news

 

[วันนี้ 1 กรกฎาคม 2561]

– 17.00 น.

พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 เผยว่า หน่วยซีลรุกคืบเลยโถงซ้ำเข้าไปด้านในถ้ำได้ 600 เมตรแล้ว
รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า มีการสำรวจทุกโพรงที่มีผู้แจ้งเข้ามา ส่วนโพรงไหนที่น่าจะเชื่อมกับถ้ำได้ ก็จะมีการประเมินด้วยเครื่องมือต่างๆ และเจาะเข้าไป
รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า เจาะถ้ำทรายทอง ที่เชื่อมต่อกับถ้ำหลวง เพื่อระบายน้ำออกให้เร็วขึ้น
– 16.48 น.

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย แถลงข่าวช่วงเย็น เผยว่าการทำงานคืบหน้าเป็นอย่างดี เนื่องจากสภาพอากาศเป็นใจ
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ขอร้องให้ผู้นำโดรนเข้ามาในถ้ำหลวง และต้องการบิน ให้มาแจ้งก่อนใช้งาน เพราะอาจรบกวนสัญญาณโดรนของเจ้าหน้าที่ และอาจบินเลยข้ามน่านฟ้าเมียนมา ซึ่งเสี่ยงกระทบต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน
การสูบน้ำได้ผลดีมาก มีทีมงานมนุษย์กบของไทยถึง 60 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ปักหลักอยู่ที่โถง 3 และจะพยายามรุกคืบเข้าไปในถ้ำส่วนที่ลึกกว่านี้ให้ได้
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เตือนว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างรับบริจาคเงิน ขณะนี้ ภาคยังไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น เพราะใช้งบประมาณแผ่นดินได้
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เผยว่า มีดราม่าในโซเชียล เกี่ยวกับทีมกู้ภัยจากจีนคนหนึ่งได้ทานอาหารแค่ข้าวเปล่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นมังสวิรัติ แต่ส่วนตัวยืนยันว่า บริเวณถ้ำหลวงมีอาหารบริการมากมาย และสามารถบอกให้พ่อครัวแม่ครัวทำอาหารมังสวิรัติได้
– 16.48 น.

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย แถลงข่าวช่วงเย็น เผยว่าการทำงานคืบหน้าเป็นอย่างดี เนื่องจากสภาพอากาศเป็นใจ
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ขอร้องให้ผู้นำโดรนเข้ามาในถ้ำหลวง และต้องการบิน ให้มาแจ้งก่อนใช้งาน เพราะอาจรบกวนสัญญาณโดรนของเจ้าหน้าที่ และอาจบินเลยข้ามน่านฟ้าเมียนมา ซึ่งเสี่ยงกระทบต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน
การสูบน้ำได้ผลดีมาก มีทีมงานมนุษย์กบของไทยถึง 60 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ปักหลักอยู่ที่โถง 3 และจะพยายามรุกคืบเข้าไปในถ้ำส่วนที่ลึกกว่านี้ให้ได้
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เตือนว่าจะดำเนินคดีกับผู้ที่แอบอ้างรับบริจาคเงิน ขณะนี้ ภาคยังไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น เพราะใช้งบประมาณแผ่นดินได้
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เผยว่า มีดราม่าในโซเชียล เกี่ยวกับทีมกู้ภัยจากจีนคนหนึ่งได้ทานอาหารแค่ข้าวเปล่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่คนนี้เป็นมังสวิรัติ แต่ส่วนตัวยืนยันว่า บริเวณถ้ำหลวงมีอาหารบริการมากมาย และสามารถบอกให้พ่อครัวแม่ครัวทำอาหารมังสวิรัติได้
– 10.25 น.

