เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ

หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการเปิดตัวยนตรกรรมสกายแอคทีฟ เทคโนโลยีส่าสุดของมาสด้าที่มาแบบเต็มคัน พิสูจน์เสียงตอบรับด้วยยอดขายที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการรถยนต์เมืองไทย ทั้งทางด้านการเพิ่มยอดจำหน่ายและการขยายส่วนแบ่งตลาด โดยเฉพาะสกายแอคทีฟ SUV มาสด้า CX-5 ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว จากนั้นเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สกายแอคทีฟสปอร์ตคอมแพ็ค มาสด้า3 ใหม่ ก็ตามเข้าสู่ตลาด เพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าชาวไทยทั้งกลุ่มรถเอนกประสงค์และรถยนต์นั่งขนาดกลาง จนถึงปัจจุบันยนตรกรรมสกายแอคทีฟทั้งสองรุ่น กลายเป็นรถธงที่สร้างยอดจำหน่ายให้มาสด้าเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันนี้ยนตรกรรมสกายแอคมีฟทั้งสองรุ่นมียอดจำหน่ายไปแล้วเกือบ10,000 คัน และยังมียอดสั่งจองรถทั่วประเทศอีกกว่า 4,000 คัน ผลจากยอดขายที่เติบโตคือ ส่วนแบ่งตลาดที่แบรนด์มาสด้ามีในทั้งสองตลาดเติบโตขึ้นมาเป็นเลขสองหลัก

แน่นอนว่าที่มาของความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ใช้วิสัยทัศน์และมีการวางกลยุทธ์ที่ดีมาก่อน เทคโนโลยีสกายแอคทีฟมีที่มาจากการศึกษา “ความต้องการหลักที่แท้จริง” ของผู้ใช้รถทั่วโลก และมาสด้าค้นพบว่าความต้องการหลักที่แท้จริงนั้นยังไม่เคยได้รับการตอบสนอง ที่ผ่านมาผู้ใช้รถล้วนเลือกได้เพียงความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยยอมแลกกับการไม่ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง หมายความว่าหากต้องการได้ความแรงของรถ จำเป็นต้องยอมแลกกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน หากต้องการรถที่ประหยัดน้ำมันก็ต้องยอมแลกกับอรรถรสของการขับขี่นั่นเอง จากนั้นผนวกกับกลยุทธ์ทางการตลาดอันแหลมคมทำให้เกิดการรับรู้เทคโนโลยีใหม่ที่ลูกค้าในประเทศไม่เคยมีความรู้มาก่อน การเลือกเวลาลงตลาดที่เหมาะสม กลยุทธ์การวางตำแหน่งสินค้า การจัดวางผลิตภัณฑ์ และการกำหนดราคาที่ชาญฉลาด ล้วนเป็นปัจจัยส่งผลให้ยนตรกรรมสกายแอคทีฟของมาสด้าทั้งสองรุ่นกลายเป็นรถยนต์เปี่ยมคุณค่าที่ลูกค้าต้องการครอบครองมากที่สุด

ถึงกระนั้นการโปรโมทและต่อยอดเทคโนโลยีสกายแอคทีฟของมาสด้ายังคงถูกทำอย่างต่อเนื่อง และเพื่อเป็นฐานให้แก่ยนตรกรรมสกายแอคทีฟรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังจะมาในอนาคต สิ่งที่มาสด้าทำเชิงรุกตลอดมาอย่างต่อเนื่องก็คือกิจกรรมกับสื่อมวลชน เพื่อส่งผ่านเรื่องราวที่มีประโยชน์และมีคุณค่าให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย กิจกรรมล่าสุดที่เพิ่งจบลงคือการนำสื่อมวลชนกว่า 40 ชีวิต ไปร่วมพิสูจน์ความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นชัดเจนในเรื่องของ “เทคโนโลยีที่ทั้งแรงทั้งประหยัด” ว่าแรงเพียงใด? และประหยัดน้ำมันแค่ไหน? บนเส้นทางจากกรุงเทพสู่เข้าค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ กับด้วยขบวนยนตรกรรมสกายแอคทีฟ 15 คัน ในรุ่น SUV มาสด้า CX-5 จำนวน 8 คัน และรุ่น Sports Compact Mazda3 จำนวน 7 คัน เดินทางขึ้นเหนือด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซลสะอาด และสกายแอคทีฟเบนซิน โดยกำหนดจุดออกเดินทางที่โชว์รูมมาสด้ากลางใจเมือง มาสด้า เวิร์นส์ สาขาวิภาวดีรังสิต

