ผีโขมด

ผีโขมดนั้นหากตรวจสอบดูจากหลายๆ ตำราจะพบว่าข้อมูลค่อนข้างแตกต่างกันไป และไม่ค่อยมีบทบาทการแสดงสักเท่าไรนัก ไม่ว่าจะเป็นวรรณคดีหรือตำนานใดๆ ผีโขมดก็มักได้แค่ตัวประกอบเท่านั้น

ประวัติความเป็นมาของผีโขมดนั้นไม่ค่อยประจักษ์ชัดนัก คือจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาเรื่องนี้ฉาก เรื่องโน้นฉาก แล้วก็แวบหายไป เลยไม่รู้ว่าไปทำยังไงเขาถึงได้กลายเป็นผีโขมด ถ้าอย่างผีตายทั้งกลมก็รู้ล่ะว่าคลอดลูกไม่ออกเลยตายหรืออย่างผีนางตานีก็ทราบว่าเพราะมีวิญญาณของผีสาวไปสิงสถิตอยู่ในต้นกล้วยตานีตายทั้งกลม แต่สำหรับผีโขมดนั้นหาที่มาที่ไปไม่ได้เอาซะเลย

บางตำราบอกว่า “โขมด” เป็นภาษาเขมรแปลตามตัวได้ความเพียงว่าเป็นผีทั่วไป แต่บางตำราบอกว่าเป็นผีที่มีรูปร่างหน้าตาน่ากลัวเหมือนกับผีไม่มีผิด ก็นั่นนะ ซิ…ถ้าไม่ให้เหมือนผีแล้วจะให้เหมือนอะไรมิทราบ อีกตำราบอกว่าผีโขมดนั้นเป็นเพียงดวงไฟลอยวับๆ แวมๆ วูบวาบเป็นดวงโตมองเห็นในเวลากลางคืนโดยเฉพาะในที่ที่มีน้ำฉ่ำแฉะและไม่ทำอันตรายใคร แต่จะคอยลวงให้คนหลงทางหรือเดินผิดทาง เพราะเข้าใจว่ามีคนถือคบไฟเดินนำหน้านำทางให้ครั้งพอเข้าไปใกล้ดวงไปนั้นกลับหายไป มองไปมองมาคราวนี้เห็นลอยอยู่ข้างหน้าบ้างข้างหลังบ้าง ถ้าเจอแบบนี้ไม่ต้องลังเล…อนุญาตให้วิ่งได้เลย เพราะแสดงว่าโดนผีโขมดเล่นงานเข้าให้แล้ว

เนื่องจากมีข้อมูลเกี่ยวกับผีโขมดน้อยเต็มที จึงหาหลักฐานยืนยันไม่ได้ว่าผีโขมดชอบกินอะไรเป็นพิเศษ นอกจากในวรรณคดีสุดฮิตเรื่องหนึ่งของไทยคือ สังข์ทอง มีเรื่องราวของผีโขมดแทรกอยู่ คือในตอนที่หกเขยไปหาปลาแข่งกับพระสังข์ตามคำสั่งของท้าวสามน แต่ปรากฏว่าหกเขยหาปลามาได้นิดเดียว แถมถูกพระสังข์ที่แปลงตัวมาเป็นรุกขเทวดาตัดเอาใบหูจนแหว่งวิ้นเพื่อแลกกับปลา บรรดาหกเขยได้แก้ตัวและบอกถึงสาเหตุที่หูแหว่งแก่ท้าวสามนพระพ่อตาว่า “ผีโขมดโกรธกัดเอาใบหู” นี่อาจจะพอสรุปได้ว่าผีโขมดน่าจะเป็นผีที่มีตัวตน ไม่ใช่เป็นเพียงดวงไฟวับๆแวมๆวูบวาบ และอาหารอย่างหนึ่งที่มันชอบกิน คงน่าจะเป็นเนื้อสัตว์พวกหกเขยจึงเอามาเป็นข้ออ้าง ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าท้าวสามนจะเชื่อหรือไม่

หากผีโขมดเป็นเพียงดวงไฟคอยลวงให้คนหลงทางในเวลากลางคืน ใครที่ชอบเที่ยวเป็นเหยี่ยวราตรีและกลับบ้านดึกๆ ก็ระวังเอาไว้หน่อยแล้วกัน ควรหาเพื่อนร่วมทางด้วยจะได้ไม่โดนผีโขมดเล่นงาน และถ้าเกิดผีโขมดชอบกินเนื้อสัตว์หรือ ของสดๆ คาวๆอย่างที่หกเขยเอามาเป็นข้ออ้าง ก็น่าจะระวังตัวกันเอาไว้ เจอใครที่ท่าทางไม่ชอบมาพากลอย่าไปสุงสิงด้วย เพราะอาจเป็นผีโขมดมาดักเล่นงานเอาก็ได้ หรือใครที่หนีเมียไปเที่ยวแล้วเบื่อที่จะแก้ตัวซ้ำซากว่า “ผีโขมดลวงให้หลงทางเลยกลับบ้านดึก” อะไรทำนองนี้…ได้ผลยังไงหรือไม่ก็ทดสอบกันเอาเองล่ะกัน

ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายทอดและรักษาเผ่าพันธุ์ของผีโขมดอีกเช่นกัน แต่ในตำราเกี่ยวกับกำเนิดเทพเจ้าบรรยายไว้ว่า พระราหูนั้นสร้างขึ้นมาจากผีโขมด

ในตำนานการสร้างโลกและกำเนิดเทพเทวดาของอินเดียบอกเอาไว้ว่าเมื่อพระอิศวร ทรงสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาด้วยอำนาจแห่งฤทธิ์ของพระองค์นั้น ได้นำหัวผีโขมดจำนวน 1 โหลหัว หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ 12 หัวน่ะแหละห่อด้วยผ้าดำ (บางตำราว่านำไปบดให้เป็นผงละเอียดแล้วจึงนำมาห่อด้วยผ้า) ต่อจากนั้นได้ปะพร มด้วยน้ำทิพย์พลันหัวผีโขมดสุดหล่อนั้นก็เกิดเป็นพระราหูขึ้นมาได้อย่างน่า อัศจรรย์ กำเนิดพระราหูมีความเป็นมาหลายนัย ในตำนานของพระราหูกล่าวไว้ว่า เทพกึงอสูรตนนี้มีร่างกายท่อนล่างเป็นงูและปลาหางงูยังแยกออกเป็นหัวผีโขมดสองหัวอีกด้วยนะจะบอกให้