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เผยว่า หน่วยซีลจะปักหลักที่โถง 3 ของถ้ำหลวง แทนที่จะเข้าออกปากถ้ำทุกครั้ง เนื่องจากใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมง และจะนำอุปกรณ์ต่างๆ ไปติดตั้งในโถง 3 ตั้งแต่สายไฟ สายโทรศัพท์ ไปถึงถังออกซิเจน
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ยึดแผนการเข้าค้นหาและช่วยเหลือผู้สูญหาย ด้วยการเดินทางเข้าไปจากปากถ้ำเป็นหลัก ส่วนแผนที่ 2 คือการเข้าทางโพรงถ้ำ ซึ่งขณะนี้พบว่ามีเพียง 2 โพรง ที่เป็นไปได้ว่าจะเชื่อมกับถ้ำหลวง
ผู้ว่าฯ แถลงว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าทีท้องถิ่น เข้าไปอธิบายกับประชาชน ให้รับมือกับน้ำที่ระบายออกจากบริเวณถ้ำหลวง ว่าอาจท่วมที่ดินของตัวเอง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
– 09.55 น.

กรมทางหลวงนำแอสฟัลต์มาปรับหน้าดินในบริเวณที่ใช้จอดรถพยาบาลและรถฉุกเฉิน เพื่อส่งผู้สูญหายไปยังโรงพยาบาล หากพบตัวและนำออกมาได้
[วันเสาร์ 30 มิถุนายน 2561]

– 20.10 น.

หลังจากช่วงบ่ายในวันนี้ จนท. ขุดเจาะน้ำบาดาล สูบน้ำจากจุดแรกบริเวณหน้าถ้ำหลวง ได้สำเร็จ ด้วยความลึก 42 ม. พบเป็นโพรงน้ำขนาดใหญ่ และใช้เครื่องสูบน้ำที่มีกำลังการสูบ 50,000 ลิตร/ชม. ถือว่ามีการระบายน้ำได้อย่างดี จากนั้น จนท.เร่งขุดเจาะบ่อที่ 2 ห่างจากจุดแรกเพียง 10 ม. ใช้เวลาขุดเจาะ 3 ชม. หลังจากที่ใช้เวลาขุดเจาะบ่อแรกถึง 2 วัน ซึ่งบ่อที่ 2 ก็มีความลึก 42 ม. เท่ากัน ขณะนี้กำลังลงท่อเหล็ก และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อที่จะสูบน้ำให้ได้ภายในคืนนี้
– 19.20 น.

เอ๋ นรินทร ขอความช่วยเหลือด่วน ต้องการถังออกซิเจน (ถังเปล่า) พร้อม Regulator 200 ชุด เพื่อนำไปวางไว้ทุกๆ 25 เมตร เป็นถังสำรองของนักประดาน้ำ หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำ ติดต่อบริจาคของได้ที่ 094-071-7217
– 18.00 น.

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย แถลงความคืบหน้าภารกิจค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง เผยว่า วันนี้มีสัญญาณที่ดีมาก เพราะน้ำที่ระบายออกมาใสกว่าทุกวัน ระบายน้ำได้มากกว่าทุกวัน
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า หน่วยซีลเข้าไปถึงโถง 3 แยก และเลยเข้าไปอีก 200 เมตร ทั้งได้ปักสัญลักษณ์นำทาง และผูกถังออกซิเจนทุกๆ 25 เมตร เพื่อให้ทีมประดาน้ำใช้หายใจเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้ผู้สูญหายได้หายใจเช่นกัน เมื่อเจ้าหน้าที่พบตัวแล้ว แต่ยังลำเลียงตัวออกมาไม่ได้
– 15.58 น.

พระครูบาบุญชุ่ม และพระสงฆ์ที่ติดตามมา อยู่ระหว่างการทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์
– 14.30 น.

พระครูบาบุญชุ่ม เดินทางมายังถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่มีทีมหมูป่า 13 คนหายตัวไปในถ้ำ เพื่อทำพิธีเรียกขวัญและกำลังใจให้ญาติผู้สูญหาย
– 14.00 น.

ฝนหยุดตก ท้องฟ้าเปิด มีแดดออก
เครื่องสูบน้ำพญานาคทำงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนน้ำรอบถ้ำลดลงได้อย่างรวดเร็ว
– 12.55 น.

