อดีต รมต.กวี พิชิตพงษ์ และคุณหญิงอำภา พิชิตพงษ์ สองสามีภรรยาที่ีมีชาติตระกูลดี และฐานะทางสังคมสูงส่ง โดดเด่น โด่งดัง มีลูกชายสองคน หลานสาวหนึ่งคน ลูกชายคนโตคือ ภาคย์ พิชิตพงษ์ หายสาบสูญไปตั้งแต่อายุสิบสองปี จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบสิบห้าปีผ่านไปแล้ว ลูกชายคนที่สองคือ ภากร พิชิตพงษ์ ส่วนหลานสาวนั้น เป็นเด็กกำพร้าที่ท่านกวีเก็บมาเลี่้ยงตั้งแต่อายุได้สามขวบ เธอมีชื่อว่า อ้อ หรือ อมาวสี

วันหนึ่ง สองสามีภรรยาปรึกษาหารือกันเรื่องมีคนมาติดต่อขอซื้อ “บ้านแก้ว” สองสามรายด้วยกัน บ้านแก้วนั้นเป็นบ้านเก่าแก่ดั้งเดิมตั้งแต่รุ่นคุณยาย ซึ่งคุณยาย (แม่ของคุณหญิงอำภา) สั่งไว้ก่อนตายว่า ให้เก็บเป็นสมบัติของภาคย์ หากวันใดภาคย์กลับมาจะได้มีที่อยู่อาศัย

วันนี้ท่านกวีจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเพื่อพยุงธุรกิจของตนที่กำลังย่ำแย่ และอีกจำนวนหนึ่งเพื่อชดใช้ให้กับ นายสด เป็นค่าเสียหายที่ นายภากร ไปยุ่งเกี่ยวล่วงเกินกับ สีไพร ลูกสาวคนเดียวของนายสด นายสดนั้นเป็นเพียงแค่ภารโรงและกรรมกรขายแรงงาน หากลูกชายท่านอดีต รมต.กวี จะมีเมียเป็นชนชั้นนี้ ท่านกวียอมไม่ได้ คุณหญิงอำภาไม่เห็นด้วยกับการขายบ้านหลังนี้ เพราะผิดวัตถุประสงค์ของคุณยาย แต่ท่านกวีอ้างว่านายภาคย์หายไปเกือบสิบห้าปีแล้ว เรายังจะเก็บบ้านเก่าแก่ผุพังอย่างนี้ไว้ทำไมคุณหญิงอำภาเถียงสู้ท่านกวีไม่ได้ เรื่องราวจึงลงเอยด้วยการสั่งให้ คุณชอบ ทนายประจำตระกูลเลือกผู้ซื้อที่ให้ราคาดีที่สุด หนึ่งในผู้ติดต่อขอซื้อคือ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ผู้นิยมเลี้ยงหนวดเคราไว้เกือบเต็มหน้า เขามืชื่อว่า ราช รัชภูมิ

อมาวสี ศศิน หรือ อ้อ เธอเป็นหลานสาวบุญธรรมวัยสิบแปดปีของลุงกวี และคุณหญิงป้า พ่อแม่ พี่ ๆ ของอ้อเสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่ออ้ออายุได้เพียงสามขวบ คุณยายของอ้อเป็นน้าของท่านกวี ท่านจึงนำตัวอ้อมาเลี้ยงดู ให้การอุปการะดั่งลูกสาวคนหนึ่ง อ้อสนิทสนมและรักพี่ภาคย์มากกว่าคุณภากร ด้วยเหตุที่คุณภากรเป็นคนเจ้ายศเจ้าอย่าง ชอบพูดจาดูถูกคน มักจะถือว่าตนเป็นลูกรักของพ่อและแม่ ส่วนภาคย์นั้น อยู่ในข่ายที่ทำอะไรก็ผิดไปหมดทุกอย่าง ดูเหมือนจะไม่มีใครรักเขาเลย แถมยังแสดงความรังเกียจใส่เขาด้วยซ้ำ ไม่เว้นแม้แต่คุณหญิงอำภา ผู้เป็นแม่ จะมีก็เพียง ป้าพริ้ง หรือ นมพริ้ง เท่านั้นที่รักและห่วงใยภาคย์มากกว่าใคร ๆ คงเป็นเพราะนมพริ้งนั้นเป็นผู้เลี้ยงดูภาคย์มาตั้งแต่เล็ก ๆ อีกหนึ่งคนที่ห่วงใยภาคย์เสมอก็คือ นายแม่ (คุณยาย) ไม่นานนักหลังจากที่ ภาคย์หนีออกจากบ้าน นายแม่ก็เสียชีวิต คนสุดท้ายที่ห่วงใยและรอคอยการกลับมาของภาคย์อยู่จนทุกวันนี้ก็คือ อ้อ อมาวสี

อ้อปรับทุกข์กับนมพริ้งว่าหากท่านกวีขายบ้านแก้วจริง ดวงวิญญาณของนายแม่ คงจะผิดหวัง และพี่ภาคย์ก็คงจะเสียใจไม่น้อย การที่ อ้อ อมาวสี เฝ้าคิดถึงแต่พี่ภาคย์นั้นจึงทำให้ภากรเกิดอาการหมั่นใส้และหึงหวง เพราะอ้อในวันนี้สวยงามเปล่งปลั่ง น่าพิศมัยยิ่งนัก ภากรจึงปรารถนาจะได้อ้อเป็นของตัวเองให้จงได้

กลุ่มเพื่อนสนิทของอมาวสีประกอบไปด้วย วัชรี รัตนพงศ์, นิลรัตน์ แกมกาญจน์, พึงใจ พิงคะ, ขวัญจิต งามบุญ เพื่อน ๆ เรียกอมาวสีสั้น ๆ ว่า อมา ที่ร้านอาหาร ราช รัชภูมิ เดินเข้ามาในร้านพร้อมด้วยเพื่อนสนิทสองคนคือ การันต์ และ อนุ อนุมีน้องชายชื่อ อานนท์ เป็นแฟนกับขวัญจิต ดังนั้นเมื่อคนทั้งสองกลุ่มเจอะเจอกันในร้านนี้โดยบังเอิญ การทักทายท้าวความกันจึงเกิดขึ้น เพื่อน ๆ ของราชมักเรียกเขาว่า ไอ้ยักษ์ ชื่อนายยักษ์จึงเป็นชื่อที่กลุ่มสาว ๆ แอบนินทาราช รัชภูมิ

