news

หายหน้าหายตาจากวงการไปนับสิบปี สำหรับ “จีโน่ ชูทส์” อดีตดาราเด็กชื่อดังในยุค 90 โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Jino Schütz เล่าถึงชีวิตของตนเองหลังออกจากวงการบันเทิงที่เดินทางผิด หลงไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และทำร้ายตัวเอง ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์กำลังเข้ารับการบำบัด อยากให้ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองเป็นบทเรียนให้กับทุกๆคน และขอกำลังใจให้ตนผ่านปัญหานี้ไปได้

“บางทีคนเรานะ เกิดมา มีร่างกายพร้อม แต่เลือกที่จะทำร้ายตัวเอง โดยการเล่นยา กินเหล้าจนไม่ได้สติ ผมเข้าใจว่าบางทีมันเกิดจากปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เราเลือกเดินไปในทางที่ผิด อย่างตัวผม ผมโตมาตอนเด็กๆ โดยการเป็นดารา ผมไม่รู้จักคำว่าวัยเด็ก ผมไม่รู้จักคำว่าการอยู่ร่วมกับสังคมตอนเด็กๆ ผมไม่มีพ่ออยู่กับผม ผมเป็นเด็กอ้วนๆ ที่แสดงละคร ที่ถูกคนตราหน้าว่าแม่ตัวเองโดนฝรั่งทำท้องและทิ้งไป (ซึ่งแม่งไม่จริงเลย) ทุกๆ วันที่ผมเดินออกจากบ้าน ผมต้องถูกถามว่าพ่อไปไหน ทำไมถึงอ้วน เป็นดารานี่ดีเนอะ มีนู้นมีนี้ (แม่งก็ไม่จริงอีก)

พอผมเริ่มจะออกจากวงการ เพราะตอนที่ผม 14-15 เป็นช่วงเวลาที่หาบทยาก เพราะจะเด็กก็ไม่ใช่จะวัยรุ่นก็ไม่ใช่ ผมเริ่มดื่มกับเริ่มดูดกัญชา ตอนอายุสิบห้า ผมไม่รู้ว่าหลังจากการเป็นดาราผมควรเป็นอะไรผมควรเดินไปทางไหน

พอผมอายุ 16-17 ผมมาอยู่สวิส ผมรู้สึกว่าผมอาจจะได้เริ่มชีวิตใหม่ ผมลดความอ้วน (ด้วยใจไม่พึ่งอะไร) ผมลดน้ำหนักไป 65 โล ผมคิดว่านี่แหละ คือชีวิตใหม่ผม พอผมเริ่มผอม แทนที่ผมจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ผมกับเดินไปในทางที่ผิด ผมเริ่มที่จะเที่ยว เริ่มที่จะติดผู้หญิง (เพราะผมอ้วนตอนเด็กไม่มีใครเอา) ผมเริ่มที่จะใช้ยา เช่นโคเคน และ แอมเฟสตามีน และดื่มหนักมาก

มันเหมือนกับคนๆ นึงทวงหาความสุขที่ไม่เคยตอนเด็กๆ ในทางที่ผิด.. ผมเริ่มกลายเป็นคนโกหก กับแม่ตัวเองกับแฟนตัวเอง แต่ในความผิดพลาดของผมตอนนั้นผมยังสามารถพยุงตัวเองให้เรียนจบได้ ผมมีความโชคดีอย่างนึง คือผมมีเพื่อนดีๆ คนดีๆ รอบตัวมาทั้งชีวิต มีแค่คนไม่กี่คนที่ผมตราหน้าว่ามันแย่…

ผมเริ่มติดหนักขึ้นมาเรื่อยๆ ผมรักผู้หญิงคนนึง ผมรักเค้ามาก ผมเคยขอเค้าแต่งงาน แต่ตัวผมตอนนั้นมันไม่ดีเลย ผมติดทั้งเหล้าติดทั้งยา มีผู้หญิงคนอื่น ทำเค้าเสียใจจนเราไม่สามารถแต่งงานกันได้แล้ว… พอเริ่มห่างกัน แทนที่ผมจะดีขึ้น ผมกับเสพหนักกว่าเดิม