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย แถลงว่า การซ้อมขนย้ายผู้สูญหาย มีข้อบกพร่องหลายจุด โดยเฉพาะความไม่ชำนาญพื้นที่ของเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน การจัดระเบียบรถทางเข้าออกจากปากถ้ำ และการรับส่งผู้ป่วย
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ยอมรับว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีประสบการณ์กับการกู้ภัยเช่นนี้ เพราะเป็นกรณีแรกในประเทศ
ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ขอความร่วมมือจัดระเบียบสื่อ งดเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวที่มีผลกระทบ ที่จะทำให้ประชาชนตื่นตระหนก
ฝนตกอีกระลอก
– 11.27 น.

เพจเฟซบุ๊ก Thai NavySeal เผยว่า กำลังพลจากกองทัพบก และหน่วยซีลของกองทัพเรือ ลำเลียงเครื่องสูบน้ำเข้าไปวางในถ้ำ ขณะเดียวกันระดับน้ำในถ้ำลดอย่างรวดเร็ว จึงให้นักดำน้ำเตรียมพร้อมลำเลียงถังบรรจุอากาศเข้าไปตั้งในโถง 3 ภายในถ้ำหลวง เพื่อวางเชือกนำทางเข้าสู่บริเวณสามแยก
– 10.25 น.

เริ่มซ้อมขนย้ายผู้สูญหาย
– 10.00 น.

ขบวนรถบรรทุกขนเครื่องสูบน้ำพญานาคชุดแรกเดินทางมาถึงปากซอยทางเข้าถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ต้องจอดรอบนถนนพหลโยธิน เนื่องจากซอยแคบและรอการเคลียร์ถนนจากเจ้าหน้าที่ ขณะที่อีกขบวนหนึ่งยังอยู่ที่ จ.แพร่
– 01.00 น.

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เผยว่าในช่วงเช้าจะมีการซ้อมนำตัวผู้สูญหายไปโรงพยาบาล ทั้งทางรถพยาบาลและเฮลิคอปเตอร์

[วันศุกร์ที่ 29 มิถุนายน 2561]

– 20.00 น.

พระครูบาบุญชุ่ม เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก ของเมียนมา เดินทางมาถึงถ้ำหลวง จ.เชียงราย เพื่อประกอบพิธีเรียกขวัญตามความเชื่อล้านนา โดยมีผู้ปกครองและญาติของผู้สูญหายทั้ง 13 คนร่วมพิธี ขณะที่ฝนหยุดตกราวปาฏิหาริย์
– 19.34 น.

บริเวณถ้ำหลวงได้มีฝนเทลงมาอีกครั้ง
– 17.15 น.

ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ทำพิธีบวงสรวงเจ้าแม่นางนอน บริเวณปากถ้ำหลวง โดยจัดขันดอก 13 ชุดถวายเจ้าแม่ และจุดธูปอธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อำนวยภารกิจค้นหา 13 ชีวิตติดถ้ำให้ลุล่วง
– 16.10 น.

ชุดปฏิบัติการนเรศวรได้โรยตัวลงไปในโพรงด้านฝั่งขวาของถ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้สำรวจลงไปในโพรงลึก 40 เมตร พบว่าเป็นพื้นถ้ำไม่มีน้ำ แต่มีตาน้ำเล็กๆ 2 จุด การขยายผลอาจจะเชื่อมไปถึงห้องโถงใหญ่ภายในถ้ำหรือไม่ก็ได้
– 16.00 น.

ผู้ว่าฯ เชียงรายแถลงข่าวสรุปว่า เจ้าหน้าที่ ปภ. ไม่ได้โดนไฟดูด เพียงแต่เป็นลม และขณะนี้ปลอดภัยแล้ว
– 15.40 น.

เจ้าหน้าที่กลับมาจ่ายไฟบริเวณถ้ำหลวงตามปกติแล้ว หลังจากที่มีคำสั่งตัดไฟทั้งหมด เมื่อเวลาประมาณ 14.48 น. เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ปภ. 1 นาย ประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าดูด โดยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว
– 15.21 น.