วัชรีแอบชอบและหลงนายยักษ์คนนี้ไม่น้อย จนเพื่อน ๆ แซวกันสนุกปาก แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่านายยักษ์คนนี้ลอบมองอมาวสีแทบจะไม่วางตา อนุบอกกับราชว่า อมาวสีคือหลานของเจ้าของบ้านที่ราชกำลังติดต่อขอซื้อ และอมาวสีกำลังเป็นที่หมายปองของนายภากร ลูกชายท่านกวีที่เจ้าชู้มาก ๆ ยิ่งเมียตายไปไม่นานนายภากรยิ่งเที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมา ไล่จีบผู้หญิงไปทั่ว ราชรับฟังด้วยความสงบนิ่ง

เมื่อ ราช รัชภูมิ กลับมาถึงบ้านพักของเขา ไอ้ทิน เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดปี ผู้ดูแลบ้านหลังนี้รีบเข้าไปรายงานตัวทันที ไอ้ทินเป็นบุตรคนเดียวของ นายเทิน ทวนทอง ผู้ช่วยผู้จงรักภักดีของราช รัชภูมิ รายงานที่มีต่อราชก็คือ วันนี้ ชิดชไม ชลากร ครีเอทีฟสาวสวยบริษัทโฆษณา แวะมาหาถึงบ้าน สองปีก่อนหน้านี้ราชและชิดชไมได้พบกันที่เมืองนอก ทั้งสองถูกชะตากัน ชิดชไมทำให้ราชนึกถึงผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่มีความหมายสำหรับเขามาก

เรือนห้องแถวหลังเล็ก ๆ ในย่านจอแจ คือที่พักพิงของสองพ่อลูก นายสด และ สีไพร สีไพรเป็นสาววัยรุ่นแรกแย้มที่ชะตาชีวิตนำพาเธอมาพบกับภากร ใบหน้าที่หล่อเหลา และลีลาเจ้าชู้ของภากรทำให้สีไพรยอมทุ่มเททั้งใจและกายให้เขา แม้ผู้เป็นพ่อจะทัดทานไว้แต่ก็ไม่อาจขวางกั้นความรักและความฝันของสีไพรได้ นายสดเกรงว่าลูกสาวจะช้ำใจและไม่เหลืออะไรในภายหลัง เขาจึงถ่ายคลิปฉากรักเร่าร้อนของภากรและลูกสาว เพื่อใช้ต่อรองในวันที่ภากรจะสลัดรักสีไพร และก็เป็นไปดังคาดท่านกวีบังคับขู่เข็ญให้ภากรตัดขาดจากสีไพร ด้วยเหตุที่ฐานันดรต่างกันโดยสิ้นเชิง นายสดจึงเรียกค่าตอบแทนเป็นเงินหลักล้านเพื่อแลกกับคลิปฉาวอันนั้น ทว่าสีไพรกลับแอบตกลงยินยอมกับภากรเสียเอง
โดยเธอยินดีจะเป็นเมียเก็บลับ ๆ ของเขาที่ไม่ต้องออกหน้าออกตาและไม่มีใครรู้

ภากร พิชิตพงษ์ จัดเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว กดขี่เพศตรงข้าม และคนที่ต่ำชั้นกว่าเสมอ ๆ เขาถือว่าสีไพรคือกำไรชีวิต ส่วนผู้หญิงที่เขาอยากแต่งงานด้วยจริง ๆ ในตอนนี้คือ อมาวสี นอกจากความสวยของอมาวสีแล้ว การต้องการเอาชนะภาคย์ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ยิ่งอมาวสีให้ความสำคัญกับภาคย์มากเท่าไหร่ ภากรก็ปรารถนาจะรวบหัวรวบหางอมาวสี โดยเร็วขึ้นเท่านั้น เหมือนที่ครั้งหนึ่งภากรเคยเอาชนะภาคย์และทำให้ภาคย์ปวดร้าวใจมาแล้ว ด้วยการแย่งตัว ชาลินี มาจากภาคย์ เมื่อภาคย์หนีออกจากบ้านไปไม่นานเท่าไหร่ ภากรก็หลอกลวงทุกคนว่าชาลินีรักเขา และใช้อิทธิพลของท่านกวีผู้เป็นพ่อ บีบบังคับเอา ชาลินีมาแต่งงานด้วยจนได้ กระทั่งชาลินีต้องช้ำใจตาย ส่วนนายภากรกลับกลายเป็นพ่อหม้ายเนื้อหอมที่เพลิดเพลินกับการไล่ล่าพรหมจรรย์สาว ๆ

วาริน รัตนพงศ์ เพื่อนอีกคนหนึ่งของราช รัชภูมิ ทั้งสองเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อยู่เมืองนอก วารินเป็นบุตรชายของ วิรัตน์ รัตนพงศ์ นักธุรกิจการค้าด้านอุปโภคบริโภคชื่อดังของเมืองไทย และเป็นพี่ชายของ วัชรี รัตนพงศ์ เพื่อนรักของอมาวสี วารินเพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น การตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทยของเขายังความปลาบปลื้มให้แก่ผู้เป็นพ่อ จนต้องจัดงานเลี้ยงต้อนรับใหญ่โต

วัชรีและอมาวสีชวนกันไปซื้อเสื้อผ้าข้าวของสำหรับงานเลี้ยงครั้งนี้ ทั้งสองสาวได้เจอกับราชโดยบังเอิญ ซึ่งทำให้วัชรีดีใจมาก เมื่อซื้อของเสร็จเรียบร้อย ราชอาสาขับรถไปส่งสองสาว โดยราชเลือกไปส่งวัชรีก่อน เมื่อราชและอมาวสีอยู่กันตามลำพังในรถ ทั้งสองต่อปากต่อคำกันในเรื่องบ้านแก้ว ราชพูดถึงเรื่องราวในบ้านพิชิตพงษ์ได้อย่างละเอียดจนอมาวสีเริ่มสงสัย เมื่ออมาวสีเล่าเรื่องนี้ให้นมพริ้งฟัง เธอจึงอยากเห็นหน้าของคุณราชเหลือเกิน เพราะนมพริ้งเริ่มสงสัยว่า ราช รัชภูมิ อาจจะเป็นพี่ภาคย์นั่นเอง มิเช่นนั้นจะยอมทุ่มเงินเป็นหลักล้านเพื่อซื้อบ้านเก่าหลังนี้ทำไม แต่อมาวสียังไม่คิดเช่นนั้น เพราะสายตาของราช ที่เธอเห็นช่างเย็นชาต่างจากสายตาของพี่ภาคย์โดยสิ้นเชิง

