจน์ ตรังคสัญชัย หัวหน้าฝ่ายทะเบียนประจำสำนักงานเขต แต่ภายหลังจากการพูดคุยได้ไม่นาน บรรยากาศเริ่มจะไม่สดใสเท่าใดนัก ทั้งสองฝ่ายยังคงขอเจรจาแก้เอกสารสำคัญที่ยังไม่ชัดเจน กระทั่งเวลาผ่านไปนับชั่วโมง การเจรจาตกลงก่อนดำเนินการหย่าก็ยังยืดเยื้อ

ขณะที่ทางด้านทนายความของ เสก โลโซ ได้เปิดเผยข้อความในเอกสารสำคัญเกี่ยวกับสัญญาประนีประนอมที่ทั้งสองฝ่ายต้องทำการโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของแต่ละคน เป็นข้อความที่ตกลงในประเด็นข้อพิพาทกัน ซึ่งหลังจากนี้จะถือว่าได้ทำความเข้าใจกันแล้วและไม่ติดใจเอาความกัน

ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ เสก โลโซ ต้องมอบชดเชยให้กับ กานต์ วิภากร ประกอบด้วย ค่าเลี้ยงดูลูกคนละ 50,000 บาทต่อเดือน รวมเป็น 150,000 บาทต่อเดือน เงินฝากให้ลูก 3 คน คนละ 100,000 บาทต่อปี รายได้จากคอนเสิร์ตทุกครั้ง แบ่งให้ลูกคนละ 7,000 บาท บ้านและค่าตกแต่ง 12 ล้านบาท ค่าเลี้ยงชีพให้กานต์ 3 ล้านบาท ค่าเลี้ยงดูลูกย้อนหลัง 2 ล้านบาท รวมเป็น 17 ล้านบาท

เวลา 16.00 น. ภายหลังจากการเจรจาพูดคุยก่อนเซ็นทะเบียนหย่าร่าง ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็สามารถสรุปข้อตกลงกันได้ด้วยดี ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า…

หลังจดทะเบียนหย่าทุกอย่างโอเคไหม ?
เสก – “ครับผม วันนี้เราทั้งคู่ก็เดินทางมาทำเอกสารให้เรียบร้อย ถามว่าเสียใจไหม ก็ต้องเสียใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่คนที่น่าจะเสียใจมากที่สุดก็คงเป็นลูกของเรา ซึ่งผมก็ตั้งใจว่าหลังจากนี้จะดูแลเขาทุกให้เป็นอย่างดี”
กานต์ – “(ร้องไห้)”

เห็นเมื่อวานพี่เสกมีการโพสต์ข้อความก่อนที่จะมาหย่าด้วย ตอนนั้นเรารู้สึกใจหายหรือยังไง ?
เสก – “มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วครับ”

ส่วนตัวพี่เสกได้มีโอกาสคุยกับลูกๆ บ้างไหม ?
เสก – “เมื่อวานก็ไปเจอมาเรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจเป็นอย่างดี อีกอย่างเราเองก็มองว่าการหย่าน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะถ้าอยู่กันต่อไปเราก็อาจจะต้องด่ากัน และมีคนนอกที่ต้องเสียหาย เจ็บตัวไปมากกว่านี้”

ตอนที่เข้าไปอยู่ในห้องเราสองคนใช้เวลานานมาก พอจะบอกได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ?
เสก – “เราไกล่เกลี่ยในหลายๆ เรื่องครับ รวมถึงแก้ไขคำบางคำ แต่สุดท้ายก็เรียบร้อยโอเคดี แต่หลังจากนี้ก็จะต้องเริ่มทำตามคำสั่งศาลเป็นลำดับต่อไป”

ในส่วนของคดีความที่ฟ้องร้องตอนนี้ถอนหมดแล้ว ?
เสก – “คดีถอนฟ้องกันหมดครับ เหลือแต่คดีกับหมอที่ไม่ถอน หมอโดนผมแน่ครับ”

พี่กานต์เสียดายไหมวันเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน 23 ปี ?
กานต์ – “ไม่นะคะ ไม่เสียดายหรอกค่ะ แต่ที่ร้องไห้เมื่อกี้มันอาจจะเป็นเพราะความรู้สึกเครียดมั้งคะ”