เจ้าหน้าที่ยุติการสูบน้ำจากถ้ำหลวงชั่วคราว เพื่อรอตรวจสอบความปลอดภัย
– 15.15 น.

ทีมค้นหาและกู้ภัยถ้ำจากจีนเดินทางถึงสนามบินเชียงใหม่ และเตรียมเดินทางต่อไปยัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งเป็นที่ตั้งของวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน
– 15.00 น.

เกิดอุบัติเหตุภายในถ้ำ มีเจ้าหน้าที่ถูกไฟดูด โดยเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) โดยโดนไฟดูดขณะกำลังเดินเครื่องสูบน้ำ
– 14.48 น.

มีการสั่งตัดไฟฟ้าในถ้ำทั้งหมดชั่วคราว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าน่าจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่เกิดอุบัติเหตุถูกไฟดูด ล่าสุดได้มีการนำรถพยาบาลมารอเพื่อเตรียมนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้วจำนวน 3-4 คัน
– 14.20 น.

นักดำน้ำชาวอิตาลีหนึ่งในทีมของ นรินทร ณ บางช้าง ได้กลับออกมาจากถ้ำพร้อมอุปกรณ์ เพื่อกลับไปที่พักชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ
– 13.50 น.

บริเวณถ้ำหลวงมีฝนตกลงมาอีกครั้ง ขณะที่ระดับน้ำในถ้ำยังสูง เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ
– 13.30 น.

นายศักดิ์ฉลาด ศรีวิชา ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 1 ลำปาง เผยถึงการขุดเจาะบาดาลเพื่อหาตาน้ำ ตอนนี้สามารถขุดลงไปได้ประมาณ 36 เมตร ซึ่งเจอน้ำบาดาลที่ระดับ 25 เมตร โดยคาดว่าจะเป็นโพรงน้ำที่เชื่อมกับในถ้ำ ซึ่งในขณะนี้ได้หยุดทำการเจาะชั่วคราว เพื่อนำท่อเหล็กขนาดกว้าง 6 นิ้ว ยาว 6 เมตร นำมาใส่รูที่ขุดเจาะ ป้องกันหน้าดินปิดรูและเปิดช่องให้มองเห็นน้ำที่อยู่ใต้ดิน เบื้องต้นใส่ท่อลงไป 6 ท่อน ความลึก 36 เมตร ในวันนี้นำท่อเหล็กมาเตรียมพร้อม 200 ท่อน
– 12.50 น.

ระดับน้ำในถ้ำยังสูงอยู่ เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่มีเครื่องสูบน้ำจำนวน 40 เครื่อง ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยซีลหยุดพักชั่วคราว และเมื่อช่วง 10.00 น. เพจเฟซบุ๊ก Thai NavySEAL ระบุว่า มีการเติมกำลังหน่วยซีลเข้าพื้นที่อีกชุดพร้อมอุปกรณ์พิเศษ โดยจะเดินทางถึงถ้ำหลวงบ่ายวันนี้
– 12.20 น.

มีการส่งชุดปฏิบัติการ 2 ชุดเพิ่ม เพื่อไต่หน้าผา เขานางนอน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หลังโดรนบินสำรวจต่อเนื่อง และทีมจากสหรัฐฯ เข้าสแกนพื้นที่ 40 นาที
– 11.57 น.

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคติดตั้งสายไฟฟ้ากันน้ำและลากเข้าไปในถ้ำหลวงเพิ่ม เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ
– 11.23 น.

ทีมปตท.สผ.ปล่อยโดรนสำรวจบนปล่องเหนือถ้ำบนดอยผาหมี
– 11.00 น.

หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่ถ้ำหลวงในช่วงเช้าที่ผ่านมา ล่าสุดนายกฯ ได้เข้าพบผู้ปกครองและญาติของผู้สูญหายทั้ง 13 คน พร้อมกับชวนทุกคนนั่งสมาธิร่วมกัน
– 10.40 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงถ้ำหลวง จ.เชียงราย ได้เข้าให้กำลังใจกลุ่มพ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กๆ ทีมหมูป่าทันที
– 10.30 น.

