news

กลายเป็นประเด็นที่ดูเหมือนจะไม่มีจุดจบอย่างลงตัวเสียแล้ว สำหรับกรณีปัญหาพื้นที่ธุรกิจยิมฯ ของนางเอกสาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับนักแสดงสาวรุ่นพี่ “บุ๋ม ปนัดดา” ซึ่งก่อนหน้าทาง บุ๋ม ปนัดดา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยอมไม่ได้ถึงข้อเสนอของอีกฝ่ายที่ตกลงจ่ายเงินคืนสามล้านบาทแต่ทางบุ๋มต้องแถลงขอโทษและขอบคุณเจนี่ด้วย

ล่าสุด พอมีโอกาสได้เจอ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ เธอจึงขอออกมาเปิดใจให้ฟังถึงประเด็นดังกล่าวว่า สาเหตุที่ยังตกลงกันไม่ได้จริงๆ แล้วไม่ใช่เธอไม่ยอมจ่ายเงินสามล้าน แต่เป็นเพราะทางบุ๋มขออยู่ต่ออีก 5 เดือน โดยไม่จ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ซึ่งส่วนตัวคงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนเดียวไม่ไหว ซึ่งจุดจบของปัญหานี้จะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย และขอให้ทนายเป็นตัวกลางที่คุยกันจะดีกว่า

ความคืบหน้าคดีตกลงสรุปยังไง?

“จริงๆ เรื่องมันมีอัพเดทเป็นลายลักษณ์อักษร และโนทิส ที่พี่บุ๋มบอกว่าเจนี่ส่งไป จริงๆ ไม่ใช่โนทิสแต่เป็นตัว สัญญายกเลิก รายละเอียดของสัญญายกเลิกการเช่าพื้นที่ คืออยู่ได้ต่ออีก 60 วัน และฝ่ายพี่บุ๋มเซ็นรับรู้แล้ว”

มีการจ่ายเงินให้แล้วใช่ไหม?

“เจนี่ยังไม่ได้จ่าย เพราะว่าจริงๆ แล้วข้อตกลง เพราะข้อเสนอที่เราเสนอไป ฝั่งเขายังไม่โอเค อย่างข้อเสนอที่เจนี่เสนอไปเช่นว่า เจนี่จะจ่าย 3 ล้าน แต่ว่าฝั่งพี่บุ๋ม ขออยู่ต่ออีก 5 เดือน โดยที่ไม่จ่ายค่าเช่า และค่าน้ำ ค่าไฟ ถ้าถามทางตัวเจนี่ เรารับผิดชอบไม่ไหว เพราะเจนี่มีลูกบ้านทั้งหมด 8 บ้าน และทั้ง 8 บ้าน จ่ายค่าเช่าล่วงหน้ามาอย่างน้อย 6 เดือน รวมทั้งค่าน้ำค่าไฟ แต่ทางสแมชยิม เจนี่ยังไม่เคยได้รับเงินทั้งก่อนเปิดจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่ได้รับเงินสักบาท”

บุ๋มบอกไม่ได้รับความเป็นธรรม?

“ถามว่าเป็นธรรมหรือ ไม่เป็นธรรม คือเจนี่ยอมรับผิดชอบเรื่องค่าเช่าตรงนี้ด้วยตัวเองไม่ไหวจริงๆ”

บุ๋ม กล่าวว่า ทางเจนี่ ยืนข้อเสนอไป 8 ข้อ หนึ่งในนั้น คือให้ฝ่าย บุ๋ม แถลงข่าว ขอบคุณและขอโทษ?

“จริงๆ ในสัญญาที่เซ็นกันไว้อยู่แล้ว มีข้อ 7.5 ได้กล่าวไว้ว่า ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียชื่อเสียงก็ต้องรับผิดชอบ มันมีอยู่ในสัญญา แต่ว่าหลังจากต่างคนต่างแถลงข่าว แล้วตกลงกันที่ว่าเจนี่ยอมที่จะจ่าย 3 ล้านบาท เพื่อจะซื้อพื้นที่ฝั่ง สแมชยิม คืนกลับมา แต่ฝั่งโน้นบอกว่าขออยู่ต่ออีก 5 เดือน โดยที่ไม่จ่ายค่าเช่าเลย”

รับข้อเสนอไม่ได้?

“ไม่ใช่ แต่ว่าตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ฝั่งสแมชยังไม่เคยจ่ายค่าเช่าให้เจนี่เลย แล้วจะขออยู่ต่ออีก 5 เดือน โดยที่ไม่จ่ายค่าเช่า และค่าน้ำค่าไฟ อันนี้คือเราต้องเข้าใจกันนิดหนึ่ง เจนี่มีลูกบ้าน 8 บ้าน จ่ายค่าเช่า และค่าน้ำค่าไฟล่วงหน้า อย่างน้อย 6 เดือน มีแค่สแมชยิมที่ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เจนี่ยังไม่เคยได้เงินสักบาท”

ทำไมถึงเคลียร์กันไม่ได้?

“จริงๆ ถ้าเจนี่เป็นผู้เช่า เจนี่ก็จ่ายนะ (ยิ้ม) ณ วันนี้ เราส่งใบยกเลิกสัญญาไปแล้ว เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย สแมชยิมไม่ได้เช่าพื้นที่ของเจนี่แล้ว เราให้เวลาเขาย้ายออกตามกฏหมายคือ 60 วัน”

คุยกับพี่บุ๋มหรือยัง?

