โรงพยาบาลผีสิง

โรงพยาบาลผีสิง หลอกหลอนผู้คนจนร่ำลือทั้งระยอง เป็นโรงพยาบาลเก่าที่หยุดกิจการปล่อยให้ร้างมา 3-4 ปี ทิ้งตู้ยา เตียงคนไข้ไว้เกลื่อน ประตูหน้าต่างแตก ผู้คนที่ผ่านไปมาบางคนเห็นรถพยาบาลวิ่งเข้าวิ่งออก เห็นคนเข็นเตียงคนไข้เดินไปมา ได้ยินเสียงคนร้องไห้โหยหวน ทั้งๆที่ตึกทั้งตึกไม่มีใครอยู่ รถร้างมียาขึ้นเต็มไปหมด จนไม่มีใครกล้าผ่าน ขญะเดียวกันก็มีคนเข้าไปพิสูจน์เป็นระยะๆ แต่ก็ต้องวิ่งหน้าตื่นตัวสั่นออกมาแทบทุกคน หลายคนบอกถูกตบหัว

เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านร่ำลือไปเที่ยวเมืองระยองว่า มีผีอาละวาดเที่ยวตามหลอกหลอนผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาจนหวากผวาไปตามๆกัน ที่โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ชื่อโรงพยาบาลเอกชน ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.เชิงเนิน อ. เมือง ระยอง ริมถนนสาย 36 โดยเสียงร่ำลือของชาวบ้านบอกว่าเห็นผีเข็นรถคนไข้ไปมาภายในโรงพยาบาล และมีเสียงร้องโหยหวนชวนให้ขนลุกขนพองอย่างยิ่ง จนไม่มีใครกล้าเดินผ่านเส้นทางดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน

ห้องดับจิตและโรงอาหารอยู่ในสภาพเก่า
จากการตรวจสอบยริเวณดังกล่าวพบว่า มีเนื่อที่ประมาณ 50 ไร่ ด้านหน้าเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ติดถนนสาย 36 ของโครงการระยองคอมเพล็กซ์ ด้านหลังโครงการมีพื้นที่โล่งเนื่องจากโครงการหยุดซะงัก ห่างจากถนนอกไปประมาณ 1 ก.ม. พบตึก 4 ชั้นขนาดใหญ่ ด้านหน้าเขียนข้อความว่า
” โรงพยาบาลเอกชน ศูนย์บริการ 24 ชม.
“มีหญ้ารกปกคลุม สภาพเก่าตัวอาคารมีสีแดง ชั้นล่างเป็นห้องฉุกเฉินที่ยังมีป้ายติดอยู่ ชั้นสองเป็นห้อมคอมพิวเตอร์และห้องผู้ป่วย ส่วนชั้นล่างมุมขวาเป็นห้องดับจิตและโรงอาหาร ทั้งหมดอยู่ในสภาพเก่า

นอกจากนี้ตามห้องต่างๆยังมีเตียงคนไข้เก่าๆ เรียงรายกระจักกระจายเต็มไปหมด หน้าต่างทุกบานกระจกแตกไม่อยู่ในสภาพใช้งานได้ เมื่อมองสังเกตุเข้าไปด้านในมีรอยคล้ายรอยเลือด 2 กองติดอยู่หน้าพื้นผนังหน้าห้องฉุกเฉิน
ส่วนห้องดับจิตก็ยังมีตะแกรงวางศพปรากฏให้เห็น ขณะที่ห้องเย็นสำหรับเก็บศพอยู่ติดกับโรงอาหารชั้นล่าง มีสภาพเก่าๆทึ่มๆ สร้างความวิเวกวังเวงอย่างยิ่ง โดยเฉพราะเวลามีสายลมอ่อนๆพัดผ่านมา

เหตุใดโรงพยาบาลต้องหยุดกิจการ
นายสุชาติ พฤษศานิตย์ อายุ 40 ปี คนงานที่เฝ้าสถานที่ดังกล่าวเปิดเผยว่า เดิมโรงพยาบาลแห่งนี้ชื่อโรงพยาบาลเอกชน ก่อนจะหยุดกิจการไป อีกประมาณ 1 ปีต่อมากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งชื่อโรงพยาบาลสุนทรภู่ แต่ละวันมีคนไข้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นโรงพยาบาลชื่อดังของ จังหวัด แต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใดโรงพยาบาลต้องหยุดกิจการอีกครั้ง และปิดยาวกลายเป็นอาคารร้างมาประมาณ 3-4 ปีแล้ว ส่วนตนได้รับว่าจ้างจากบริษัทแห่งหนึ่งที่ซื้อตึกนี้ให้ดูแลคอยถางหญ้าถาง ป่าไม่ให้รกรุงรัง