สถานการณ์การสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงเริ่มเป็นไปในทางบวก หลังจากฝนหยุดตก การเร่งสูบน้ำออกทางปากถ้ำทำให้ระดับน้ำในถ้ำเริ่มลดลง สำหรับสถานการณ์การขุดเจาะน้ำบาดาล พบว่าตอนนี้ขุดลงไปได้ลึก 34 เมตรแล้ว และเจอน้ำบาดาลที่ความลึก 25 เมตร โดยเจ้าหน้าที่หวังว่าจะขุดให้ได้ลึก 70-100 เมตร
– 10.15 น.

เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย ชุดสื่อสาร และพลร่ม เริ่มปฏิบัติการโรยตัวเข้าไปในโพรงบริเวณดอยผาหมี ที่ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติพบเมื่อวานนี้
– 09.50 น.

เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า ได้หย่อนกล่องช่วยเหลือจำนวน 20 กล่อง ลงไปในปล่องถ้ำทางต้นน้ำ โดยหวังว่ากล่องจะลอยตามกระแสน้ำไปถึงจุดที่ทีมหมูป่าอยู่ โดยภายในกล่องประกอบด้วยน้ำ อาหาร และดินสอ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่เพื่อให้ทีมหมูป่าสามารถมาร์คจุดได้ว่าตนเองอยู่ส่วนไหนของถ้ำ และส่งลอยตามน้ำกลับออกมาภายนอก เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะสามารถระบุพิกัดและทำการช่วยเหลือได้ตรงจุด ทั้งนี้ บนกระดาษแผนที่มีข้อความเขียนว่า “ถ้าได้รับแล้วตอบกลับด้วย ว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ ทุกคนจะรีบช่วยด่วน!”
– 09.29 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ทันทีที่มาถึงได้เข้าประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตที่ติดถ้ำหลวง ซึ่งเริ่มเข้าสู่วันที่ 7 จากนั้นได้แวะเยี่ยมเจ้าหน้าที่แพทย์ที่มาเปิด รพ.สนามที่ถ้ำหลวง และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่พื้นที่จากนั้นได้ลงไปที่บริเวณถ้ำหลวง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปโดยนายกฯได้หันมาพูดว่า “รอหน่อยไม่ได้เหรอ ไม่งั้นนายกฯก็ไม่ได้เข้าไปในถ้ำ”
– 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา เกจิดังซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว พม่า จีน และภูฏาน ซึ่งเคยจำพรรษาในถ้ำเป็นเวลานานชนิดปิดวาจา ได้เดินทางกลับจากประเทศลาวแล้ว และกำลังเดินทางไปที่ถ้ำหลวงขุนนางนอน จ.เชียงราย เพื่อส่งกระแสจิตกำลังใจไปยังผู้ช่วยโค้ชและทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี่ รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ
– 09.00 น.

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำจากประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาที่ถ้ำหลวง เตรียมช่วยในปฏิบัติการระบายน้ำออกจากถ้ำ
– 08.40 น.

นายกสมาคมน้ำบาดาลไทยระบุว่า เมื่อคืนสูบน้ำตลอด แต่ปริมาณน้ำไม่ได้ลดลง เนื่องจากมีฝนตก ส่วนการเจาะผนังถ้ำ แม้จะเจาะในแนวดิ่งได้ลึกกว่า 50 เมตรแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากยังไม่เจอตาน้ำ เจอแต่โพรงน้ำ ส่วนการเจาะผนังถ้ำจุดแรกตั้งแต่เมื่อวานนั้น มีน้ำไหลออกมาจริง แต่ทีมเชื่อว่าไม่ใช่จุดเป้าหมาย ไม่น่าจะสามารถระบายปริมาณน้ำในถ้ำได้มากนัก จึงเปลี่ยนการเจาะมาเป็นแนวดิ่ง
– 06.30 น.

