news

 

เน็ตไอดอลชื่อดัง “เทพพิทักษ์ แอสละ” จัดแถลงข่าวชี้แจงกรณีอุบัติเหตุขับรถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีขาว ทะเบียน 4 กฉ 5643 กทม. ชนกับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีดำ ทะเบียน อคฬ 7 กทม. ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำตัวส่งยังโรงพยาบาล เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (7 ต.ค.)

โดยเจ้าตัวระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะกำลังเดินทางไปซื้อกับข้าวหลังจากอัดรายการเสร็จ ซึ่งจังหวะนั้นเป็นช่วงที่ตนกำลังจะเลี้ยวรถเพื่อเข้าซอย แต่เนื่องจากคู่กรณีได้ขับรถจักรยานยนต์มาจากเลนกลางด้วยความเร็ว ก่อนพุ่งเข้าชนบริเวณท้ายรถของตนในที่สุด

ซึ่งหนุ่มเทพพิทักษ์ยังระบุอีกว่า เบื้องต้นได้ทำการช่วยเหลือคู่กรณีและเดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อกล่าวหาต่างๆ จะมีอะไรบ้างนั้นคงต้องรอให้อีกฝ่ายพักฟื้นให้หายดีก่อน พร้อมออกปากตนทำงานขับรถมานานและระมัดระวังเรื่องการขับขี่มาตลอด จึงรู้สึกเศร้าใจมากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น…

อยากให้เราเล่าก่อนว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ?
“วันนั้นผมไปอัดรายการมาตอนเช้า และพอเลิกงานปุ๊ปผมก็เลยขับรถเพื่อที่จะไปซื้อกับข้าว ซึ่งจังหวะที่ผมจะเลี้ยวเข้าซอยมันก็มีรถมอเตอร์ไซค์ขับมา และเขาก็ชนเอาที่ประตูหลังรถผม ตอนนั้นตกใจมากแต่ก็วิ่งลงไปดูเขา คือมันเป็นอุบัติเหตุ เพราะถ้าเอาจริงๆ มอเตอร์ไซค์ขับมาแบบนั้นเขาต้องเบรกนะ เขาวิ่งเลนกลางมาเลยจากที่ปกติมอเตอร์ไซค์ต้องวิ่งริมๆ แถมจังหวะก่อนที่ผมจะเลี้ยวเข้าซอย ผมก็ยังมองอยู่ว่าเขาไม่เบาเลยอ่ะ สุดท้ายก็ชน”

พอชนปุ๊ปรถเราเป็นยังไงและตัวคู่กรณีเป็นยังไงบ้าง ?
“ตอนนั้นรถผมจอดแล้วนะ และก็อย่างที่บอกเขามาชนเข้าตรงประตูหลังรถผม ส่วนรถเขาก็ข้างหน้าแตกนิดหน่อย แต่ทางเจ้าหน้าร่วมกตัญญูที่มาช่วยตอนนั้นเขาก็บอกว่ายังไม่แน่ใจว่าเป็นอะไรมากไหมเลยต้องใส่ดามเอาไว้ก่อน ซึ่งพอไปถึงโรงพยาบาลคุณหมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่แผลถลอก”

จริงๆ ตอนนั้นเราได้เบรกกะทันหันด้วยไหม ?
“ไม่ได้เบรกกะทันหันครับ ผมกำลังจะเลี้ยวเข้าซอย ซึ่งตอนที่รถเขาวิ่งมาผมยังหันไปมองเลยว่าทำไมเขาไม่เบรก”

ตกใจไหมสำหรับตัวเราเอง ณ ตอนนั้น ?
“ตั้งแต่ผมเป็นพนักงานขับรถมา ผมไม่เคยขับรถชนใครเลยนะครับ แต่ก็มาเจอกรณีแบบนี้บ่อยมาก คืออุบัติเหตุบนถนนเราก็ไม่สามารถไประบุได้เนอะว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าเขาไม่ชนเรา เราก็ไปชนเขา มันเป็นเรื่องอันตราย แต่ว่าสำหรับตัวผมเองในฐานะที่ผมก็ทำอาชีพพนักงานขับรถ ผมก็ให้ความสำคัญกับเรื่องการขับขี่มาก เวลาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็เศร้าใจเหมือนกัน”

เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมคู่กรณีบ้างหรือยัง ?
“เมื่อวานก็ไปที่โรงพยาบาลมาครับ ไปดูพี่เขา ตอนแรกตกใจเหมือนกันคิดว่าจะถึงขั้นแขนขาหัก แต่คุณหมอก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่แขนขาถลอกนิดหน่อย ส่วยเรื่องค่าใช้จ่ายก็น่าจะเกี่ยวกับทาง พรบ. มาช่วยรับผิดชอบ”

เห็นว่าทางเจ้าหน้าที่มีการตั้งข้อหาว่าเป็นการขับรถโดยประมาทด้วย ?
“อันนี้ต้องถามกับทางตำรวจอีกทีนะครับ เมื่อวานผมยังตกใจมือไม้สั่นอยู่เลย แต่ที่ไปเยี่ยมพี่คนขับรถมอเตอร์ไซค์เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร อีกอย่างถ้าพูดถึงเขาก็เป็นคนขับมาชนผม ส่วนเรื่องแจ้งความคดีอะไรพวกนี้คงต้องรอให้พี่เขาออกจากโรงพยาบาลก่อน”

ส่วนตัวเราเองมีเอกสารใบขับขี่ครบถ้วนไหม ?
“มีครับ มี (ยิ้ม)”

เหตุการณ์นี้ให้บทเรียนอะไรกับเราบ้าง ?
“ก็อย่างที่ผมบอกเรื่องการขับขี่ตัวผมเองก็ให้ความสำคัญนะครับ ผมขับรถมาหลายปี ทุกที่ในประเทศไทยผมก็ไปได้หมดถามเจ๊ผมได้ครับ ส่วนเส้นทางในกรุงเทพผมก็พอรู้เหมือนกัน เนื่องจากบริษัทที่ผมทำงานเขาก็อยู่แถวๆ มีนบุรี ดังนั้นเรื่องการส่งของมาในกรุงเทพก็มีบ่อย แถมเส้นนั้นผมก็วิ่งซื้อกับข่าวแทบจะทุกวันเลยด้วยครับ”

จากนี้ก็อาจจะต้องระวังมากขึ้นเวลาขับรถ ?
“ตอนนี้ผมก็ใจไม่ดีแล้วครับ (หัวเราะ) ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก คือผมไม่เคยไปชนเขา และโชคดีด้วยที่เขาไม่เป็นอะไรมาก ถ้าหากมันถึงชีวิตขึ้นมาเราเองก็คงรู้สึกผิด วันนั้นจากที่หน้าขาวๆ กลายเป็นซีดกว่าเดิมอีกครับ”

รถที่นำมาขับวันนั้นเป็นรถของเราหรือของบริษัท ?
“เป็นรถที่ญาติๆ ให้มาขับครับ ตอนนี้ผมลาจากบริษัทมาทำงานตรงนี้ก่อน”

ถามถึงกระแสอีกมุมบ้างที่คนมองว่าจริงๆ แล้วมันอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ถูกทำขึ้นมา เพราะหนังเกี่ยวกับรถที่เราร่วมแสดงเพิ่งจะฉาย ?
“ไม่ครับ มันเป็นอุบัติเหตุครับ และก็อยากให้ทุกคนระมัดระวังด้วย ยืนยันเลยครับว่าไม่เกี่ยวอะไรกับหนังเลย พี่พจน์เองก็ดุผมชุดใหญ่เหมือนกันเมื่อคืน แต่ก็อธิบายไปแล้ว”

ทางคู่กรณีเขาได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากเราบ้างไหม ?
“พี่เขาไม่ได้เรียกร้องอะไรเลยครับ พี่เขาพูดจาดีมากๆ แต่วันนี้ก็ตั้งใจว่าถ้าเลิกงานแล้วจะเดินทางไปเยี่ยมเขาอีก เป็นห่วงเขาเนอะเขาเจ็บ”

สุดท้ายมีอะไรอยากบอกแฟนๆ บ้างที่เขาตามข่าวอยู่ ?
“ก็อยากจะฝากเรื่องการขับขี่ครับ ต้องระมัดระวังให้มากๆ ไม่ต้องขับแรง ยิ่งในกรุงเทพนะรถติดผมเห็นขับกันไวมาก ไวเกินไปนะบางครั้ง ระวังกันสักหน่อยดีกว่า อย่าไปบิดใส่กัน ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันจะเสียทั้งร่างกายเสียทั้งชีวิต ไม่อยากให้เจอเหตุการณ์แบบนี้กันอีกครับ”


ขอขอบคุณข่าวจาก