แต่ละวันจะมีคนเข้ามาพิสูจน์ผีเป็นระยะๆ และก็ต้องวิ่งเผ่นหนีออกมาแทบทุกคน
นายสุชาติกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีคนมาบอกว่าที่นี่ผีดุ และโดนหลอกเป็นประจำ แต่ระวันจะมีคนเข้ามาพิสูจน์ผีเป็นระยะๆ และก็ต้องวิ่งเผ่นหนีออกมาแทบทุกคน ล่าสุดมีนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งเข้ามาพิสูจน์ความจริง และก็ต้องวิ่งตาตื่นตัวสั่นออกบอกกับตนว่าถูก ตบบหัว
“มีชาวบ้านเห็นคนเข็นรถเข็นคนไข้เข้าๆออกๆ เป้นประจำเหมือนปกติ แต่พอมองดูช้าๆ ชัดๆ ก็กลายเป็นป่าไม้ บางทีก็มองไม่เห็นอะไรเลย บางทีก็มีรถพยาบาลวิ่งเข้าไปข้างใน มีเสียงคนไข้ร้องโหยหวน แต่ผมไม่เคยเจอกับตาเสียที
” ผู้ดูแลโรงพยาบาลผีสิงกล่าว

*สาเหตุที่ทำให้โรงพยาบาลต้องหยุดกิจการปล่อยให้รกร้างมานาน เนื่องจากมีปัญหาถูกร้องเรียนเรื่องขาดแคลนแพทย์และการให้บริการ**

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

โรงพยาบาลผีสิงที่ระยองกำลังเป็นข่าวดังสุดๆ ถึงกับมีคนอยากไปลองของ ท้าพิสูจน์กันมากมาย เพื่อให้เห็นดำเห็นแดงว่ามีผีสิงจริงหรือเปล่า? ถ้ามีจริงจะปรากฏกายให้เห็นหรือไม่?

ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปดูคืนละเป็นร้อยๆ จนคนเฝ้าต้องเก็บเงินค่าผ่านประตูหัวละ 10 บาท คนอยากรู้อยากเห็นก็ยินยอมจ่ายให้โดยดี

พอเห็นเข้าก็สติแตก ร้องไห้โฮก็มี วิ่งหนีกระเซอะกระเซิงก็มี อาการหนักกว่าเพื่อนถึงกับสลบค่าที่ เมื่อช่วยกันแก้ไขให้ฟื้นขึ้นได้ก็รีบกลับไปจุดธูปขอขมาว่าไม่ได้เจตนาลบหลู่อะไรหรอก เจ้าประคุณเอ๋ย…นอกจากอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นแหละ

ข่าวสดลงข่าวอื้อฉาว พี่ป๋องออกรายการทางวิทยุ ทีวียกกองไปตั้งกล้องถ่าย ผู้คนสนใจแห่กันมาดูคับคั่ง พ่อค้าแม่ขายหลายเจ้าก็พลอยขายดิบขายดีไปตามๆ กัน

เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ อยู่กลางซอยราชครู สนามเป้าเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมานี่เอง

เข้าซอยไปราว 100 เมตรเศษ อยู่ทางซ้ายมือ ด้านหน้ามีรั้วและสนามหน้าตึกสามชั้น รับตรวจรักษาโรคต่างๆ เหมือนโรงพยาบาลทั่วไป คนไข้ก็เข้าออกกันหนาตา รวมทั้งญาติมิตรที่ไปเยี่ยมคนป่วยต้องนอนโรงพยาบาล

จู่ๆ โรงพยาบาลนี้ก็เลิกกิจการไปโดยที่ไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัด

ลือกันว่าขาดทุนบ้าง ขาดแพทย์และพยาบาลบ้าง เจ้าที่แรงบ้าง แต่ที่แน่ๆ คือ กลายเป็นโรงพยาบาลร้าง ประตูรั้วปิดตาย ไม่ช้าก็มีเถาไม้เลื้อยพันขึ้นมารกรุงรัง ยามค่ำคืนคนที่ผ่านไปมามองเห็นตึกร้าง มีแต่ความทึบทึมเปล่าเปลี่ยว นอกจากจะเกิดความวังเวงใจแล้วยังรู้สึกเสียวสันหลังวูบวาบไปตามๆ กัน

คนแถวนั้นที่ผ่านไปมาตอนกลางคืน เล่าว่าได้ยินเสียงผู้หญิงร้องครวญครางโหยหวนน่าขนลุกดังมาจากตึกชั้นบน

อาหมู – คนรับเหมาก่อสร้างเดินกลับบ้านมาพร้อมกับเมียชื่อเจ๊แดง บอกว่าได้ยินเสียงเด็กร้องไห้เยือกเย็นมาจากตึกร้าง พอหันไปมองอย่างลืมตัวก็เห็นผู้หญิงยืนอุ้มลูกอยู่ที่หน้าต่างชั้น 2 เล่นเอาวิ่งแข่งกันเป็นลมพัด…เจ๊แดงจับไข้อยู่หลายวัน สบถสาบานว่าจะไม่ยอมเดินผ่านโรงพยาบาลผีสิงตอนกลางคืนอีกต่อไป