เครื่องสูบน้ำยังคงเดินเครื่องต่อเนื่องทั้ง 7 ตัว ขณะที่ระดับน้ำในถ้ำหลวงยังทรงตัวอยู่ในปริมาณที่น่าเป็นห่วง และน้ำยังเอ่อมาหน้าปากถ้ำ โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาผู้ว่าฯ เชียงราย ได้เข้าไปดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ในถ้ำ และจะเริ่มดำเนินการตามแผน 7 มาตรการในเช้าวันนี้
– 01.00 น.

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ยังปฏิบัติงานต่อเนื่องเพื่อจ่ายไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 500 กิโลวัตต์ ให้กับเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำ

[วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน 2561]

– 21.00 น.

เปลี่ยนแนวขุดเจาะเป็นแนวดิ่งแล้ว
– 20.48 น.

การเจาะถ้ำในแนว 45 องศาไม่ได้ผล กำลังปรับแผนเพื่อเจาะใหม่ในแนวดิ่ง
– 20.15 น.

เจ้าหน้าที่ทหารชักรอกสายไฟเข้าไปในถ้ำหลวงเพิ่ม ตามแผนของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ ที่จะส่งสายไฟเข้าไปในถ้ำให้ได้ลึกขึ้น
– 19.30 น.

การเจาะประสบความสำเร็จ และมีน้ำบางส่วนเริ่มไหลออกมาจากถ้ำแล้ว
– 19.00 น.

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะถ้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถใช้เครื่องแรงลมสูบน้ำออกมาจากภายในถ้ำหลวง
– 18.59 น.

พระภิกษุสงฆ์ นำญาติผู้สูญหายทั้ง 13 คน สวดมนต์ดังก้อง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความหวังและพลังศรัทธา โดยหันหน้าไปทางถ้ำนางนอน ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่กำลังขุดเจาะบาดาลระบายน้ำออกจากถ้ำ เพื่อเป็นกุศลให้เจ้าหน้าที่ทำภารกิจได้สำเร็จ อุทิศให้กับเจ้าแม่นางนอน และอธิษฐานให้ผู้สูญหายทั้ง 13 คนได้กลับออกมาจากถ้ำ
– 18.34 น.

ผลสรุปการสำรวจพื้นที่ด้านฝั่งขวาของถ้ำวันนี้ ตลอดทั้งวันทางทีมสำรวจพบโพรงถ้ำทั้งสิ้น 9 จุด พบว่าเป็นโพรงตัน 3 จุด อีก 3 จุดอยู่ในจุดที่สูงและชัน จำเป็นต้องใช้นักไต่เขาเข้าช่วยสำรวจ และอีก 3 แห่งยังไม่ได้สำรวจความลึก
– 17.50 น.

บริเวณหน้าถ้ำหลวงมีฝนตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง ขณะเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ
– 17.30 น.

เจ้าหน้าที่ใช้กลยุทธ์ใหม่ในการพยายามลดระดับน้ำภายในถ้ำ โดยการเจาะพื้นหาตาน้ำที่เชื่อมต่อกับน้ำในถ้ำ แล้วสูบน้ำออกจากตาน้ำดังกล่าว โดยหวังว่าการสูบน้ำออกจากตาน้ำนี้จะช่วยลดระดับน้ำภายในถ้ำได้
– 17.00 น.

เจ้าหน้าที่พยายามปิดกั้นทางน้ำเพื่อไม่ให้ไหลเข้าถ้ำ ขณะที่ทีมสำรวจพยายามหาวิธีเปิดบริเวณท้ายถ้ำตามแผนที่ที่เคยมีผู้ทำไว้
– 16.14 น.

บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้เชื่อมต่อสาย Fiber Optic เพื่อให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในถ้ำ และทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ด้านใน
– 14.50 น.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เสริมกำลังทีมค้นหาและกู้ภัย (USAR) กว่า 100 นาย เพื่อสนับสนุนการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า
– 14.00 น.