ราช รัชภูมิ อาสาไปรับอมาวสีที่บ้าน โดยไม่สนใจคำปฏิเสธของเธอ วันนี้เขาโกนหนวดเคราออกจากใบหน้าจนเกลี้ยง เผยให้เห็นความหล่อระดับพระเอกแถวหน้าของช่อง 7 สี แขกเหรื่อในงานต่างเหลียวมองเขากันทุกคน โดยเฉพาะวัชรีเธอตกหลุมรักนายราชมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีเพื่อนเป็นกองเชียร์อย่างออกหน้าออกตา เพื่อน ๆ ช่วยกันผลักดันให้ทั้งสองออกไปเต้นรำคู่กันจนได้ ส่วนวารินเจ้าภาพของงานนี้กลับให้ความสนใจไปที่อมาวสี เขาจ้องมองเธอไม่วางตา นายวารินหลงรักอมาวสีเข้าให้แล้ว แขกในงานต่างเปลี่ยนคู่เต้นรำไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะราชเขาแทบจะได้เต้นรำกับผู้หญิงทุกคนในงานนี้ ยกเว้นเพียง อมาวสีเท่านั้นที่ราชวางท่าเหมือนไม่แคร์ ไม่แยแสความงามของเธอสักนิด กระทั่งก่อนงานเลิก ราชจึงเดินไปขอเต้นรำกับอมาวสีด้วยมารยาท ทำให้อมาวสีไม่อาจปฏิเสธได้ ในระหว่างการเต้นรำ ราชก็ยังอุตส่าห์พูดจากระแนะกระแหน กวนประสาทอมาวสีอย่างสนุกปาก สร้างความหงุดหงิดให้กับอมาวสีจนเธอต้องหนีออกไปจากฟลอร์

ที่บริเวณหน้างานเลี้ยง นายภากร พิชิตพงษ์ ขับรถมาจอดรออมาวสีอยู่นานทีเดียว ก่อนหน้านี้ภากรตั้งใจจะมางานนี้ด้วยแต่อมาวสีไม่ยอม แม้แต่จะขอขับรถมาส่งอมาวสีก็ไม่เปิดโอกาสให้ เมื่อภากรเห็นว่านายราชเป็นคนขับรถมารับอ้อไปจากบ้าน เขาจึงต้องแสดงการเป็นเจ้าของด้วยการขับรถมารับอ้อกลับบ้านโดยไม่บอกไม่กล่าวก่อน อมาวสีจำต้องนั่งรถไปกับภากรเพียงลำพัง ระหว่างทางภากรเลี้ยวรถไปจอดยังที่เปลี่ยว เขาตั้งใจที่จะรวบรัด เอาอมาวสีเป็นของเขาให้ได้ภายในคืนนี้ ในรถของเขาคันนี้น่าเสียดาย ที่เหตุการณ์ยังดำเนินไปไม่สุดซอย ราช รัชภูมิ ก็ปรากฏกายขึ้นราวกับเป็นซูเปอร์ฮีโร่ เพียงแค่เขาเคาะกระจกรถก็ทำให้ภากรไม่อาจดำเนินภารกิจนั้นต่อไปได้ อมาวสีรีบลงจากรถของภากรทันที
ราชให้โอกาสอมาวสีเลือกว่าจะนั่งรถคันไหนกลับบ้าน จะนั่งไปกับเขาหรือจะกลับกับภากร ไม่ต้องตัดสินใจนาน อมาวสีเดินไปขึ้นรถของราชทันที ภากรโกรธจัด เสียหน้าไปไม่น้อย ในระหว่างนั่งรถไปกับราช อมาวสีเลือกที่จะพูดคุยถึงพี่ภาคย์ของเธอ ไม่มีท่าทีพิเศษใด ๆ ปรากฏขึ้นบนสีหน้าและแววตาของราช อมาวสีผิดหวังพอสมควร

ที่ร้านอาหารหรูหราแห่งหนึ่งใจกลางเมือง นพ แกมกาญจน์ พาลูกสาวคือ นิลรัตน์ และพี่สะใภ้คือ มรว.หญิงทิพย์สุดา มาทานอาหาร ช่างบังเอิญที่ราชและชิดชไมมาที่ร้านนี้เช่นเดียวกัน ท่านหญิงตะลึงเมื่อเห็นหน้าราชเพราะใบหน้าของราชช่างเหมือนกับ หม่อมเจ้าคฑาเทพ ทวยไท อาของท่านหญิงยิ่งนัก ท่านอาได้อพยพไปอยู่อเมริกาเกือบสามสิบปีแล้ว และเพิ่งเสียชีวิตได้ปีเศษ ๆ นี้เอง ท่านหญิงขอให้นิลรัตน์สืบข้อมูลคุณราชจากวัชรี

วัชรีซักไซ้วารินพี่ชายจนได้ความว่าราช รัชภูมิ เป็นหลานชายของรักษ์ รัชภูมิ เศรษฐีที่ภูเก็ต (เรื่องเดิมเป็นเศรษฐีเหมืองแร่ แต่ควรเปลี่ยนเป็นธุรกิจท่องเที่ยว) ลุงรักษ์ ส่งราชไปเรียน เรื่องเครื่องยนตร์ที่เมืองฮัมบูร์กประเทศเยอรมัน ซึ่งได้รู้จักและสนิทสนมกับวารินที่นั่นเอง เมื่อวารินเล่าเรื่องท่านชายคฑาเทพให้ราชฟัง ราชแค่สนใจเฉย ๆ ไม่ถึงกับตื่นเต้นมากมายนัก

ในที่สุดราชตกลงซื้อบ้านแก้วในราคามากกว่าสิบล้าน เป็นการซื้อทั้งตัวบ้าน และข้าวของทุกชิ้นในบ้านหลังนี้ โดยนายเทินเป็นผู้ทำสัญญาซื้อขายกับทนายเจ้าของบ้าน ในบ้านแก้วหลังนี้ มีภาพเขียนสีน้ำมันรูปคุณยาย แขวนอยู่กลางโถงบ้าน อมาวสีจำได้ว่าพี่ภาคย์ของเธอรักภาพเขียนนี้มาก เธอตัดสินใจแอบเข้าไปในบ้านแก้วแล้วปลดภาพนี้ออก แต่ไม่ทันการณ์ ราช รัชภูมิ เข้ามาเห็นเสียก่อน อมาวสีสารภาพว่าต้องการเก็บภาพนี้ไว้ให้พี่ภาคย์ เธออ้อนวอนขอจากราช ราชปฏิเสธแต่เปลี่ยนเป็นให้คำสัญญาว่าหากภาคย์กลับมาวันใดเขาจะคืนภาพนี้ให้ทันที อมาวสีดีใจ ทั้งสองสบตากันด้วยความปลาบปลื้ม