น้าวีระ – เซลส์แมนสบถสาบานว่า ขนาดนั่งตุ๊กตุ๊ก เข้าซอยมาแท้ๆ ยังเห็นรถเข็นคนไข้เปล่าๆ แล่นไปมาอยู่หน้าตึกร้าง ไม่มีทั้งคนนั่งและคนเข็น หมาเจ้ากรรมก็โก่งคอหอนโหยหวนขึ้นทั้งซอย

คนขับตุ๊กตุ๊กคงจะเห็นเหมือนกันเลยห้อตะบึงจนเลยทางเข้าบ้าน น้าวีระสั่งจอด พอโดดลงมาคนขับก็บึ่งรถไปโดยไม่แยแสค่าโดยสาร…ขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน

ป้าณี – แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวที่ก้นซอยอารีสัมพันธ์ 1 เล่าว่า ออกไปซื้อของที่ตลาดสะพานควายตอนเช้ามืด พอเดินผ่านโรงพยาบาลร้างที่ตั้งตะคุ่มอยู่ในความมืดสลัว หันไปมองโดยไม่ตั้งใจก็เห็นไฟสว่างพรึ่บบนชั้น 2 กับชั้น 3 ที่เป็นห้องพักคนไข้

รวดเดียว ป้าณีวิ่งไม่คิดชีวิตไปถึงถนนใหญ่…ตั้งแต่นั้นมาจะไม่ยอมออกไปซื้อของก่อนสว่างเป็นอันขาด

“น้าอ้วน
” อยู่ใกล้ๆ บ้านป้าณี เป็นสาวโสดฐานะดี มีอาชีพออกเงินกู้ อยู่กับแม่ที่ชรามากแล้ว เจอฤทธิ์เดชของปีศาจโรงพยาบาลร้างรุนแรงยิ่งกว่าทุกคน ขนาดเอาชีวิตเป็นเครื่องสังเวย!

วันนั้น น้าอ้วนไปเก็บดอกเบี้ยไปถึงซอยอารี ซอยสีฟ้า ลูกหนี้ชวนไปดื่มเบียร์ฟังเพลงที่คาเฟ่หน้าโรงหนังนิวยอร์ก…ติดลมจนเกือบสองยาม ถึงได้เดินเซนิดๆ มาขึ้นแท็กซี่แยกกันกลับบ้าน

แทนที่จะเข้าซอยอารี เลี้ยวซ้ายผ่านโรงแรมมายเฮ้าส์ไปอารีสัมพันธ์ 1 จะได้ไม่ผ่านดงผีดุ แต่กลับเลยไปเข้าทางซอยราชครูจนได้

ท่ามกลางบรรยากาศเยือกเย็นชวนให้วังเวงใจ แท็กซี่เจ้ากรรมคันนั้นเกิดเบรกเอี๊ยดที่หน้าประตูรั้วสนิมเขรอะดื้อๆ เล่นเอาน้าอ้วนแทบสร่างเมา ชะโงกหน้าเข้าไปถามว่าจอดที่นี่ทำไม? คำตอบเล่นเอาขนหัวลุกพรึ่บทันที

“ก็รถพยาบาลเขาจะเลี้ยวเข้าไป พี่ไม่เห็นรึ?

“รถผีสิงน่ะซี…
” น้าอ้วนหลุดปากได้แค่นั้นก็ลิ้นแข็ง เบิกตาโพลงบัดดล

นรกเป็นพยาน! รถตู้สีขาวคันหนึ่งกำลังเลี้ยวช้าๆ ผ่านหน้ารถแท็กซี่ แล่นทะลุประตูเหล็กที่มีไม้เลื้อยรุงรังเข้าไปในโรงพยาบาลร้าง…ก่อนจะจางหายไปต่อหน้าต่อตา

น้าอ้วนร้องด่าอย่างลืมตัว รู้สึกเหมือนมีความมืดสาดพรึ่บเข้ามาเต็มหน้า แท็กซี่ร้องเฮ้ย! เข้าเกียร์ออกรถมือไม้สั่น ขับพรวดพราดไปจอดหน้าซอย บอกว่าไม่ยอมเข้าไปเด็ดขาด เดี๋ยวจะบึ่งตรงไปออกทางคลองประปา น้าอ้วนจะอ้อนวอนเท่าไหร่ก็ไร้ผล

เดินร้องไห้ซมซานมาถึงบ้านก็เป็นลมไป รุ่งขึ้นเพื่อนบ้านได้ข่าวก็ไปเยี่ยม น้าอ้วนเล่าเรื่องขนหัวลุกให้ฟังกระท่อนกระแท่น เดี๋ยวหัวเราะร่วน เดี๋ยวก็ร้องไห้โหยหวนเยือกเย็นไปถึงหัวใจของทุกคนที่ได้ยิน

อีกราว 3-4 วันต่อมา น้าอ้วนก็ผูกคอตายในห้องน้ำชั้นล่าง ไม่มีใครทราบสาเหตุแท้จริงว่าเป็นเพราะอะไรแน่…แต่ก็ลือกันว่าโดนวิญญาณร้ายมาเอาชีวิตเพราะปากคอร้ายกาจของแกเอง