ส่วนตัวแล้วพี่กานต์พอใจกับข้อตกลงในวันนี้ไหม ?
กานต์ – “พอใจในระดับหนึ่งค่ะ”

หลังจากนี้จะมีโอกาสรีเทิร์นกันอีกหรือเปล่า ?
เสก – “ไม่แล้วครับ สองรอบแล้ว และก็จะไม่แต่งงานกับใครอีกแล้วด้วย ส่วนกานต์และลูกๆ ผมก็จะดูแลเองไม่ต้องเป็นห่วง เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันช่วยกันเลี้ยงลูกครับ”

รอยบาดหมางที่เคยมีต่อกันตอนนี้ก็ถือว่าสิ้นสุดแล้ว ?
เสก – “ผมไม่โกรธเขาหรอก ผมโกรธที่มาเสี้ยมเขามากกว่า เพราะเขาเป็นผู้หญิง แต่คนที่อยู่รอบข้างเขาสำคัญมาก”
กานต์ – “ใครอยู่รอบข้าง ไม่มีใครอยู่รอบข้าง อย่ามาพาดพิง คนรอบข้างตัวเองต่างหากที่คอยเสี้ยม”
เสก – “ไม่มีก็ไม่เป็นไร เป็นความเข้าใจของผมก็แล้วกัน (หัวเราะ)”

หลังจากนี้พี่กานต์ตั้งจะใช้ชีวิตยังไง ?
กานต์ – “ก็ตั้งใจว่าจะทำธุรกิจ แต่รอให้มันเป็นรูปเป็นร่างก่อนดีกว่า นอกเหนือจากนั้นก็คือการดูแลลูกทั้ง 3 คนค่ะ”

เรื่องการดูแลลูกเราจัดการแบ่งเวลายังไง ?
เสก – “สำหรับเรื่องลูกเราแบ่งกันดูแลครับ เรื่องเงิน เรื่องทอง เรื่องการเลี้ยงดูผมรับผิดชอบหมด รวมทั้งตัวของกานต์เองด้วย ทุกคนไม่ต้องห่วงครับ”

พี่กานต์รู้สึกยังไงบ้างกับกระแสในอินเตอร์เน็ตที่บอกว่าเงิน 17ล้านบาท มากเกินไป ?
กานต์ – “ไม่ได้เยอะเลย บ้านนันทวรรณมูลค่ามากกว่า 17 ล้านหลายเท่า แต่กลายเป็นว่ามันต้องยกให้กับเสกซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัย ส่วนตัวเขาก็ต้องซื้อบ้านชดเชยให้หลังหนึ่งเพื่อเราจะได้มีที่พำนัก ก็ถือว่าเสียเปรียบเยอะ”

ในส่วนของบ้านนันทวรรณพี่เสกตั้งใจจะยกให้ลูกด้วยไหม ?
เสก – “ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนผมเซ็นต์มรดกให้ลูก ผมสร้างมาก็ยกให้ลูกไม่เห็นเป็นอะไรเลย แต่สาเหตุที่ซื้อบ้านใหม่ก็เพราะตัวกานต์เขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปอยู่ในบ้านผมแล้ว ผมก็เลยซื้อบ้านให้เขา ซึ่งเบ็ดเสร็จมันก็อาจจะไม่ใช่เงินสดทั้งหมดหรอก แต่เราก็จ่ายให้ลูกด้วย 3 คน เดือนละ 150,000บาท รวมถึงทุกเดือนผมก็ต้องดูแลพวกเขา 8 วัน แต่ถ้าเขาจะมาอยู่ด้วยนานกว่านั้นก็ได้ ผมเลี้ยงดูได้หมด ค่าเทอมค่าอะไรผมก็จ่ายให้”

น้องทั้ง 3 คนเข้าใจถึงสถานะที่พ่อแม่เป็นแบบนี้ใช่ไหม ?
เสก – “ผมเชื่อว่าแบบนี้ดีกว่าครับ ดีกว่าการที่เราด่ากันทุกวันและทำให้เขาทั้ง 3 คนเจ็บ ดังนั้นพอวันนี้เรื่องต่างๆ มันจบแล้ว ผมก็อยากให้ทุกคนจบด้วยเหมือนกันครับ”


ขอขอบคุณข่าวจาก