เมื่อราชขับรถพาอมาวสีมาส่งที่บ้านพิชิตพงษ์ ภากรแอบเห็นเหตุการณ์โดยตลอดภากรไม่พอใจ จึงตรงเข้าไปบอกท่านกวี ผู้เป็นพ่อว่าเขารักและต้องการแต่งงานกับอมาวสี ทันทีที่เธอเรียนจบ และยังให้คำมั่นสัญญากับผู้เป็นพ่อด้วยว่าหากได้แต่งงานกับอมาวสีจะเลิกทำตัวเหลวแหลก เสเพล โดยเด็ดขาด ท่านกวีได้ฟังอย่างนั้นก็ดีใจ รับปากว่าจะจัดการให้ ภากรขอพ่ออย่าเพิ่งบอกให้อ้อรู้ตอนนี้ ท่านกวีตอบตกลง

วันหนึ่งราชไปหาอมาวสีโดยตั้งใจ เขาบอกเธอว่ามีคนมาขอซื้อบ้านแก้วหลังนี้ ต่อจากเขา ซึ่งเป็นราคาที่เขาจะได้กำไรไม่น้อย ราชให้อมาวสีตัดสินใจว่าควรจะขายหรือไม่อมาวสีนิ่งไปไม่มีคำตอบ ราชจึงรับปากว่าเขาจะไม่ขายบ้านแก้วก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง ซึ่งราชยังไม่บอกเธอในวันนี้ ภากรชวนอมาวสีไปเที่ยวทะเลหลังสอบเสร็จ อมาวสีปฏิเสธ อ้างว่าต้องการหางานทำ ภากรโกรธ พลั้งปากออกไปว่ายังไงอ้อก็ต้องแต่งงานกับเขา จึงไม่จำเป็นต้องหางานทำ อมาวสีตกใจมาก ๆ ที่ได้ยินเช่นนั้น ถึงกับล้มป่วยในเวลาต่อมา

ท่านหญิงทิพย์สุดาเล่าให้คุณนาถ ผู้เป็นสามีฟัง ถึงเรื่องราวครั้งเก่าของท่านอาท่านอาเคยคบหารักใคร่กับ คุณแดง แต่จู่ ๆ คุณแดงก็หันไปเลือกแต่งงานกับคู่หมั้นของเธอ ทั้ง ๆ ที่กำลังอุ้มท้องทารกที่เป็นทายาทของท่านอา ก่อนเสียชีวิตท่านอาสั่งเสียให้ตามหาสายเลือดของท่านคนนี้ให้ได้เพื่อให้มารับมรดกทั้งหมดของท่านอา ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้ท่านหญิงทิพย์สุดาปักใจเชื่อว่า ราช รัชภูมิ น่าจะเป็นทายาทคนที่เธอกำลังตามหา

จอน ทองอร่าม ปรากฏตัวขึ้นกลางบ้านของราช มันเป็นหลานชายของ จำปี เมียผู้เสียชียชีวิตไปแล้วของลุงรักษ์ นายจอนตั้งใจมาไถเงินราชอย่างก้าวร้าวและกำแหง ราชไม่ให้ เพราะรู้ดีว่านายจอนนั้นยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวผิดกฏหมายทั้งการพนันและยาเสพติดนายจอนโกรธจัด ด่าทอราชว่าเป็นแค่เด็กที่ลุงรักษ์เก็บมาเลี้ยง อย่ามาทำโอหัง อวดดี ราช โต้ตอบด้วยกำปั้นแทนคำพูด นายจอนกลับออกไปพร้อมกับรอยฟกช้ำ

หลังสอบเสร็จ อมาวสีตกอยู่ในความโศกเศร้ามากยิ่งขึ้น เพราะเธอรู้ว่าจะต้องแต่งงานกับภากร โดยการสั่งการจากท่านกวีผู้มีบุญคุณกับเธอ อมาวสีไม่กล้าเอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับใคร แต่กระนั้นข่าวนี้ก็รู้ถึงหูราชจนได้ ราชเกิดความรู้สึกหึงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขาตอบตัวเองในใจว่าความอาฆาตแค้นครั้งเก่าที่มีต่อตระกูลพิชิตพงษ์ต่างหากที่เป็นตัวกำหนดอารมณ์ ความสมหวัง ความผิดหวัง หรือแม้แต่การหึงหวงที่เกิดขึ้นในใจเขา มันมิใช่ความรัก แน่ ๆ ราช รัชภูมิ รู้ว่าวารินจะไปเที่ยวพัทยากับวัชรีและเพื่อน ๆ ซึ่งมีอมาวสีอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย ราชชวนอนุและการันต์ตามไปพัทยาด้วย การันต์ตามจีบพึงใจ อนุตามจีบนิลรัตน์ ส่วนวารินนั้น ใคร ๆ ก็เห็นว่าเขาจีบอมาวสีอยู่ เช่นเดียวกับที่เพื่อน ๆ รู้ว่าราชเป็นที่จับจองของวัชรี ราชหาจังหวะคุยกับอมาวสีในประเด็นเรื่องของความรักและการแต่งงาน ท่าทีของอมาวสีบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ได้รักภากร งั้นคงจะเป็นวารินล่ะซีที่เธอรัก ราชยั่วยวนต่อไป อมาวสี เผยความในใจว่าพี่ภาคย์คือคนเดียวเท่านั้นที่เธอคิดถึงเสมอมา ไม่เคยเปลี่ยน ทั้งสองสบตากันตรง ๆ เต็ม ๆ ตา ไม่มีความรู้สึกพิเศษใด ๆ เกิดขึ้นในสีหน้าและแววตาของราช ราช อาสาช่วยแก้ปัญหานี้ให้โดยให้เธอนึกว่าเขาคือพี่ภาคย์คนนั้น