ทุกคันออกเดินทางด้วยความพร้อมในการแข่งขัน ช่วงแรกจากกรุงเทพสู่อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เป็นการปล่อยวิ่งแบบฟรีย์รัน Free Fun เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนทำความคุ้นเคยกับรถก่อนแข่งขัน จากนั้นเริ่มการแข่งขันประเภทแรก คือ การวิ่งทดสอบวัดประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน ตามด้วยการแข่งขันวัดประสิทธิภาพความแรงและการทรงตัวด้วยการวิ่งทดสอบกับสลาลอมจับเวลาแบบจิมคาน่า ณ ลานอนกประสงค์ จังหวัดเพชรบูรณ์ สื่อมวลชนล้วนได้สัมผัสประสิทธิภาพและทดสอบกันอย่างเต็มที่กันอย่างเต็มที่ทุกแง่ทุกมุมของรถ โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติเดินทางร่วมไปเป็นสักขีพยาน ประกอบด้วยนายวัชระ ธรรมศรี นายกสมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักยานยนต์ไทย และนายพินิต ทองสุข บรรณาธิการบริหารอาวุโสแห่งหนังสือพิมพ์บ้านเมือง

รูปแบบการแข่งขันแบ่งออกเป็นทีม แต่ละทีมมีสมาชิก 3 คน ยนตรกรรมสกายแอคมีฟที่ใช้แข่งขันทั้งหมด 15 คัน เป็นรถยนต์นั่ง Mazda3 SKYACTIV Sport HB 5 ประตู และ SKYACTIV SDN 4 ประตู เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร และสกายแอคทีฟ SUV มาสด้า CX-5 แยกเป็นรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซลสะอาด 2.2 ลิตร และรุ่นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร เริ่มการแข่งขันโดยรถทุกคันเติมน้ำมันเต็มถังจากสถานีบริการน้ำมันปตท. อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี พร้อมควบคุมให้เป็นการขับแบบปกติในชีวิตประจำวันบนถนนจริงที่มีการหยุดรถที่สัญญาณไฟจราจร และการชะลอความเร็วบนเส้นทาง ทั้งใช้ระบบปรับอากาศตามปกติ ปิดกระจกทุกบานและไม่พับกระจกมองข้าง ควบคุมด้วยการติดผนึกแผ่นสติ๊กเกอร์ที่มีคณะกรรมการลงลายมือชื่อรับรองเป็นหลักฐาน กำหนดเวลาของการขับทั้งหมด 2 ชั่วโมง 40 นาที และความเร็วเฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่สำคัญเพื่อความโปร่งใส มีพยานหนึ่งคนนั่งประจำไปด้วยในรถแต่ละคันและช่วยสังเกตการณ์ตลอดการแข่งขัน จุดสิ้นสุดการแข่งขันคือที่สถานีบริการนำมันปตท. จังหวัดเพชรบูรณ์ รวมระยะทางการขับทดสอบประหยัดน้ำมันยาว 148.7 กิโลเมตร

สรุปผลการแข่งขันอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงของยนตรกรรมสกายแอคทีฟ
SKYACTIV SPORTS COMPACT Mazda3 Sports HB เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 27.87 กม./ลิตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 61.69 กม./ชั่วโมง

SKYACTIV SPORTS COMPACT Mazda3 SDN เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.32 กม./ลิตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 67.85 กม./ชั่วโมง

SKYACTIV SUV Mazda CX-5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 18.46 กม./ลิตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 68.44 กม./ชั่วโมง

SKYACTIV SUV Mazda CX-5 เครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซลสะอาด 2.2 ลิตร
อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.40 กม./ลิตร ที่ความเร็วเฉลี่ย 64.59 กม./ชั่วโมง

