ใครคิด 'ถุงยางอนามัย' ?

 

ใครคิด 'ถุงยางอนามัย' ?


ไม่มี หลักฐานชิ้นใดระบุว่า ใครเป็นคนคิดค้นถุงยางอนามัยเป็นคนแรก แต่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชี้ชัดว่า มนุษย์มีการใช้ถุงยางอนามัยกันมาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว ซึ่งสมัยก่อนถุงยางยังไม่ได้ทำมาจากยางธรรมชาติเฉกเช่นทุกวันนี้ หากแต่ส่วนใหญ่จะทำจากอวัยวะของสัตว์ เช่น กระเพาะ ลำไส้ หรือหนังสัตว์ เป็นต้น

สำหรับชาวยุโรปมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่ยืนยันว่า คนโบราณรู้จักใช้ถุงยางอนามัย จากภาพวาดบนฝาผนังถ้ำ ที่เมืองกองมาแรลล์ ประเทศฝรั่งเศส

การสาธิตการใช้ถุงยางอนามัยต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้ง แรกเกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี เมื่อราวศตวรรษที่ 15 โดยชายที่ได้รับการบันทึกให้เป็น บุคคลแรกที่ใช้ถุงยางอนามัยก็ คือ กาเบรียล ฟัลโลปีอุส ซึ่งเป็นผู้คิดค้นขึ้นมาเอง

เขาทำการสาธิตการ ใส่ถุงยางอนามัยต่อหน้าฝูงชนนับพัน เพื่อพิสูจน์ว่า ผลงานของเขาสามารถป้องกันโรคซิฟิลิส ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้จริง และในเวลาต่อมา เขายังค้นพบว่า มันสามารถใช้คุมกำเนิดได้ด้วย ซึ่งถุงยางอนามัยที่ประดิษฐ์โดย Fallopius ทำจากเนื้อลินิน

จากนั้นมา วิวัฒนาการของถุงยางอนามัยก็ถูกพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 1844 บริษัทกู๊ดเยียร์ และฮันค็อก ได้เริ่มคิดค้นการผลิตถุงยางอนามัยที่ทำจากยางธรรมชาติออกมาวางขายเป็นเจ้า แรกๆ ก่อนที่จะกลายเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

เดิมที ชาวตะวันตกจะเรียกถุงยางอนามัยแตกต่างกันออกไป เช่น sheath, prophylactic, French letter, English cape เป็นต้น แต่คำเรียกที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ "คอนดอม" (condom)

ไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่า ใครเป็นคนแรกที่เรียกถุงยางอนามัยว่า "คอนดอม" แต่สันนิษฐานว่าน่าจะมาจาก 2 ความเชื่อ กล่าวคือ ทฤษฎีแรกเชื่อว่าชื่อ "condom" มาจากชื่อของ "Dr.Condom" หรือ "Dr.Conton" ซึ่งเป็นคนที่คิดค้นถุงยางอนามัยทำจากเนื้อเยื่อของสัตว์ให้แก่พระเจ้า ชาร์ลส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ ในช่วงศตวรรษที่ 16 ส่วนอีกทฤษฎีเชื่อว่า มาจากภาษาละติน โดยคำว่า "condom" ในภาษาละติน หมายถึง "ภาชนะบรรจุของ"

ทั้ง นี้ ถุงยางอนามัยถือเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ชนิดหนึ่งที่ใช้ป้องกันโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ และการคุมกำเนิด ซึ่งเพิ่งจะมาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคเอดส์อย่างรุนแรงในช่วงทศวรรษที่ 80 นี่เอง

ปัจจุบัน ถุงยางที่มีวางขายตามท้องตลาดมีอยู่ 3 ชนิดใหญ่ๆ ได้แก่

1.ชนิดที่ทำ จากลำไส้สัตว์ (Skin condom) มีลักษณะสวมใส่สบาย ไม่รัดรูป ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดีในขณะมีเพศสัมพันธ์ แต่เนื่องจากผิวของวัสดุมีรูพรุนเล็กที่ขวางได้เฉพาะตัวอสุจิเท่านั้น จึงไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

2.ชนิดที่ทำจาก น้ำยางธรรมชาติ (rubber condom or latex condom) มีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ดีกว่าแบบแรก บางเบาและกระชับรัดแนบเนื้อ สามารถใช้ได้ทั้งเพื่อการคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

3.ชนิด ที่ทำจาก ถุงยางพลาสติก (Polyurethane) ว่ากันว่าถุงยางชนิดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าแบบที่ทำจากน้ำยางธรรมชาติ คงทนกว่าแบบยางธรรมชาติ สามารถใช้สารหล่อลื่นที่ทำจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีได้





 




 

Bookmark and Share


:: ผู้หญิงมาใหม่























 
:: อ่านข่าว
:: รวมของฟรี
:: ซาบซ่าส์
:: ลิงค์แนะนำ

(ซาบซ่าส์ดอทคอม)
Website Allright Reserved
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2550
ทะเบียนพาณิชย์เลขที่ 0577314802616
x [close]
x [close]