ที่บริเวณถ้ำหลวง ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใส
– 13.30 น.

รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมปฐพี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยถึงแผนการค้นหาทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ว่าเจ้าหน้าที่เตรียมเจาะผนังถ้ำหลวงเป็นอุโมงค์ขนาดเล็กกว้าง 4-5 นิ้ว ทั้งนี้ ไม่ใช่การเจาะเพื่อให้คนเข้าไปได้ แต่ต้องการให้เด็กๆ และโค้ชซึ่งติดอยู่ข้างในรับรู้ว่า ด้านนอกมีทีมที่พยายามช่วยเหลือพวกเขาอยู่ ขณะนี้รอพิกัดที่ชัดเจนและข้อมูลจากกรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสแกนหาโถงถ้ำที่คาดว่าทั้ง 13 คนอยู่
– 13.15 น.

หน่วยซีลยังไม่สามารถดำน้ำเข้าไปภายในถ้ำหลวงได้ เพราะระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องสูบน้ำจำนวน 20 เครื่อง แต่ก็ไม่สามารถสู้กับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นได้
ล่าสุดน้ำยังดันขึ้นมาปิดโพรงถ้ำและเอ่อออกมาจนถึงหน้าถ้ำ หน่วยซีลส่วนหนึ่งสแตนด์บายรอน้ำลด หากสามารถเข้าไปในถ้ำได้ก็จะเริ่มปฏิบัติการค้นหาด้านในถ้ำอีกครั้ง และกระจายกำลังอีกส่วนขึ้นเขาร่วมกับชาวบ้าน หาช่องทางอื่นที่อาจนำไปถึงตำแหน่งที่คาดว่าจะพบทั้ง 13 ชีวิต
– 12.40 น.

ชุดลาดตระเวนร่วม ชป.ที่ 1 ได้แจ้งว่าพบทางลงถ้ำทางด้านขวาของถ้ำหลวง พิกัด NC 894 550 ซึ่งเป็นทางลงถ้ำใหม่ โดยมีความกว้างขนาดราวๆ 3 คนสามารถเดินได้พร้อมกัน
– 12.13 น.

ดร.ธนา สราญเวชภัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปตท.สผ. เข้ามาช่วยสำรวจพื้นที่โดยใช้โดรน MPIO 3 ตัว ที่ใช้สำหรับตรวจสอบซ่อมบำรุง ปกติจะใช้สำรวจพื้นที่ขุดเจาะน้ำมัน เพื่อนำมาบินสำรวจบนเขา
โดรนนี้สามารถทำแผนที่ 3 มิติ และสามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์หน้างานก่อน โดยจะติดตั้งภายในวันนี้ มีระยะทำการบินครอบคลุมพื้นที่ 2 ตร.กม.
และยังมีอุปกรณ์ในการสำรวจใต้น้ำอีกด้วย แม้น้ำจะเป็นดินโคลนขุ่นก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถทำงานได้
– 12.09 น.

ทีมช่วยเหลือพบหมวกสีแดงที่คาดว่าอาจเป็นของน้องไตเติ้ล นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าที่เคยร่วมวิ่งกับตูน-อาทิวราห์ ในแคมเปญก้าวคนละก้าว ล่าสุดผู้ปกครองน้องโน๊ตยืนยันแล้ว ไม่ใช่หมวกของผู้ประสบภัย เมื่อผู้สื่อข่าวไปถามผู้ปกครองคนอื่นๆ ก็ได้คำตอบตรงกัน
– 11.58 น.

ทีมนักประดาน้ำชาวอังกฤษพร้อมถังออกซิเจนเข้าปฏิบัติการค้นหาในถ้ำหลวงอีกครั้ง
– 10.56 น.

การลากสายสื่อสารไปยังถ้ำหลวงเพื่อสนับสนุนการทำงานของทีมค้นหา เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้
– 10.49 น.

