ผีกองกอย

กองกอยเป็นผีป่าชนิดหนึ่งซึ่งมีรูปร่างหน้าตาค่อนข้าง แปลกประหลาด ผีชนิดนี้เวลาออกหากินหรือเดินทางไปไหนๆ ชอบร้อง กองกอย กองกอย บอกเผ่าพันธุ์แ ละประเภทของผีตัวเองให้ชาวบ้าน ชาวเมือง เขารู้เสร็จ เพื่อจะได้ไม่เกิดอาการสับสนหรือคาดเดาให้เสียเวลา ว่าไอ้ตัวที่กำลังเขย่งโหยงๆ มานั้นเป็นผีชนิดใดกันแน่นับเป็นยอดผีนักประชาสัมพันธ์ตัวเองขนานเอกเลยทีเดียว

ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผีกองกอยมีความเป็นมาอย่างไร และก็ยังไม่เคยมีใครบ้าเลือดบุกเข้าป่าไปขอสัมภาษณ์หรือซักประวัติอย่างเป็น ผีป่าชนิดหนึ่งชอบอาศัยอยู่ในป่าลึกหรือป่าดงดิบ ซึ่งป่านนี้อาจจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับป่าเมืองไทยแล้วก็ได้

ยังมีท่านผู้รู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้อีกว่ากองกอย น่าจะเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมชอบดูดเลือดผู้อื่น (หมายถึงสัตว์อื่นหรือคนอื่นไม่ชอบดูดเลือดตัวเอง) กินเป็นอาหาร บ้างว่าเป็นพวกเดียวกับผีโป่งค่าง ซึ่งเจ้าผีชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายค่างแต่หางสั้นกว่าอาศัยอยู่ตามต้นไม้ใหญ่แล้วก็ชอบดูดเลือดกินเหมือนๆ กัน (ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ในเรื่อง ฝีโป่งค่าง)

เนื่องจากกองกอยค่อนข้างจะเป็นผีแปลกประหลาด คือ มีเท้าอยู่เท้าเดียวแถมไม่มีสะบ้าหัวเข่า เวลาจะเดินทางไปไหนก็ต้องใช้วิธีเขย่งเกงกอยไป ฉะนั้นจึงพบร อยเท้าของมันเพียงรอยเดียว..ซึ่งก็เป็นของแน่อยู่แล้ว …ขืนพบรอยเท้าทั้งสองข้างหรือสองเท้าแสดงว่าเป็น กองกอยตัวปลอมอย่างไม่ต้องสงสัยเรียกตำรวจจับไ ด้เลยหากขนานแท้และดั่งเดิมต้องมีเท้าเดียวโปรดสังเกตเครื่องหมายการค้าอัน นี้ไว้ให้ดี เพราะยากต่อการทำเทียมและเลียนแบบ (แถมเวลาซื้อรองเท้าน่าจะได้ล ดครึ่งราคาอีกต่างหาก)

เรื่องรูปร่างของผีกองกอยผ่านไปแล้วคราวนี้มาว่าถึงด้านหน้าตาบ้าง ตามตำราบอกว่า ผีกองกอยนั้นหน้าตาเหมือนผีกองกอยยังไงยังงั้นเล ย คือ หัวกลมโตล้านเลี่ยนเตียนโล่งนัยน์ตากลมใหญ่สีแดงเหมือนไฟ ปากเหมือนแตรหรือเหมือนปากแมลงวัน…

ตามตำราว่าอย่างนั้นไม่รู้เหมือนกันว่าแตรกับ ปากแมลงวันมันมาเกี่ยวข้องเป็นคนล่ะเรื่องเดียวกันได้ยังไง (ใครยังไม่หายข้องใจต้องลองไปจับแมลงวันมาพิจารณากันเอาเอง) ปากชนิดนี้มีไว้สำหรับดูดเลือ ดอย่างที่บอกแต่จะเอาไว้ใช้ดูดอย่างอื่นด้วยหรือไม่ก็ยากที่จะสรุปได้ ไว้เจอคุณกองกอยแล้วจะเค้นคอถามมาให้รวมหมดทั้งรูปร่างและหน้าตาแล้ว ผีกองกอยน อกจากจะไม่หล่อแล้วยังค่อนข้างตลกอีกต่างหาก แบบนี้หากใครจับได้ เอามาออกงานวัดคงได้หลายกะตังค์

ผู้สันทัดกรณีซึ่งไม่ประสงค์จะออกนามและไม่ประสงค์จะออกเงินทุกครั้งที่มีกา รเรี่ยไร หรือแจกซองกฐิน,ผ้าป่า บอกว่า…อาหารสุดโปรดของผีกองกอย ก็คือ…เลือด..ใช่แล้วเลือดสดๆ เพิ่งรีดเอ๊ย……ดูดออกจากนิ้วหัวแม่โป้งเท้าใหม่ๆ ร สชาติหอมหวานอย่าบอกใคร แถมอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ใครที่ชอบเข้าไปค้างแรมในป่าทึบ ระวังเอาไว้ให้ดี หากเผลอนอนหลับ

เจ้าผีกองกอยอาจจะเ ขย่งย่องมาดูดเลือดกินจนตัวซีดถึงแก่ความตายได้ เวลาออกหากินมันจะร้อง กองกอย…กองกอย ดังโหยหวลทั่วทั้งป่าฟังแล้วให้รู้สึกวังเวงวิเวกวิโหวเหว มันจะม าแอบซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ บางตำราว่ามันไม่ได้ร้องกองกอย…กองกอย แต่จะร้อง จุ๊…ดังมาแต่ไกล พอเราออกเสียงตะเพิด มันก็จะตกใจกระโจนออกจากพุ่มไม้ที่ซ่อนตัว แล้วก็เขย่งเกงกอยหนีไป