คืนหนึ่ง ท่านกวีทะเลาะกับคุณหญิงอำภา เนื่องจากท่านหญิงทิพย์สุดามองกวีด้วยสายตาเยาะเย้ย คงเป็นเรื่องที่เขาต้องทนนั่งเลี้ยงลูกที่ไม่ใช่สายเลือดของเขา แต่เป็นทวยไทไม่ใช่พิชิตพงษ์ ทั้งคู่มีปากเสียงกันเลยเถิดไปถึงการขุดเรื่องเก่ามาตะคอกใส่หน้ากัน นั่นคือความจริงที่ไอ้ภาคย์คือลูกชายของท่านคฑาเทพ คนรักเก่าของคุณหญิงอำภา และนับวันเมื่อมันโตขึ้น หน้ามันก็เหมือนพ่อมันมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นจึงเป็นเหตุให้ท่านกวีจงเกลียดจงชังภาคย์ยิ่งนัก คุณหญิงอำภาร้องไห้คร่ำครวญ เพราะท่านกวีผิดสัญญาที่เคยบอกว่าจะไม่พูดเรื่องนี้อีกเลย อมาวสีได้ยินทั้งหมดของการทะเลาะเบาะแว้ง เธอจึงมั่นใจว่า ราชจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ภาคย์ของเธอ ภากรตัดสินใจบอกสีไพรเรื่องการแต่งงานของเธอกับอมาวสี สีไพรยินดีที่จะเป็นเมียเก็บเงียบ ๆ ของภากรตลอดไป เธอเลือกที่จะไม่บอกภากรว่าเธอกำลังตั้งท้อง

ภากรยังคงตัดไม่ขาดจากการดื่มเหล้า แม้เขาจะมีความสุขกายสบายใจ เขาก็อดไม่ได้ที่จะต้องฉลองความสุขของตัวเอง และครั้งนี้เขาได้พบกับนายจอน ทองอร่าม นายจอนเห็นช่องทางที่จะกอบโกยผลประโยชน์จากภากร มันส่ง สายบัว เมียสาวสุดเซ็กซี่ของมันเข้าไปยั่วยวนภากร โดยแนะนำตัวว่าชื่อ จูดี้ เป็นน้องสาวของพี่จอน ภากรหลงเสน่ห์ของจูดี้ เขาอยากได้เธอทันทีที่เห็น จูดี้ดึงภากรให้เข้าสู่บ่อนการพนันของจอน จากนั้น เซียนพนันทุกคนในบ่อนนี้ก็รุมหัวกันโกงกินเงินของภากรจนหมดเกลี้ยง แต่ภากรไม่ยี่หระเขายินดีจะกลับมาที่นี่อีกบ่อย ๆ หากมีจูดี้คอยปรนนิบัติเขาอย่างนี้ จะเสียเงินอีกเท่าไหร่ก็ไม่มีปัญหา

ท่านกวีและคุณหญิงอำภาเห็นท่าทีของภากรที่กลับไปดื่มเหล้าเมามาย ทำตัวเหลวใหลเหมือนเดิมอีก ทั้งคู่เข้าใจเอาว่าคงมีปัญหาทะเลาะกับอมาวสี ท่านกวีจึงขอให้อมาวสี พูดจาดี ๆ เอาอกเอาใจภากรมากขึ้นกว่าเดิม อมาวสีจำใจต้องทำตามนั้น ภากรจึงมีท่าทีที่ดีขึ้นโดยเอาตัวห่างออกจากบ่อนและอ้างกับจูดี้ว่า เขาถูกบังคับให้แต่งงาน วัชรีทำตัวเป็นแม่สื่อ นัดให้วารินได้พบกับอมาวสี ทุกครั้งที่มีการนัดหมาย ราชมักจะโผล่ไปด้วยเสมอ วัชรีจึงได้ใช้โอกาสนี้ในการใกล้ชิดกับราชด้วยเช่นกัน อมาวสีหาโอกาสพูดกับราชว่า เธอรู้ว่าราชคือภาคย์ แต่ราชปฏิเสธทุกครั้งไป ทำให้อมาวสีน้อยใจและเสียใจมาก นิลรัตน์เล่าให้ อมาวสีฟังว่าเห็นราชไปกินข้าวตามลำพังสองคนกับชิดชไม อมาวสีตัดสินใจประชดด้วยการ ตอบรับแต่งงานกับภากร เมื่อราชรู้ข่าวการแต่งงานในอีกสองเดือนข้างหน้า เขารีบนัดพบอมาวสี ราชทวงสัญญาจากอมาวสีที่จะแลกเปลี่ยนกับการไม่ขายบ้านแก้วให้กับคนอื่นต่อ ราชขอให้อมาวสีบอกทุกคนว่าเธอรักราช เพื่อจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับภากร แต่ในเวลานี้ อมาวสีไม่สนใจเรื่องบ้านแก้วอีกแล้ว เธอมั่นใจว่าราชคือภาคย์และเมื่อเขาไม่ยอมรับว่าเป็นภาคย์ อมาวสีจึงไม่สนใจที่จะรับความช่วยเหลือของเขาแต่อย่างใด ราชกลับภูเก็ตด้วยความผิดหวัง เขาเริ่มลังเลว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกับอมาวสีกันแน่ แต่แล้วเขาก็ตอบตัวเองอีกครั้งว่านี่คือการแก้แค้น เขาต้องการเพียงแค่ทำให้ภากรเจ็บปวดที่ต้องเสียของรัก เหมือนที่เขาโดนกระทำในวัยเด็ก

เมื่อได้พบกับลุงรักษ์ ราชจึงรู้ว่าหลวงเจนอรรถการ เพื่อนของลุงรักษ์ได้เห็นภาพถ่ายของราช ทำให้เขานึกถึงท่านชายคฑาเทพ เพราะว่าหน้าตาเหมือนกันมาก พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวอมตะรักของท่านชายให้ฟังว่าคนรักของท่านจำต้องแต่งงานกับคู่หมั้นที่ผู้ใหญ่จัดไว้ให้ ทำให้ท่านเสียใจ ต้องหนีหน้าไปอาศัยอยู่ต่างประเทศ เป็นอีกครั้งที่ราชได้ยินเรื่องราวเหล่านี้ ท่านกวีเร่งพิธีแต่งงานของภากรและอมาวสีให้เร็วยิ่งขึ้น ราชกลับมาจากภูเก็ต พยายามติดต่ออมาวสี แต่เป็นไปโดยลำบาก เมื่อเขาโทรศัพท์ไปที่บ้านพิชิตพงษ์กลับกลายเป็นภากรที่เป็นผู้รับสาย ราชพูดจายั่วยุภากร และบอกว่าอมาวสีคือเมียที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฏหมายของเขา

