การดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี

การดูแลผิวพรรณมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล เพราะผิวแบ่งได้เป็นหลายประเภท การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ หรือเครื่องสำอางบำรุงผิว จึงต้องเลือกซื้อให้เหมาะกับสภาพผิวของเรา ถ้าเราเลือกใช้เครื่องสำอางผิดประเภท ก็จะเกิดผลเสียตามมา แทนที่ผิวจะมีสุขภาพดี แข็งแรง กลับถูกทำลายไปเสียอีก
ผิวหน้าของคนเราแบ่งได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่
1. ผิวแห้ง
2. ผิวมัน
3. ผิวผสม
4. ผิวธรรมดา

ขั้นตอนการทดสอบผิวหน้าว่ามีผิวประเภทใด
1. ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำเปล่าโดยไม่ต้องใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้าใดๆ หลังล้างหน้าทิ้งไว้ประมาณ 1 ช.ม. นำกระดาษซับหน้ามันมาวางบนใบหน้า
2. เช็คดูว่ากระดาษซับหน้าเป็นอย่างไร
a. ถ้าไม่ติดบนผิวหน้า แสดงว่า ผิวแห้ง
b. ถ้าผิดผิวหน้า มีน้ำมันบริเวณกระดาษทั่วใบหน้า แสดงว่า ผิวมัน
c. ถ้าติดผิวหน้า มีน้ำมันเฉพาะ T-Zone แสดงว่า ผิวผสม
d. ถ้าติดผิวหน้า มีน้ำมันเล็กน้อยทั่วหน้า แสดงว่า ผิวธรรมดา

ผิวแห้ง
 ผู้มีผิวแห้ง บริเวณใบหน้าแห้งแตกเป็นขุย มีริ้วรอยบริเวณแก้มและหน้าผาก คนที่มีผิวแห้งมักเป็นผิวที่ขาดการดูแลหรือ เกิดจากวัยที่สูงขึ้น ลักษณะของผิวประเภทนี้ จะเกิดฝ้า กระได้ง่าย เพราะน้ำมันปกป้องผิวตามธรรมชาติลดลง ทำให้กระบวนการปกป้องผิวมีน้อย โอกาสจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกเช่นแสงแดด มลภาวะ ซึ่งมากหายได้ง่าย แต่คนผิวแห้งก็มีข้อดีก็คือ ปัญหาสิวน้อย ใบหน้าเรียบเนียนเพราะรูขุมขนเล็ก เพราะฉนั้นลักษณะผิวประเภทนี้ ซึ่งต้องดูแลเอาใจใส่อย่างสูง เพื่อป้องกันปัญหาจากการเกิดริ้วรอย ใบหน้าไม่สดใส หมองคล้ำ ไม่เปล่งปลั่ง

การดูแลผิวหน้า
 การดูแลผิวหน้าสำหรับคนผิวแห้ง ควรเลือกใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนดยนหรือมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ไม่เกิน 20% และสำหรับผู้หญิงที่แต่งหน้าโดยมีครีมรองพื้นผสมอยู่ แนะนำให้ใช้คลีนเซอร์ประเภทครีม หรือเบบี้ออยล์ทำความสะอาดเครื่องสำอาง เพราะการล้างหน้า

สารแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือ สารต่อต้านอนุมูลอิสระ อัศวินขี่ม้าขาวของผิว
ถือเป็นสารที่ทำหน้าที่ปกป้องการเกิดอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการทำลายเซลล์ผิว เพิ่มความเปล่งปลั่ง สดใส มีชีวิตชีวาของผิวสารต่อต้านอนุมูลอิสระแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเกลือแร่ เช่น ซีเลเนียน (Selenium) กลุ่มเอนไซม์ เช่น ซุปเปอร์ออกไซต์ ดิสมิวเตส และกล่มวิตามิน เช่น เบต้าคาโรทีน วิตามินอี วิตามินซี

ดาวเด่นของสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน อี  มักใส่ในเครื่องสำอางบำรุงผิว เพื่อป้องกันผิวหน้าไม่ให้แก่ก่อนวัย และบำรุงรักษาริ้วรอยที่เกิดบนใบหน้า ช่วยทำให้อาการอับเสบของผิวทุเลาลง พร้อมทั้งสมานแผลให้แน่นขึ้น นอกจากนั้นวิตามินอียังเป็นตัวดักจับอนุมูลอิสระตรงเยื่อหุ้มเซลล์ เมื่อเซลล์ผิวหนังปลอดภัย ทำให้ผิวหน้าไม่เสื่อมคุณภาพในที่สุด กล่าวโดยรวมวิตามินอีจึงมีคุณสมบัติป้องกันผิวหนังให้ดูอ่อนวัยอยู่เสมอและมีอายุยืนยาวตามที่ควรจะเป็น





 




 

Bookmark and Share


:: ผู้หญิงมาใหม่























 
:: อ่านข่าว
:: รวมของฟรี
:: ซาบซ่าส์
:: ลิงค์แนะนำ

(ซาบซ่าส์ดอทคอม)
Website Allright Reserved
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ. 2550
ทะเบียนพาณิชย์เลขที่ 0577314802616
x [close]
x [close]