กองกอยคือผีประเภทชอบกินเลือดเป็นอาหาร แบบเดียวกับพวกแวมไพร์ (Vampire) ของฝรั่งซึ่งกล่าวกันว่ามีลักษณะเป็นค้างคาวตัวใหญ่หรืออาจจะเป็นเ ครือญาติกับท่านเค้าน์แดร็กคิวล่า ซึ่งมีเลือดเป็นอาหารจานโปรดเช่นกัน

ผีชนิดนี้จะเขย่งเกงกอยมาแอบกินเลือดในเวลากลางคืนของคนที่ไป เที่ยวค้างคืนในป่าดง ดิบและนอนอย่างไม่ระมัดระวังตัว ยังไม่เคยมีข่าวว่าคุณกองกอยออกจากป่ามาอาละวาดหรือแจกลายเซ็นต์ในเมืองและ ไม่เคยมีรายงานว่ามันเล่นงานพรานป่ าแบบเผชิญหน้าแต่อย่างใด ปกติน่าจะเป็นผีรักสงบไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครนัก ค่อนข้างหาตัวยาก หรืออาจจะสูญพันธุ์ไปพร้อมกับป่าเมืองไทยนานแล้ว

คงไม่ยากเย็นอะไรนัก เพราะหากสวมรองเท้านอนเวลาไปค้างคืนในป่า เจ้าผีกองกอยก็คงไม่กล้าลักลอบ…เอ๊ย..คงไม่กล้าเข้ามานั่งบรรจงแก้เชือก รองเท้าแล้วก็ กัดนิ้วดูดเลือดกินเป็นแน่ และถ้าได้ยินเสียงร้อง กองกอย…กองกอย หรือ จุ๊…ก็ให้ตะเพิดไปอย่างที่บอก

รับรองคุณกองกอยไม่พักตร์ศิลาเหมือนคน…เอ๊ยผีบาง ตัวหรอก..ซิบอกให้ สำหรับการติดตามล่าผผีกองกอย ต้องใช้วิธีตามรอยเท้าที่มันเขย่งเกงกอยหนีไป มีอยู่ขาเดียวแถมไม่มีลูกสะบ้าหัวเข่า คงจะตามจับตัวมาอ อกงานวัดไม่ยากนักหรอก หากไม่พลาดท่าโดนเค้าจับดูดเลือดจนตัวซีดไปเสียก่อน

โดยมากพวกผีดูดเลือดทั่วไป อย่างแวมไพร์ หรือแด็กคิวล่า หากใครโดนดูดเลือ ดก็จะกลายเป็นผีแบบเดียวกัน และต้องหาเลือดกินเป็นการถ่ายทอดเผ่าพันธุ์ต่อๆ กันไปอย่างไม่รู้จบสิ้น แต่สำหรับเจ้าผีกองกอยนี่ไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลว่าต้ องเป็นอย่างนั้น คือใครโดนดูดเลือดก็คงจะแค่แห้งตายไปนะแหละ ไม่มีการกลายเป็นผีกองกอยตัวใหม่ออกอาละวาดแต่อย่างใด

หลังจากที่ สิงหไกรภพ ได้อภิเศกสมรสกับ เจ้าหญิงสร้อยสุดาจนมีพระโอรสองค์ หนึ่งนามว่า เจ้าชายรามวงศ์ ต่อมาพระรามวงศ์ไปได้ เจ้าหญิงเทพกินรี ธิดา ท้าวเทพาอสูรจอมยักษ์เป็นชายาวันหนึ่งรามวงศ์ได้พาชายวาหนียักษ์พ่อตาไปหาสิ งหไกรภพผู้เป็นบิดาของตนที่เมืองโกญจา แต่ระหว่างทางได้แวะพักในป่าแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่อยู่ของปีศาจสาวผู้มีนาม ว่า อองออย

ผีสาวซึ่งมีลำตัวเป็นผู้หญิงหัวเป็ นจระเข้เมื่อได้พบพระรามวงศ์นางปีศาจอองออยก็เกิดมีจิตคิดรักใคร่จึงแปลง ร่างเป็นสาวโสภาโกหกว่าตัวเองคือ เจ้าหญิงศรีฟ้า ราชธิดาแห่งเมืองกุเวรพลัดกับพ วกทหารหลงทางอยู่ในป่าและรู้ทางไปเมืองโกญจาพระรามวงศ์จึงให้ร่วมทางไปด้วย

พอตกกลางคืนนางปีศาจอองออยก็ทำร้ายเจ้าหญิงเทพกินรีจนจมหายไปใน ลำธารเข้าใจว่าคงไม่รอดแน่จึงแกล้งกลับไปปลุกเจ้าชายรามวงศ์ทูลว่าเจ้าหญิงแ ก้วกินรีหนีตามชายชู้ไปแล้วพระรามวงศ์ไม่เชื่อชักพระขรรค์ขู่นางปีศาจให้บอก ความจริง นางอองออยเห็นไม่ได้การรีบคืนร่างเป็นปีศาจเลยถูกเจ้าชายขว้างด้ว ยจักรขาขาดข้างหนึ่งกระโดดเหยงๆ หนีไป

ซึ่งต่อมานางอองออยไปได้คู่ใหม่จนเกิดลูกหลานซึ่งมีตีนข้างเดียว เวลาจะเดินไปไหนก็ต้องใช้วิธีเขย่งเกงกอย ซึ่งเร ารู้จกักันดีในชื่อของ ผีกองกอยอันมีนางปีศาจอองออยเป็นต้นพันธุ์ของผีตระกูลนี้