“ถามทางเจนี่ เรื่องกฏหมายเป็นเรื่องมีรายละเอียด และฝ่ายเจนี่มีทนายที่คุยกับทนายฝ่ายพี่บุ๋มด้วย ตัวเจนี่ไม่อยากคุยเอง เพราะถ้าเกิดมีข้อมูลหรืออะไรที่คลาดเคลื่อนกัน จะทำให้2ฝ่าย เข้าใจผิดกันได้ เพราะฉะนั้นทนายของฝั่งเจนี่ได้อธิบายทุกอย่างให้ฝั่งนั้นเข้าใจแล้ว”

ในส่วนพี่บุ๋ม อยากให้ เจนี่ มาคุยด้วยตัวเอง คงไม่มีโอกาสใช่ไหม?

“ส่วนตัวไม่รู้จะพูดคุยอะไร เจนี่ไม่รู้จะคุยอะไร ถ้าพี่นักข่าว เป็นผู้เช่าแล้วไม่ได้จ่ายเงิน เจนี่คงไม่รู้จะคุยอะไร”

เรียกว่าโกรธกันไหม?

“อันนี้มันเป็นเรื่องของธุรกิจ ถ้าพูดถึงตัวพี่บุ๋ม เจนี่ยังนับถือพี่บุ๋มเป็นพี่คนหนึ่ง แต่ถ้าพูดถึงธุรกิจ เจนี่ต้องใช้เงินของตัวเองควักออก เราทำธุรกิจไง แต่คนอื่นมาเช่าเจนี่แล้วเขาให้เงินเจนี่มา 6 เดือนล่วงหน้า เจนี่ก็ยังรับผิดชอบได้ แต่ฝั่งของพี่บุ๋มมันเป็นพื้นที่ใหญ่ที่สุดของยิม เช่าเยอะที่สุด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่อนข้างที่จะแพง เจนี่รับผิดชอบตรงนี้ไม่ไหว”

สัญญาบอกว่า 60 วัน ต้องออก ถ้าไม่ออกจะดำเนินการยังไง?

“อันนี้ต้องรอให้ถึงวันนั้นก่อน”

พี่บุ๋มบอกว่าหากแก้ปัญหาไม่ได้จะทุบตึกทิ้ง?

“เจนี่คิดว่าพี่บุ๋มไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก (ยิ้ม)”

เรื่องแถลงขอบคุณและขอโทษพี่บุ๋มบอกว่าอยากให้เจนี่ไปแถลงด้วย?

“จริงๆ เจนี่คิดว่า มันเลยจุดตรงนั้นมาแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างที่ทำคือลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ถ้าคุยแบบนี้มันก็คือการคุยกันไป คุยกันมา เพราะฉะนั้นเป็นลายลักษณ์อักษรดีกว่า”

เจนี่ไม่ได้ซีเรียสว่าบุ๋มต้องออกมาแถลงขอโทษ?

“เจนี่ว่ามันเลยจุดนั้นไปแล้ว ณ วันนี้เราเลยมาไกลแล้ว”

บุ๋มบอกว่า 60 วัน น้อยไป?

“จริงๆ ตรงนี้เราเสนอไปแล้ว จะขออยู่ต่อเราไม่ได้ว่า แต่ต้องจ่ายค่าเช่า และค่าน้ำค่าไฟ แต่ทางเขาจะขออยู่โดยที่ไม่จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่า ระยะเวลา 5 เดือนมันมีผลกับตัวเจนี่ด้วย ที่เราต้องควักเงินตัวเองจ่าย”

จากนี้เราคิดไว้ไหมว่าจะจบเหตุการณ์นี้ยังไง?

“เจนี่ขอให้กลายเป็นหน้าที่ของกฏหมายดีกว่า ตัวเจนี่เองไม่ได้อยากให้มันเป็นคดี และเจนี่ก็มั่นใจว่า ตัวพี่บุ๋มเองก็ไม่ได้อยากให้มาเป็นคดี เพราะฉะนั้นเราต่างคน ต่างทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แล้วก็ถ้าเกิดพี่บุ๋มเขารู้ว่า เขาจะต้องทำยังไง ตรงนั้นเป็นส่วนของพี่บุ๋ม แต่ถ้าจะให้เจนี่มารับผิดชอบค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่าของฝั้งสแมชยิมมันหนักเกินไป”

ถ้าจ่ายค่าเช่าก็จบใช่ไหม?

“ตอนนี้มันไม่จบ เพราะว่ามีใบยกเลิกสัญญาไปแล้ว ยังไงเขาต้องคืนพื้นที่ให้”

กลัวจะมองหน้ากันไม่ติดไหม?

“จริงๆ เรื่องธุรกิจ ก็เป็นเรื่องธุรกิจเนอะ เจนี่ยังรักและเคารพพี่บุ๋มเหมือนเดิม”

แล้วถ้าพี่บุ๋มขอประวิงเวลาล่ะ?

“อันนั้นให้ทนายคุยดีกว่า”


ขอขอบคุณข่าวจาก