ภากรโกรธจัดเขาดักรออมาวสีและตรงเข้าปลุกปล้ำเธอ ดีแต่ว่าคุณหญิงอำภาเข้ามาขวางไว้ได้ทัน อมาวสีลองพูดกับคุณหญิงอำภาว่าราชนั้นมีหน้าตาคล้ายท่านชายคฑาเทพ คุณหญิงอำภาถึงกับตกตะลึง คุณหญิงอำภาได้พูดกับราชทางโทรศัพท์ เธอจำเสียงได้ทันทีว่านี่คือภาคย์ลูกชายที่หนีหายไป แต่ราชยังคงปฏิเสธโดยสิ้นเชิง แม้จะมีอาการอึ้งไปไม่แพ้กัน คุณหญิงอำภาตัดสินใจไปพบราชที่บ้านของเขา เธอมั่นใจว่าราชคือลูกชายของเธอ แต่ราชกลับทำเย็นชาใส่คุณหญิง หลังจากวันนั้นคุณหญิงอำภาก็ล้มป่วยลง แพทย์ประจำตัวบอกว่าโรคหัวใจของคุณหญิงกำเริบหนักขึ้น อมาวสีดั้นด้นไปพบราชอีกครั้ง เพื่อขอร้องให้ราชยอมรับว่าตนคือภาคย์ ราชปฏิเสธและมีท่าทีเฉยเมย เขาเฝ้าพูดกับหัวใจตัวเองว่าทั้งหมดนี้คือแผนการณ์ที่ตั้งใจ เพื่อให้คนที่เคยทำให้เขาเจ็บช้ำต้องรู้จักความเจ็บช้ำบ้าง อมาวสีผิดหวังในตัวราช เธอประกาศว่าทางเดียวที่จะทำให้คุณหญิงสบายใจขึ้นได้คือรีบแต่งงานกับภากร ราชดึงอมาวสีเข้ามาจูบทันที อมาวสีตบหน้าราชเป็นการตอบแทน

ภากรพาอมาวสีไปลองชุดแต่งงาน ทั้งสองได้เจอกับราชที่เดินควงมากับชิดชไม อมาวสี แกล้งทำหวานซึ้งกับภากร ราชก็กระทำเช่นเดียวกันกับชิดชไม วารินนั้นแทบจะถอดใจเรื่องอมาวสี ส่วนสายบัวหงุดหงิดที่ภากรจะแต่งงานเพราะเธอเริ่มรักภากรจริง ๆ จัง ๆ สีไพรก็ยังคงยอมทนกับสถานะเมียเก็บของเธอ ในวันต่อมานายเทินโกหกว่าราชถูกรถชนอาการบาดเจ็บสาหัส อมาวสีรีบเดินทางไปเยี่ยมราช หลังจากวันนั้นอมาวสีก็หายตัวไปอย่างลึกลับ งานแต่งงานจึงถูกเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด อมาวสีถูกลักพาตัวมาไว้ที่บ้านกลางไร่อ้อย โดยมีป้าแปลก แม่บ้านเป็นใบ้ และบัวเขียว สาวใช้ เป็นคนคอยดูแล นายมั่น คนงานหน้าเหี้ยมทำหน้าที่เฝ้าและคุมหน้าห้อง ทุกคนที่นั่นเรียกอมาวสีว่าคุณนาย
เพราะราชบอกทุกคนว่าอมาวสีเป็นภรรยาของเขา อมาวสีพบราชครั้งแรกที่โต๊ะอาหารเวลาค่ำ เธอไม่ยอมเปลี่ยนชุดที่เขาเตรียมไว้ให้ ทั้งคู่ยังคงปั้นปึ่งและพูดจาประชดประชันกัน

ภากรหงุดหงิดที่ตามหาอมาวสีไม่เจอ แต่จู่ ๆ ก็มีของขวัญส่งมาจากราช รัชภูมิ เหมือนเป็นการเยาะเย้ยกัน ภากรตัดสินใจไปหาสีไพรด้วยสภาพเมามาย ในคืนที่ควรจะเป็นพิธีแต่งงานของเขา วัชรีสงสัยว่าอมาวสีหายไปไหน แต่ก็ไม่อาจสืบทราบได้ ราชมีความสุขกับการหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้อมาวสี ในใจอีกด้านหนึ่งของเขาพยายามเตือนตัวเองว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่การเดินหมาก เพื่อแก้แค้นเอาคืนกับคนเหล่านี้เท่านั้น เขาบังคับตัวเองให้ไปหาชิดชไมเพื่อจะลืมอมาวสีให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จผลดังเช่นนั้น เขาบอกชิดชไม ว่าต้องไปทำงานที่ตราด คงไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกันนัก ชิดชไมมีอาการผิดหวังให้เห็น เมื่อราชบอกว่าเธอเป็นเพื่อนรัก ไม่ใช่คนรัก

ในบาร์แห่งหนึ่ง ราชแวะไปหาเพื่อนสนิทคืออนุกับการันต์ พวกเขาได้เห็นภากรคลุกคลีอยู่กับนายจอน ราชคาดเดาได้ว่านายจอนต้องหลอกเอาเงินภากรจนหมดเนื้อหมดตัวแน่ ๆ เป็นจริงอย่างที่ราชคิด ภากรเป็นหนี้ในบ่อนร่วมล้านบาท ด้วยการล่อลวงของสายบัว และบรรดานักพนันหน้าม้า ที่รวมตัวกันอยู่ในบ่อน สายบัวแอบสงสารแต่ยังหาวิธีช่วยไม่ได้

อมาวสีเดียวดายอยู่ในบ้านกลางไร่ เธออดไม่ได้ที่จะคิดถึงราช แต่เมื่อราชกลับมา เธอกลับทำปั้นปึ่งใส่ และเป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป เยี่ยงพระเอก นางเอกพึงกระทำ ในละครทีวีของประเทศไทย ราชได้รับโน้ตจากลุงรักษ์ ใจความว่าให้กลับมาดูแลธุรกิจที่ภูเก็ตได้แล้ว และลุงรักษ์ได้มองหาเจ้าสาวให้ราชแล้วด้วยเธอคือ อรัญญา คนสวย

