news

 

หลังจากที่รายการติบเดย์ ได้ออกอากาศไปเมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) และได้มีทางดาราหนุ่ม “หมอก้อง สรวิชญ์” มาร่วมรายการและออกมาให้ข้อมูลการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ได้ออกมาอธิบายบอกว่าว่าทางหมอก้อง นั้นได้ให้ข้อมูลท่านผู้ชมในรายการแบบผิดๆ ซึ่งกลัวว่าคนจะนำไปใช้และเกิดอันตราย จึงขอแก้ไขข้อมูลของหมอก้องให้ประชาชนได้ทราบแบบถูกต้องดังนี้

“เมื่อวานหมอก้องไปออกรายการตีสิบเดย์แล้วสอนเรื่องการปฐมพยาบาล
ขอแก้ไขข้อมูลของหมอก้องหน่อยครับ
การปฐมพยาบาลงูกัดในปัจจุบัน ไม่แนะนำให้ขันเชนาะหรือรัดเหนือบริเวณที่ถูกงูกัดเพื่อกันพิษแล่นเข้าสู่หัวใจแล้ว เพราะ “ไม่มีประโยชน์ใดๆ” แถมยังทำให้พิษเข้าสู่ระบบน้ำเหลืองไวขึ้นด้วย ถ้าซวยหน่อยเจอคนขันเชนาะไม่เป็น ก็อาจจะรัดจนแขนขาส่วนที่ถูกรัด ขาดเลือด เนื้อตาย ต้องตัดแขนตัดขา ซวยกันไป
ถ้าถูกงูกัดไม่ต้องขันเชนาะหรือรัดบริเวณที่โดนกัด ไม่ต้องเอาปากดูดพิษด้วย แค่เอาอะไรก็ได้แข็งๆมาดามตำแหน่งที่โดนงูกัดให้อยู่นิ่งๆ หรือให้คนเจ็บทำตัวให้นิ่งที่สุด แล้วหามส่ง รพ แม่งเลย
อนึ่ง พิษแล่นเข้าสู่หัวใจ ไม่มีคำนี้ในสารระบบของการแพทย์แผนปัจจุบัน
เพราะพิษมันไม่ได้อกฤทธิ์ที่หัวใจ แต่ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาท การแข็งตัวของเลือด และกล้ามเนื้อ
อสอง งูแมวเซา พิษไม่ทำให้ง่วง แต่ทำให้เลือดแข็งตัวผิดปรกติ ส่วนไอ้ความเชื่อที่ว่างูบางชนิดกัดแล้วง่วง จริงๆไม่ใช่ง่วง แต่กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตเพราะพิษงูบางชนิดส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง หนังตาตก กล้ามเนื้อที่ใช้หายใจอ่อนแรงจนหายใจเองไม่ได้ แล้วก็ขาดออกซีเจนตายในที่สุด
ประเด็นต่อมา เมื่อเด็กมีไข้ การใช้คูลฟีเวอร์แปะหัว ไม่ได้ช่วยอะไรมากครับ แค่หัวเย็น แต่ถ้าอยากจะลดไข้เด็ก ป้องกันไม่ให้เด็กชักเพราะไข้สูง ให้เช็ดตัวครับ เช็ดแล้วถูกผิวให้แรงๆหน่อยเส้นเลือดที่ผิวหนังจะขยายตัวแล้วคายความร้อนทำให้ไข้ลง
ประเด็นต่อมาหมอก้องสอนการช่วยคนที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นว่าให้เริ่มจาก ABC คือ เปิดทางเดินหายใจ Airway ก่อน อันนี้เลิกใช้มาได้ประมาณสี่ห้าปีแหล่ว ในไกด์ไลน์การช่วยชีวิตอันล่าสุด ให้ C คือการปั๊มหัวใจมาเป็นอันดับแรกแล้วนะครับ คือเน้นความสำคัญของการปั๊มหัวใจเป็นอันดับแรก ถ้าเจอคนหมดสติ เรียกไม่รู้สึกตัว ปั๊มหัวใจไปเลยครับสำคัญสุด
ยกเว้นในกรณีจมน้ำที่ยังใช้ ABC ได้นะครับ เพราะอาจมีพวกดินโคลนอุดตันในทางเดินหายใจได้ ให้เอาของแปลกปลอมที่คาอยู่ในปากและอาจอุดตันทางเดินหายใจออกให้หมด จากนั้นก็ปั๊มหัวใจแล้วผายปอดแม่มเลยครับ
ประเด็นต่อมา หมอก้องปั๊มหัวใจคนไข้ผิดตำแหน่งนะครับ ที่หมอก้องบอกว่าให้เหนือลิ้นปี่สองนิ้ว และเยื้องไปทางซ้ายอีกสองนิ้วเพราะหัวใจอยู่ทางซ้าย อันนี้ผิดครับ ตำแหน่งปั๊มหัวใจที่ถูกต้องคือ กระดูกลิ้นปี่ส่วนล่างตรงกึ่งกลางเลยครับ ไม่ต้องเยื้องไปทางไหนทั้งนั้น ปั๊มให้เร็ว 100-120 ครั้งต่อนาที ให้ยุบลงไปประมาณ 5-6 ซม
ประเด็นต่อมาที่หมอก้องบอกว่าถ้าคนท้องใกล้คลอด ปากมดลูกเปิด หัวเด็กโผล่มาขนาดนั้นแล้ว บอกให้แม่กั้นคาไว้อย่าเบ่ง อันนี้อันตรายเพราะถ้าหัวเด็กโผล่มาขนาดนั้นแล้วคาไว้ เด็กอาจจะขาดออกซีเจนถึงตายได้ แต่ถ้าเด็กยังไม่โผล่ ก็อย่าเพิ่งรีบเบ่ง ให้รีบไป รพ จะดีสุดครับ
สรุป… เอาเป็นว่าทางหมอก้องกับรายการตีสิบควรจะเช็คข้อมูลเรื่องการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องก่อนออกสื่อกันซักหน่อยนะครับ ไม่งั้นถ้าคนจำผิดๆแล้วเอาไปใช้นี่แม่งอันตรายมาก”


ขอขอบคุณข่าวจาก