เมื่อจบการแข่งขันประเภทแรกเรื่องการประหยัดน้ำมันแล้ว มาสด้ายังออกแบบการแข่งขันประเภทที่สอง เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของรถในอีกสองปัจจัย ก็คือ เรื่องของโครงสร้างและระบบช่วงล่างของรถ เป็นการจัดสนามสไตล์จิมคาน่าเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ Skyactiv-BODY โครงสร้างตัวถังรถยุคใหม่ที่แข็งแรงและเน้นความปลอดภัย กอรปกับความก้าวล้ำของวิศวกรรมยานยนต์เรื่องการใช้เหล็กกล้าน้ำหนักเบาที่ทนแรงดึงได้สูงกว่าเหล็กประเภทเดิม เพิ่มจุดยึดแต่ละชิ้นให้มากขึ้นทำให้ได้โครงสร้างตัวถังใหม่ที่ให้เสถียรภาพแก่รถและความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น อีกส่วนของยนตรกรรมสกายแอคทีฟที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ ช่วงล่างสกายแอคทีฟ Skyactiv-CHASSIS ที่ควบคุมการสลายตัวของแรงกระเทือนในแนวดิ่งจากผิวถนนให้กระจายออกจากห้องโดยสารได้อย่างดี ทั้งยังกระจายแรงในแนว ราบระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังได้อย่างดีเช่นกัน ทำให้ยนตรกรรมสกายแอคทีฟเป็นรถที่นั่งสบาย ไม่ทำให้ผู้โดยสารเมารถ ผู้ขับที่รู้สึกได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับรถก็สามารถควบคุมรถได้ง่ายและคล่องแคล่ว

“เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ” ผู้กำหนดนิยามแห่งเทคโนโลยียานยนต์ใหม่
เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ โครงสร้างตัวถัง ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยว ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากมาสด้า ทั้งห้าองค์ประกอบพื้นฐานของรถยนต์ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประโยชน์อย่างยั่งยืนให้แก่ยนตรกรรมรุ่นใหม่หรือรุ่นที่ 6 ของมาสด้า โดยหัวใจของการพัฒนาอยู่ที่การสร้างยนตรกรรมที่ “ทั้งแรงทั้งประหยัด” ในรถคันเดียว ยนตรกรรมที่ยังคงอรรถรสของการขับขี่ เพิ่มคุณค่าการใช้ทรัพยากรพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สกายแอคทีฟเป็นเทคโนโลยีที่รวมไว้ซึ่งทุกความก้าวล้ำของวิศวกรรมยานยนต์ปัจจุบัน และเป็นเทคโนโลยีสีเขียวที่สะอาดและมีราคาสมเหตุสมผล

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G: เครื่องยนต์สันดาปภายในในอุดมคติ
จุดเด่น:
อัตราส่วนการอัดสูงที่สุด 14.0:1
อัตราส่วนการอัดที่สูงเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการออกแบบท่อระบายไอเสียแบบ 4-2-1 ลูกสูบแบบมีโพรง หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงรูละเอียดแบบใหม่ และการป้องกันการเผาไหม้ผิดปกติ (อาการน็อค)
ลดความเสียดทานในเครื่องยนต์ลง 30%
จังหวะการเปิด-ปิดวาล์วตามลำดับแปรผันอย่างต่อเนื่องทั้งด้านไอดีและไอเสีย (Dual S-VT) ลดการสูญเสียพลังงานความร้อนขณะวาล์วปั๊มตัว
ใช้วัสดุน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนแรงดึงสูง: ลดน้ำหนักโดยรวมลง 10%
ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 15% โดยประมาณเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซิน MZR ขนาด 2.0 ลิตร
เพิ่มแรงบิดขึ้น 15% โดยประมาณที่รอบต่ำถึงรอบปานกลาง

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟดีเซลสะอาด SKYACTIV-D: เครื่องยนต์แรงบิดสูง เผาไหม้สะอาด
จุดเด่น:
ลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงลง 20% โดยประมาณเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตร เนื่องจากมีอัตราส่วนการอัดต่ำที่สุด 14.0:1 และยืดช่วงเวลาขยายตัวที่ต่อเนื่องหลังการเผาไหม้ได้นานขึ้น
ปรับระยะยกวาล์วแปรผันด้านไอเสียทำให้สามารถนำไอเสียกลับมาใช้ใหม่ภายใน การเผาไหม้จึงมีเสถียรภาพอย่างทันทีหลังสตาร์ทแม้ขณะเครื่องยนต์เย็น
เทอร์โบชาร์จเจอร์แบบสองขั้น Two-stage Turbocharge ทำให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่องตลอดช่วงความเร็วรอบ (สูงสุด 5,200 รอบต่อนาที)
ลดน้ำหนักเครื่องยนต์ลง 10% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล MZR-CD ขนาด 2.2 ลิตร
ลดความเสียดทานภายในเครื่องยนต์ลง 20%
ใช้เครื่องกรองฝุ่นละอองดีเซลแบบเซรามิกที่ให้ประสิทธิภาพสูง
สามารถผ่านข้อบังคับการปล่อยมลพิษ Euro 6 ของยุโรป, Tier II BIN 5 ของสหรัฐอเมริกา และ Japan’s Post New Long-Term ของญี่ปุ่น โดยไม่ต้องใช้เครื่องบำบัดก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ที่มีราคาแพง

เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ SKYACTIV-AT: รวมข้อดีของเกียร์ทุกระบบไว้ด้วยกัน
จุดเด่น:
ระบบเกียร์ที่โดดเด่นนี้ได้รวมข้อดีของเกียร์ซีวีที (CVT) คลัตช์แผ่นคู่ (Dual Clutch) และเกียร์อัตโนมัติแบบดั้งเดิมเข้าไว้ด้วยกัน
สามารถควบคุมการขับเคลื่อนโดยตรงได้ตลอดช่วงการทำงาน (ทอร์กคอนเวอร์เตอร์ที่มีระบบคลัตช์แบบล็อคอัพตลอดช่วงการทำงาน) จึงให้ของการขับขี่ด้วยเกียร์ธรรมดา ในด้านความแม่นยำของการเปลี่ยนเกียร์ และลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงลง 7% เมื่อเทียบกับเกียร์อัตโนมัติเดิม
ตอบสนองในการเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วและราบเรียบ เนื่องจากใช้โมดูลเมคคาโทรนิกส์แบบใหม่
ทรงกำลัง เร่งดี และอย่างต่อเนื่องตั้งแต่จากจุดออกตัว
ใช้ได้กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน และสกายแอคทีฟดีเซลสะอาด

โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ: SKYACTIV-BODY
จุดเด่น:
ลดน้ำหนักตัวถังลง 8% โดยใช้โครงสร้างที่พัฒนาขึ้นใหม่ จากกระบวนการผลิตแบบใหม่ และเพิ่มสัดส่วนการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูงขึ้น
เพิ่มความแข็งแรงขึ้น 30% ให้พลศาสตร์ของการขับขี่ที่ดีขึ้น ที่เป็นผลมาจากแนวคิด “โครงสร้างตรง” และ “งานโครงกรอบแบบต่อเนื่อง” (โครงสร้างวงแหวน) สำหรับชิ้นส่วนโครงสร้าง
ผ่านการทดสอบสมรรถนะความปลอดภัยหลังการชนขั้นสูงสุด โดยการออกแบบโซนรับแรงปะทะให้มีแนวรับแรงหลากหลายทิศทาง

ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ: SKYACTIV-CHASSIS
จุดเด่น:
คงคอนเซ๊ปต์การขับของ “Jinba-Ittai” – ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันของคนกับรถ อันมีอยู่ในสปอร์ตโรดสเตอร์MX-5 ที่เลื่องชื่อ
เพิ่มคุณภาพการขับขี่ให้ดีขึ้นตลอดช่วงความเร็วรอบใช้งาน ให้ความคล่องแคล่วในช่วงรอบต่ำถึงปานกลาง และให้เสถียรภาพที่รอบสูง จากการออกแบบใหม่ของระบบรองรับด้านหลัง ตำแหน่งของเทรลลิ่งอาร์ม ส่วนประกอบของระบบบังคับเลี้ยว และการตั้งค่าการขับขี่จากทุกองค์ประกอบ
ลดน้ำหนักแชสซีลง 14% โดยพัฒนาระบบรองรับขึ้นใหม่ ได้แก่ สตรัทด้านหน้า และเพลาหลังแบบมัลติลิ๊งค์ จึงได้ช่วงล่างที่มีความแข็งแกร่งและปลอดภัยเพิ่มขึ้น

CR : mazda.co.th





ความรู้เรื่อง การประกันภัยรถยนต์

การประกันภัยรถยนต์ หมายถึง การประกันภัยเพื่อคุ้มครองความสูญเสีย หรือเสียหายอันเกิดจากการใช้รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นเก๋งส่วนบุคคล รถ บรรทุก รถโดยสาร และรถจักรยานยนต์ ซึ่งได้แก่ ความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดแก่รถยนต์ได้แก่ ความเสียหาย บุบสลาย หรือสูญหายของตัวรถยนต์ นอกจากนี้ความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นแก่ชีวิต ร่างกายละทรัพย์สินของบุคคลภายนอก รวมทั้งบุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้นด้วย อ่านเรื่องประกันทั้งหมดคลิก