คืนหนึ่ง ฝนตกหนักที่บ้านกลางไร่ เกิดเรื่องวุ่นวายด้วยเถ้าแก่เส็ง ยกพวกหมายบุกปล้นทำลายไร่ผืนนี้ที่ราชเป็นเจ้าของร่วมกับ พินัย เพื่อนเก่า อมาวสีต้องอยู่เพียงลำพังกับบัวเขียวท่ามกลางความมืดมิด เพราะต้องอำพรางแสงสว่างไว้ สายฝนที่โหมกระหน่ำ ฟ้าแล่บ ฟ้าร้องคำรามลั่นทำให้อมาวสีหวาดกลัว และหวนคิดถึงวัยเด็ก พี่ภาคย์จะเข้ามากอดปลอบประโลมเธอทุกครั้ง และแล้วราชก็กลับมาพร้อมกับการคลี่คลายปัญหาเรื่องหมู่โจรบุกรุกที่จนหมดสิ้น เขากอดปลอบประโลมอมาวสีเหมือนที่เคยทำเมื่อครั้งวัยเด็ก ราชยอมรับกับตัวเองว่าเขารักอมาวสี

เมื่อฝนซา ฟ้าเริ่มสาง อมาวสีได้เหลือบไปเห็นโน้ตจากลุงรักษ์ที่จะให้ราชแต่งงานกับ อรัญญา อนิจจา อมาวสีน้อยใจเข้าให้อีกแล้ว ท่าทีของเธอจึงกลับไปเย็นชา ปั้นปึ่งกับราชอีกครั้งหนึ่ง ท่านกวียังคงมีปัญหาเรื่องหนี้สินจากการลงทุนในธุรกิจของเขา จู่ ๆ ท่านก็ได้ทราบว่าภากรแอบขายตึกที่ีถนนตกไปแล้ว เมื่อไม่มีเงินพอชำระหนี้สินท่านจึงตัดสินใจจำนองบ้านพิชิตพงษ์ วิกฤตของครอบครัวในครั้งนี้ท่านกวียังคงเห็นว่าต้นตอตัวการก็มาจาก อมาวสีนั่นแหละ ท่านหญิงทิพย์สุดารู้เรื่องนี้เข้าจึงเป็นผู้รับจำนองบ้านซะเอง การทำสัญญาครั้งนี้ท่านหญิงให้ใส่ชื่อน้องสามีแทนชื่อของเธอ เพื่อไม่ให้ท่านกวีรู้ เพราะอาจจะมีอารมณ์โกรธจนไม่ยอมเซ็นสัญญาให้ ภากรยังคงมีความคั่งแค้น และปักใจเชื่อว่าการที่อมาวสีหายไปต้องเป็นฝีมือของราชแน่ ๆ ภากรว่าจ้างนายจอนให้ฆ่าราช นายจอนตอบตกลงเพราะเกลียดไอ้ราชเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มันเริ่มส่งลูกน้องติดตามหาตัวราช รัชภูมิ

ราชบอกลุงรักษ์ว่าขอปฏิเสธที่จะแต่งงานกับอรัญญา ลุงรักษ์มอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาให้เป็นของราช ในวันที่สิ้นลุง ราชจะต้องสืบทอดตระกูลรัชภูมิสืบไป ราชตัดสินใจจะพาอมาวสีกลับบ้าน และเพื่อไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติ เขาตั้งใจจะพาอมาวสีไปแต่งงานที่ภูเก็ต อมาวสีเข้าใจว่าราชทำไปเพื่อแสดงความรับผิดชอบเท่านั้น ไม่ใช่เพราะความรัก เธอจึงปฏิเสธราช ราชเข้าใจว่าอมาวสีคงจะรักวาริน เอาเข้าไป เรื่องราวจึงไม่ลงเอยซักที

นายจอนได้ข่าวว่าราชพาอมาวสีไปไว้ที่ไร่พนัสพงษ์ จึงวางแผนไปลักพาตัวอมาวสี ก่อนที่ราชจะพาเธอกลับกรุงเทพฯ นายจอนเปลี่ยนใจไม่ส่งตัวอมาวสีคืนให้ภากรเพราะเมื่อเห็นความสวยของอมาวสี มันก็นึกอยากได้ไว้เป็นเมียเสียเอง อมาวสีแกล้งบอกสายบัวว่า เธอรักราชและกำลังท้องกับราช สายบัวนึกสงสารจึงพยายามหาทางช่วยอมาวสี

ภากรเหมือนคนไร้อนาคต เขามาปรับทุกข์กับสีไพร และจึงได้รู้ว่าสีไพรกำลังตั้งท้องลูกของเขา พลันภากรได้สติคิด เขากลับเนื้อกลับตัวนับตั้งแต่นาทีนั้น เพื่อลูกของเขา และเมียที่แสนดีที่ชื่อสีไพร ยังความปลาบปลื้มใจให้กับสีไพรและนายสดผู้เป็นพ่อยิ่งนัก ภากรกลับไปสารภาพผิดกับพ่อและแม่ในทุก ๆ เรื่อง เขาบอกว่าอยากเจอภาคย์อยากขอโทษที่ได้ทำเรื่องไม่ดีกับภาคย์ไว้มากมาย ท่านกวีตัดสินใจเปลี่ยนจากจำนองเป็นขายขาด บ้านพิชิตพงษ์ คุณนพตกลงและยอมให้ท่านกวีและคุณหญิงอยู่ต่ออีกหนึ่งปีในระหว่างหาบ้านหลังใหม่

ท่านหญิงทิพย์สุดานัดพบราชท่านหญิง เล่าเรื่องท่านอาคฑาเทพให้ฟัง และย้ำกับราชว่า ท่านอารักลูกมาก และตั้งใจมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดของท่านให้ รวมทั้งบ้านพิชิตพงษ์ด้วยเช่นกัน ราชปฏิเสธเช่นเคย นายจอนรู้ข่าวว่าลุงรักษ์ยกมรดกให้ราชทั้งหมด จึงโกรธ มันรีบลงใต้ตรงไปหาลุงรักษ์ที่ภูเก็ต ทั้งสองทะเลาะกันหนักหน่วง นายจอนไม่พอใจที่ลุงเห็นหลานนอกคอกดีกว่าหลานแท้ ๆ อย่างมัน ส่วนลุงรักษ์ก็ตำหนินายจอนที่ทำตัวเลว ไม่สมกับเป็นคนในตระกูลรัชภูมิ นายจอนจึงบันดาลโทสะชักปืนยิงลุงรักษ์จนตาย