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งแก้เครื่องสูบน้ำ หลังจากที่เมื่อคืนไม่สามารถสูบน้ำได้เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน
– 10.35 น.

ทีมนักประดาน้ำอังกฤษขนอุปกรณ์เข้าถ้ำหลวง
– 10.30 น.

เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหาร พร้อมด้วยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมประชุมวางแผนก่อนเริ่มเดินเท้าสำรวจโพรงถ้ำ บนดอยผาหมี
– 09.35 น.

กรมทางหลวงชนบท ขนหินละเอียดหลายสิบคัน เข้าถมพื้นที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์ประสานช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวง เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องทำให้พื้นดินกลายเป็นโคลน ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งการเดินและการขับรถ ขณะที่ทีมกู้ภัยกว่า 20 นายลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจสำรวจและปิดทางน้ำ
– 09.30 น.

เจ้าหน้าที่ชุดโรยตัวเตรียมออกเดินทางขึ้นเขา เพื่อเดินเท้าออกสำรวจปล่องหรือโพรงที่อาจสามารถใช้เพื่อโรยตัวลงไปภายในถ้ำได้
– 09.15 น.

ทหารสหรัฐ (Us Army) ประมาณ 5-6 นาย ได้เดินทางมาถึงถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อสมทบภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง
– 09.15 น.

ทีมเจ้าหน้าที่โรยตัวกว่า 40 คน ได้สนธิกำลังกันเดินทางสู่ดอยผาหมี เตรียมเดินเท้าสำรวจหาโพรงและปล่องเพื่อเข้าถ้ำ ช่วยเหลือทั้ง 13 คนที่สูญหายต่อไป
– 09.00 น.

พล.ต อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงาน และนำสายไฟเบอร์ออฟติกมาติดตั้งกล้องบันทึกภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายในแต่ละจุด กล้องมีความละเอียดสูงใช้ในการค้นหาได้ง่ายขึ้น
– 09.00 น.

สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยแถลงเรื่องความร่วมมือกับทางการไทยที่ถ้ำหลวง ใจความว่า “สหรัฐอเมริกามีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อกรณีที่นักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนสูญหายเข้าไปภายในถ้ำหลวง ในเขตภาคเหนือของประเทศไทย ตลอดจนครอบครัวและทีมช่วยเหลือผู้สูญหาย กองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัย เพื่อช่วยตามหาผู้สูญหาย ตามคำขอของรัฐบาลไทย ขณะนี้ ทีมค้นหาและกู้ภัยของสหรัฐฯ เดินทางถึงจังหวัดเชียงรายแล้ว และได้นำเอาประสบการณ์รวมทั้งความสามารถด้านการค้นหาและกู้ภัย มาสนับสนุนความพยายามของทางการไทยในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำ เราหวังว่านักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยในเร็ววัน”
– 08.40 น.

เจ้าหน้าที่ได้ระดมทีมกู้ภัยจิตอาสาที่รวมตัวกันจากหลายจังหวัด ขึ้นสำรวจโพรงบนภูเขา ด้วยลักษณะบนภูเขาเป็นป่าทึบและมีฝนตกอย่างเนื่อง จึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเดินเท้าเพื่อค้นหาทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง
– 05.00 น.

เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ถอนกำลังออกมาจากถ้ำขึ้นที่สูง เช่นเดียวกับหน่วยซีลที่อยู่ภายในถ้ำก็ต้องย้ายขึ้นที่สูง สืบเนื่องมาจากฝนที่ตกหนักตลอด 5 ชั่วโมง จนทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำได้ซึมไหลจากด้านในออกมาด้านนอกแล้ว จนทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องยุติการทำงานชั่วคราว และได้ตัดกระแสไฟฟ้าภายในถ้ำเพื่อความปลอดภัย อ่านเพิ่มเติมคลิก
– 02.00 น.

มีฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องนานกว่า 5 ชั่วโมง ส่งผลให้ระดับน้ำภายในถ้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


ขอขอบคุณข่าวจาก