ทุกๆ วันที่ผมตื่นไปทำงานผมเริ่มดื่ม ระหว่างพักงานผมเสพเพื่อให้ตัวเองตื่น เลิกงานผมดื่มเพราะผมเครียด ดื่มจนไม่ได้สติ ทุกๆ วันจะเป็นวังเวียนแบบนี้…

..แต่พอมาถึงวันนึงที่ผมรู้สึกว่าผมเริ่มคิดลำบากแล้ว เพื่อนที่เคยให้ยาผมตลอด ก็เริ่มไม่ให้ผมแล้วเพราะพวกนี้มันก็รักผม และรู้ว่าผมไม่ไหวแล้ว… ผมมาถึงจุกที่ว่าคิดเริ่มลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง อารมณ์รุนแรง..

แม่เริ่มร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้ายผมมานั่งคิดว่าผมโทษอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันผ่านมาแล้ว ผมกลับไปแก้ไม่ได้ (วัยเด็กผม)

ผมเริ่มคิดแล้วว่า อายุเราก็ 25 แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ อนาคตผมไม่เป็นขอทานผมคงหัวใจวายตาย (ผมเคยหัวใจวายรอบนึงเพราะโคเคน) ผมรู้จักพี่ชายที่แสนดีคนนึง เพราะยาก็เป็นส่วนนึงทำให้เค้าต้องจบชีวิตลง ทิ้งลูกทิ้งครอบครัวไว้ ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น…

ปัจจุบันนี้ผมเข้าสถานบำบัด ผ่านมาจะอาทิตย์นึงแล้ว ผมเหงื่อออก นอนไม่หลับ เห็นภาพหลอน แต่ผมเชื่อว่าผมจะผ่านมันไปได้…

ที่ผมมาเขียนวันนี้เพราะผมอยากจะกลับมาอ่านในอีกสิบปีข้างหน้าว่าผมผ่านมันได้และถ้าผมมีลูก ผมอยากให้ลูกผมอ่าน

ผมเป็นคนมีความฝัน ผมไม่อยากให้ความฝันผมมาหยุดอยู่แค่นี้…ผมอยากระบาย…

ผมจะไม่กลับไปทำร้ายตัวเองอีก ผมเขียนมาขนาดนี้แล้ว ในเฟสผมมีทั้งครู ทั้งเพื่อนแม่ ทั้งญาติ ถ้าผมกลับมาทำผมก็หมาตัวนึง

ตอนนี้ผมมีกำลังใจที่ดี จากครอบครัว จากแฟนคนปัจจุบัน จากเพื่อนๆ ผมไม่ได้สู้ตัวคนเดียว

สิ่งที่อยากจะฝากบอกไว้คือ คนที่คุณเห็นทุกๆวันว่าเค้าอาจจะดูไม่มีปัญหา หรือ เค้าอาจจะยิ้มกับคุณเสมอ แต่ข้างในเค้าอาจจะต้องการความช่วยเหลือมากกว่าคนที่โดนรถชนหรือแขนขาขาด

แต่สุดท้ายแล้ว ถ้าตัวเค้าเองคิดไม่ได้ มันก็ไม่มีใครช่วยเค้าได้..

สมองน่ะถ้าถูกทำลายแล้ว เอากลับมาไม่ได้แล้วนะครับ

ขอบคุณนะครับที่อ่าน
อยากให้แชร์กันเยอะๆ เพื่อคนที่เป็นแบบผมจะได้อ่าน
เราอย่าอายถ้าเรามีปัญหา อย่าดัดจริตว่าชีวิตดี

จีโน่ ชูทส์
‪#‎คนไม่ดีที่คิดได้‬ ‪#‎เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ‬”


ขอขอบคุณข่าวจาก