ทางด้านสายบัวฉวยโอกาสที่นายจอนไม่อยู่ปล่อยตัวอมาวสีให้เป็นอิสระ เมื่อ อมาวสีกลับคืนสู่พิชิตพงษ์ด้วยความปลอดภัย ท่านกวีจึงรีบเตรียมจัดงานแต่งงานอย่างเร่งด่วน ทว่าภากรสารภาพความในใจของเขาว่า เขาไม่อาจแต่งงานกับใครได้เพราะคนที่เขารักคือ สีไพร และตอนนี้สีไพรก็กำลังจะให้กำเนิดทายาทของพิชิตพงษ์ในไม่กี่วันข้างหน้านี้ ท่านกวีอึ้ง ต้องใช้เวลาทำใจอีกสักพักใหญ่ ๆ ถึงจะยอมรับได้ ภากรกับอมาวสีปรับความเข้าใจกันเป็นพี่น้องที่รักกันในที่สุด ส่วนราชนั้นหันไปควงชิดชไมสลับกับการเอาอกเอาใจวัชรี ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการประชดอมาวสี อาการของคุณหญิงอำภายังคงไม่ดีขึ้น แพทย์ลงความเห็นว่าเธอขาดกำลังใจ อมาวสีจำต้องบากหน้าไปอ้อนวอนราชอีกครั้ง โดยขอให้มาเยี่ยมคุณหญิงและยอมรับว่าราชคือ ภาคย์ ราชยังคงใจแข็งยิ่งกว่าภูผา อมาวสีผิดหวังอย่างแรง เธอพูดจาดูถูกราชชนิดไม่ไว้หน้า ราชเองก็เสียใจไม่น้อยที่เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ทุกคนมีความเห็นใจให้กับคนอื่น ให้ใคร ๆ ได้หลาย ๆ คน แต่ทำไมไม่มีใครให้ความเห็นใจเขาบ้างเลย ในวันที่เขาถูกกระทำ ไม่มีใครโผล่หน้าออกมาปกป้องเขาแม้แต่นิดเดียว ที่เป็นอย่างนี้มันก็สาสมดีแล้วไม่ใช่เหรอ…

ทันใดนั้นเอง นมพริ้งก็ปรากฏตัวขึ้น ทันทีที่เห็นนมพริ้งราชโผเข้าไปกอดและร้องไห้โฮใหญ่กับตักและไหล่ของนมพริ้ง เป็นครั้งแรกที่ราชยอมรับว่าเขาคือ ภาคย์ เขารับปากว่าจะไปเยี่ยมไปกราบแม่ โดยขอเลือกไปในวันที่ท่านกวีไม่อยู่ ไม่ทันต้องรอให้ถึงวันนั้น คุณหญิงอำภาเดินทางมาหาราชที่บ้านของเขาในไม่กี่วันหลังจากนั้น สองแม่ลูกทำความเข้าใจกันได้ในที่สุด คนงานทางใต้ส่งข่าวให้ราชรู้ว่านายจอนยิงลุงรักษ์จนถึงตาย ราชรีบเดินทางลงใต้ แต่อมาวสีกลับคิดว่าราชจะไปแต่งงานกับอรัญญา

นายจอนหลบหนีเข้ามาซุกตัวในกรุงเทพฯ มันรู้ข่าวงานเลี้ยงบ้านวารินจะมีไอ้ราชไปร่วมงานด้วย นายจอนวางแผนบุกเข้าไปยิงไอ้ราชให้ได้ในงานนี้ ที่งานเลี้ยงวันเกิดวาริน ราชและอมาวสียังเข้าใจผิดกันไม่เลิก ราชคิดว่าอมาวสีคงจะลงเอยกับวาริน อมาวสีเชื่อว่าราชมีทางเลือกมากมาย ทั้งอรัญญา สาวงามที่ภูเก็ต หรือไม่ก็ชิดชไม ครีเอทีฟสาวเปรี้ยว เซ็กซี่ แถมยังมีวัชรีที่แจ่มใสร่าเริงอีกคน

แต่แล้วในที่สุด เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ตรงมุมที่เหมาะเหม็ง ราชก็ปรับความเข้าใจกับอมาวสี ยังไม่ทันที่จะเข้าใจกันดี นายจอ ก็ยื่นปืนออกมายิงใส่ราช ทว่าอมาวสีเห็นซะก่อน เธอทะยานออกไปใช้ร่างบังกระสุน ก่อนที่จะถึงตัวราช วารินไล่ตามจับนายจอนจนได้ ส่วนราชรีบพาอมาวสีไปโรงพยาบาล ทุกคนเข้าใจกันด้วยดี ในท้ายที่สุดราชบอกรักและขออมาวสีแต่งงาน ทั้งสองอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ติดตามชม ละครหัวใจเถื่อน ได้ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี ละครหัวใจเถื่อน เริ่มตอนแรกวันพุธที่ 25 มิถุนายน 2557

รายชื่อนักแสดงนำ ใน ละคร หัวใจเถื่อน

อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท ราช รัชภูมิ/ภาคย์ พิชิตพงศ์
อุษามณี ไวทยานนท์ รับบท อมาวสี ศศิน
พิชยดนย์ พึ่งพันธ์ รับบท ภากร พิชิตพงศ์
พิมพรรณ ชลายนคุปต์ รับบท คุณหญิงอำภา พิชิตพงศ์
สุรวุฑ ไหมกัน รับบท รตม.กวี พิชิตพงศ์
วาสนา สิทธิเวช รับบท ป้าพริ้ง
ศรัญญ่า ชุณหศาสตร์ รับบท วัชรี รัตนพงษ์
ชวัลนันท์ จันทร์ทรัพย์ รับบท วาริน รัตนพงษ์
อรุชา โตสวสัสด์ รับบท จอน ทองอร่าม
กัญญกร พินิจ รับบท สายบัว/จูดี้
นิชานันท์ ฝั้นแก้ว รับบท ชิดชไม ชลากร
จุฑามาศ มันตะลัมพะ รับบท สีไพร
ภานรินทร์ ชุ่มมะโน รับบท นิลรัตน์ แกมกาญจน์
กชกร ส่งแสงเติม รับบท พึงใจ พิงคะ
พิพัฒน์พล โกมารทัต รับบท รักษ์ รัชภูมิ
สิทธิพันธ์ กลมเกลี้ยง รับบท อนุ
พศิน ศรีธรรม รับบท การันต์
ฐรินดา กรรณสูต รับบท ม.ร.ว.หญิงทิพย์สุดา แกมกาญจน์
วีระชัย หัตทโกวิท รับบท เทิน ทวนทอง
นึกคิด บุญทอง รับบท สุด
มรกต โกมลบุตร รับบท ทนายชอบ
วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคราม รับบท ท่านยายของภาคย์

บทประพันธ์โดย : บุษยมาส
บทโทรทัศน์โดย : ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
กำกับการแสดงโดย : ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
ผลิตโดย : บริษัท สามัญการละคร จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : ศรัณยู วงศ์กระจ่าง
ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 สี